Smart Ring กับการใช้ AI เพื่อตรวจจับ COVID-19 ก่อนที่อาการจะเริ่มต้น

หนึ่งในส่วนที่ยากที่สุดในการติดตามการระบาดของ COVID-19 คือ วิธีการจะตรวจจับในขณะที่ coronavirus ซ่อนอยู่ในร่างกายมนุษย์

ในบางกรณีอาจใช้เวลามากถึงห้าวัน สำหรับคนที่ติดเชื้อโดย coronavirus ที่จะเริ่มแสดงอาการ ในช่วงเวลาดังกล่าวพวกเขาสามารถแพร่กระจายโรคไปสู่ผู้คนใหม่ ๆ ได้ โดยแทบจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นป่วย

ทีมนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ กำลังพยายามตรวจหาโรคนี้ให้เร็วขึ้นกว่าเดิมโดยการตรวจสอบข้อมูลที่บันทึกไว้โดย อุปกรณ์ที่เรียกว่า Smart Ring ที่สวมใส่ได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถค้นพบผู้ป่วย COVID-19 ได้

“ อาสาสมัครสวม อุปกรณ์ Smart Ring เหล่านี้ และทำการลงแอปของเรา ซึ่งพวกเขาจะได้รับแบบสอบถามในตอนเช้า” Dr. Ali Rezai หนึ่งในนักวิจัยกล่าว  “ห้านาทีในตอนเช้าพวกเขาเล่นเกมบางเกม มันเป็นแอปเกม ซึ่งเรากำลังถามคำถามเฉพาะเนื้อหาสำหรับ COVID”

Rezai ซึ่งเป็นผู้นำโครงการใหม่เป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทที่ West Virginia University Medicine และเป็นหัวหน้าของ WVU Rockefeller Neuroscience Institute เขาและทีมของเขาร่วมมือกับ บริษัท Oura Health ที่ผลิตอุปกรณ์สวมใหม่ได้ซึ่งได้ร่วมมือกัน ผลิตแหวนอัจฉริยะที่บันทึกอุณหภูมิ รูปแบบการนอนหลับ ระดับกิจกรรม และความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง

ร่วมด้วยการฝึกอบรมอัลกอริทึมทางด้านปัญญาประดิษฐ์พร้อมกับข้อมูลทั้งหมด โดยมีการรวบรวมจากผู้ใช้นับหมื่นคนและเรียงลำดับว่า มีการแสดงให้เห็นว่าอาสาสมัครติดไวรัสโดยการตรวจสอบด้วยวิธีมาตรฐานด้วยการ swabs จมูกหรือไม่ Rezai กล่าวว่า เขาเห็นความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของ COVID-19

Smart Ring ที่มาพร้อม App
Smart Ring ที่มาพร้อม App

ตอนนี้ทีมของเขากำลังทดลองใช้ ซึ่งมีแพทย์พยาบาลและคนงานในโรงพยาบาลอื่น ๆ ประมาณ 1,000 คนที่อยู่ในแนวหน้าทำการตรวจสอบทางกายภาพของพวกเขาอย่างต่อเนื่องโดยการสวมแหวน Smart Ring ของ Oura และบันทึกข้อมูลทั้งหมดลงในแอป

จนถึงตอนนี้ Rezai กล่าวว่าแบบจำลอง AI ของเขาสามารถทำนายได้ 24 ชั่วโมงล่วงหน้า ด้วยความแม่นยำถึง 90 เปอร์เซ็นต์

“ เป้าหมายคือการใช้เทคโนโลยี Smart Ring Oura และแอพของเราในการทำนายอาการและระบุผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพแนวหน้าก่อนที่พวกเขาจะมีอาการ” Rezai กล่าว“ และจะช่วยจำกัดการแพร่กระจายที่เกิดขึ้นได้”

ผู้ใช้ Oura Ring ได้โพสต์บน Facebook เกี่ยวกับวิธีที่แหวนของเขาเตือนเขาว่าเขาน่าจะป่วยเร็ว ๆ นี้ ตามความผันผวนของอุณหภูมิ และเขาได้รับการทดสอบด้วยวิธีการ Swaps ทางจมูกสำหรับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ซึ่งสุดท้ายก็ได้ผลเป็นบวกจริง ๆ และเขาสามารถกักกันตัวได้เร็วกว่าหากเขารอให้อาการอื่น ๆ ที่จะเริ่มขึ้นเช่น การเจ็บคอ ไอ หรือการเป็นไข้

จนกว่าเราจะมีวัคซีน Rezai กล่าวว่า , COVID-19 จะไม่หายไปไหน ในระหว่างนี้ เขารู้สึกว่าเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเครื่องมือที่จะทำให้คนปลอดภัย และการใช้เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากเครื่องสวมใส่เช่น แหวน หรือ การอัพเดตจากแอพจะกลายเป็นส่วนสำคัญของการลดการแพร่ระบาดแทบจะทั้งสิ้น

ต้องบอกว่า เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับ Smart Ring ในบทความนี้ เพราะช่วยให้ Detect ผู้ป่วยได้ก่อนที่จะมีอาการออกมาจริง ๆ อย่างที่เราได้เห็นในปัจจจุบันที่แพทย์มักให้สังเกตอาการที่เข้าข่าย และอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ถึงจะมีการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ให้

ซึ่งแน่นอน การรอแบบนั้น ก็จะทำให้กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ สามารถไปเผยแพร่เชื้อให้กับคนอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งกว่าจะรู้ตัวเมื่อมีอาการ เชื้อก็ได้แพร่กระจายไปเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อ Detect ได้ก่อน และให้ความแม่นยำถึง 90% นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะกลุ่มแนวหน้าในการดูแลอย่าง แพทย์ พยาบาล หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เพราะการสูญเสียกลุ่มบุคลากรเหล่านี้ไป โดยเฉพาะการที่เมื่อตรวจเจอหนึ่งคน คนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนก็ต้องถูกกักตัวไปด้วยทำให้ทรัพยากรทางการแพทย์ในแนวหน้าสูญเสียไปอย่างมากนั่นเองครับ

References : https://futurism.com/neoscope/smart-ring-ai-spot-covid19-before-symptoms-begin

Google เป็นแพล็ตฟอร์มที่ดีที่สุด ที่จะช่วยลดการระบาดของไวรัส Covid19

เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนน่าจะสนใจว่า เทคโนโลยีหรือ แพล็ตฟอร์มดัง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น แพล็ตฟอร์มใด สามารถที่จะมาช่วยลดการระบาดของไวรัส Covid19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

แน่นอนว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนั้น ถ้าเป็น แพล็ตฟอร์มระดับโลกอย่าง Google คงไม่มีใครสงสัยในความล้ำหน้าของเทคโนโลยีของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Search , Map หรือ Youtube ที่มีผู้ใช้งานอยู่ทั่วโลก และทำเงินได้มากมายมหาศาล

แล้วทำไม Google ถึงเป็นแพล็ตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระบาดของ Covid19 ที่กระจายไปทั่วโลกในทุกวันนี้

เราต้องอย่าลืมว่า มือถือนั้นกลายเป็นสิ่งพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ทุกคนในปัจจุบัน และมีผู้ที่ใช้งาน Smartphone กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันเสียแล้วด้วยซ้ำ

และที่สำคัญก็คือ ระบบ ปฏิบัติการ Android กลายเป็น ระบบปฏิบัติการหลักที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด หรือแม้กระทั่งมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ อย่าง iOS คนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมใช้บริการต่าง ๆ ของ Google อยู่ดี

แม้เรื่อง Privacy จะเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่เราสามารถที่จะไป Set ได้ไม่ให้ Google มาคอย tracking ตำแหน่งของเรา เวลาใช้บริการของพวกเขา

แต่น้อยคนนัก ที่จะสนใจเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ข้อมูลการ tracking location ว่าเราไปที่ไหนมาบ้าง หรือ ไปทำอะไรมาบ้างนั้น ผู้ที่มีข้อมูลเหล่านี้มากที่สุดคงจะหนีจาก Google ไม่ได้

ซึ่ง location นั้นสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัส ที่กำลังกระจายไปทั่วโลกอย่าง Covid19 เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความไม่รู้ว่าใครติดโรคดังกล่าวบ้าง และเรากำลังอยู่ใน location หรือสถานที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่

Google นั้นรู้หมดว่าเราเคยไปที่ไหนมาบ้าง
Google นั้นรู้หมดว่าเราเคยไปที่ไหนมาบ้าง

หาก Google สามารถแจ้งเราได้ว่า หากพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อและถูก Verified ว่าติดเชื้อแล้วนั้น เราสามารถ tracking ตำแหน่งย้อนหลังพวกเขาได้ทั้งหมด ว่าเขาไปในสถานที่ใดบ้าง และแน่นอนว่า Google นั้นรู้ข้อมูลอยู่แล้วว่าใครเป็นคนที่เสี่ยงกับผู้ป่วยเหล่านั้นบ้าง ผ่านทางการ tracking location นั่นเอง ซึ่ง Google ก็รู้อีกเช่นกันว่าผู้ใช้งานคนไหน เข้าไปอยู่ใกล้ผู้ป่วยที่เสี่ยงเหล่านี้บ้าง

ซึ่งเรื่องนี้ หาก Google มีการร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขในทุกประเทศ และแก้ไข app เพิ่มเติม ให้มีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานโดยตรงได้ทันทีผ่านบริการต่าง ๆ ของพวกเขาที่คนแทบทั้งโลกนั้นใช้กันอยู่แล้ว เมื่อผู้ใช้งานเข้าไปอยู่ใน location ที่เกิดความเสี่ยง หรือ ในสถานที่ที่ ผู้ป่วยที่ได้รับการ Verified ว่าติดเชื้อนั้นเคยไป มันจะมีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid19 ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน

ซึ่งตอนนี้ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาด กำลังทำลายธุรกิจขนาดย่อย ที่เป็นฐานลูกค้าหลักของ Google จนล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมากแล้ว และแน่นอนว่ามันจะส่งผลสะเทือนไปยังรายรับของ Google เองด้วยซ้ำ หากธุรกิจรายย่อยเหล่านี้ล้มหายตายจากไปจนหมดสิ้นนั่นเองครับ

References : https://www.androidcentral.com/how-view-your-location-history-google-maps https://www.ciobulletin.com/it-services/google-establishes-covid-19-fund

Geek Monday EP38 : Coronavirus กับบทบาทของเทคโนโลยีในการลดการแพร่ระบาด

โลกเราได้เรียนรู้ผ่านการระบาดของไวรัสครั้งใหญ่ ตัวอย่างของโรคซาร์ส ในปี 2003 ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างหุ่นยนต์ หรือ Telehealth เพื่อป้องกันการกระจายของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีอย่าง Machine Learning ของ BlueDot ก็สามารถช่วยในการทำนายการแพร่กระจาย ของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในอนาคต ผมก็เชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ จะมีบทบาทที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ ไวรัสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับโลกเราได้น้อยลงเรื่อย ๆ ได้อย่างแน่นอนครับ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน Podbean : http://bit.ly/2OZGeoK

ฟังผ่าน Apple Podcast :  https://apple.co/2lEqPPg

ฟังผ่าน Google Podcast :  http://bit.ly/2SQRbKi

ฟังผ่าน Spotify : https://spoti.fi/323QVf9

ฟังผ่าน Youtube : https://youtu.be/AmNeLdxtT5U

Virus Detector กับ App ช่วยตรวจสอบผู้ใกล้ชิดว่าได้รับเชื้อ Coronavirus หรือไม่

ประเทศจีนได้เปิดตัวแอพที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการแพร่กระจายของ coronavirus โดยแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อพวกเขาอยู่ใกล้กับคนที่ป่วย ตามรายงานใน Xinhua สำนักข่าวของจีน

โดยแอพที่มีชื่อว่า Close Contact Detector ให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะของพวกเขา โดยการสแกนรหัส QR โดยใช้ แอพ เช่น Alipay, WeChat หรือ QQ จากนั้นจะถูกนำไปใส่ชื่อและหมายเลขประจำตัวประชาชนของพวกเขา และสามารถตรวจสอบสถานะของหมายเลข ID อื่น ๆ ได้อีกด้วย

จากข้อมูลของ Xinhua การติดต่ออย่างใกล้ชิดรวมถึงผู้ที่ทำงานร่วมกัน แชร์ห้องเรียน หรืออาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ที่ทำงานกับผู้ป่วยและผู้โดยสารบนระบบขนส่งมวลชน ซึ่งหากแอพพบว่าผู้ใช้อยู่ใกล้กับคนที่มีหรือกำลังแสดงอาการของไวรัสพวกเขาจะได้รับคำแนะนำให้อยู่ที่บ้านทันที

Xinhua ยังไม่เปิดเผยว่าแอปที่พัฒนาโดยรัฐบาลทำงานอย่างไร และเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของการสัมผัสกับผู้ที่ป่วยได้อย่างไร อย่างไรก็ตามที่สำนักข่าว รายงานว่าแอปดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งรวมถึงคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติกระทรวงคมนาคมกระทรวงรถไฟจีน และการบินพลเรือนของจีนเพื่อให้มั่นใจว่า “ข้อมูลเหล่านี้ถูกต้องเชื่อถือได้”

ความต้องการของแอป โดยเฉพาะ เลขประจำตัวประชาชน ทำให้มีข้อกังวลจากนักวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัว

รัฐบาลจีนเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีการเฝ้าระวังในระดับสูงต่อพลเมืองของตน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุด ที่ได้ยืนยันว่าเกิดจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องมีการละเมิดความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล เพื่อหยุดการกระจายของโรคดังกล่าวให้เร็วที่สุดนั่นเอง

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

ถือเป็นแนวคิดที่ดีมาก ๆ ในการลดการแพร่กระจายของ coronovirus ในประเทศจีน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์จะยังไม่สามารถควบคุมได้

แน่นอนว่า การเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานนั้น ก็ต้องมีการเก็บข้อมูลที่มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของสุขภาพ ประวัติการเดินทาง หรือพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ผู้ใช้งาน เข้าใกล้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่ก็ต้องแลกกับเรื่องของข้อมูลส่วนตัว ที่เนื่องจากเป็น แอปที่พัฒนาโดยรัฐบาล ซึ่งอาจจะมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่งก็ต้องเป็นสิ่งที่แลกกันเพื่อให้ประเทศจีน สามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ได้เสียทีนั่นเองครับ

References : https://www.engadget.com/2020/02/12/china-close-contact-detection-app-coronavirus

Robots To The Rescue กับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยลดการแพร่ระบาดของ Coronavirus

เมื่อแพทย์ในโรงพยาบาลวอชิงตันพยายามรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันครั้งแรกของ อู่ฮั่น coronavirus ในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพวกเขาใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Vici ที่อนุญาตให้พวกเขาโต้ตอบกับผู้ป่วยของพวกเขาโดยผ่านหน้าจอ 

อุปกรณ์ telehealth ซึ่งดูเหมือนแท็บเล็ตที่มีล้อที่แพทย์สามารถใช้พูดคุยกับผู้ป่วยและทำหน้าที่วินิจฉัยขั้นพื้นฐาน เช่น การวัดอุณหภูมิของพวกเขา ถือเป็นหนึ่งในเครื่องจักรไฮเทคจำนวนหนึ่งที่แพทย์ พนักงานสนามบิน และพนักงานโรงแรมใช้ เพื่อลดการระบาดของโรคที่ถูกค้นพบในอู่ฮั่นประเทศจีนในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 

“ ผู้ดูแลให้การดูแลภายในหน่วยที่แยกออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่เทคโนโลยีช่วยให้เราสามารถลดจำนวนการสัมผัสอย่างใกล้ชิด” ดร. เอมี่ คอมป์ตัน – ฟิลลิปส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่คลินิกของ Providence Regional Medical Center ในเอเวอเรตต์ วอชิงตัน ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Coronavirus อยู่กำลังรับการรักษาอยู่ในขณะนี้

Vici ผลิตโดยบริษัทด้านเทคโนโลยีสุขภาพในแคลิฟอร์เนีย มีลักษณะคล้ายกับแท็บเล็ตบนล้อและสามารถปกป้องผู้ดูแลจากการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ การลดการแพร่กระจายของไวรัสตัวใหม่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเรายังไม่สามารถสร้างวัคซีนให้แก้ไขมันได้” คอมป์ตัน – ฟิลลิปส์ กล่าว ซึ่งในระหว่างการระบาดของโรคซาร์สไวรัสในโรคซาร์สในปี 2003 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ 

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคบอกว่าเชื้อสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนทำให้อุปกรณ์ telehealth และหุ่นยนต์ที่ลดการสัมผัสของมนุษย์ในโรงพยาบาลเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวได้  

“การไม่ต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกับผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าหน้าที่ ที่ควรจะหลีกเลี่ยง ผู้คนจำนวนน้อยที่สัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จะเป็นสิ่งที่ดีกว่า” Peter Seiff ผู้บริหารของAethon บริษัท เอกชนที่ตั้งอยู่ในเมือง Pittsburgh ที่จำหน่ายหุ่นยนต์ที่เรียกว่า TUG ที่ใช้ในการจัดการเวชภัณฑ์แบบอัตโนมัติทั่วโรงพยาบาล

อุปกรณ์ telehealth Vici และหุ่นยนต์ TUG ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐอเมริกา
อุปกรณ์ telehealth Vici และหุ่นยนต์ TUG ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐอเมริกา

หุ่นยนต์ TUG ของ Aethon ถูกนำไปใช้ในกว่า 140 แห่ง แม้ว่า บริษัท จะไม่แสดงความคิดเห็นว่าอุปกรณ์ดังกล่าวถูกใช้งานในโรงพยาบาลใด ๆ ในสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ซึ่งมีผู้ป่วยมากกว่า 240 รายได้รับการตรวจหา coronavirus ใหม่ ที่ได้ฆ่าชีวิตอย่างน้อย 200 คนในประเทศจีนไปแล้ว 

ตามรายงานข่าวของจีน มีการใช้งานหุ่นยนต์เพื่อส่งมอบอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับผู้ที่สงสัยว่าติดไวรัส หุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า “Little Peanut ” กำลังส่งมอบอาหารให้กับผู้คนที่ถูกกักกันในโรงแรม ขณะที่โรงพยาบาลทางตอนใต้ของจีนได้ใช้งานหุ่นยนต์เพื่อทำการส่งยารักษาโรคและเก็บผ้าปูที่นอนและขยะ

นอกเหนือจากการส่งยา และ การรักษาแบบ telehealth กำลังมีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับหุ่นยนต์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

หุ่นยนต์ Xenex บริษัท ในซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัสซึ่งขายหุ่นยนต์ที่ใช้แสงซีนอน UVC พัลส์ เพื่อกำจัดเชื้อโรคกล่าวว่าอุปกรณ์ของ บริษัท กำลังถูกใช้ในการทำความสะอาดห้องพักในสถานที่ที่มีผู้ป่วยสงสัยว่าติดเชื้อดังกล่าวเช่นเดียวกัน 

“ ทีมวิทยาศาสตร์ของเราได้โทรศัพท์ติดต่อกับโรงพยาบาลเพื่อหารือเกี่ยวกับโปรโตคอลสำหรับการฆ่าเชื้อในห้องและพื้นที่ที่ผู้ป่วยสงสัยได้รับการรักษา” Melinda Hart โฆษกกล่าว “ เราได้ติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาเพื่อสำรวจว่าเราสามารถส่งออกหุ่นยนต์ไปยังประเทศจีนได้เร็วแค่ไหน”

ในขณะเดียวกัน บริษัท Dimer ซึ่งเป็น บริษัท ในลอสแองเจลิสได้เสนอเครื่องฆ่าเชื้อโรคให้กับสายการบินแห่งหนึ่งที่สนามบินนานาชาติของเมืองฟรี โดยปกติอุปกรณ์ GermFalcon ขายในราคา 100,000 เหรียญสหรัฐ ต่อหน่วย 

Dimer GermFalcon ดำเนินการบนเครื่องบินที่ LAX
Dimer GermFalcon ดำเนินการบนเครื่องบินที่ LAX

“ เราได้ทำการฆ่าเชื้อภายใจเครื่องบินขาเข้าจากประเทศจีนที่ LAX ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา” Elliot M. Kreitenberg ประธานของ Dimer กล่าว “เครื่องของเราเหมาะกับการตกแต่งภายในของเครื่องบิน อุปกรณ์ที่ดูเหมือนชิ้นส่วนปริศนา และให้แสงอัลตราไวโอเลตปริมาณสูงแก่พื้นผิวที่คุณสัมผัสมากที่สุดในเที่ยวบินระยะไกลจากประเทศจีน” 

ในขณะที่เครื่องช่วยเหลือเหล่านี้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างหุ่นยนต์ มีมากขึ้น กว่าตอนในช่วงการระบาดของโรคซาร์ส ในปี 2003 ทำให้สามารถช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

แน่นอนว่า โลกเราได้เรียนรู้ผ่านการระบาดของไวรัสครั้งใหญ่ ตัวอย่างของโรคซาร์ส ในปี 2003 ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างหุ่นยนต์ หรือ Telehealth เพื่อป้องกันการกระจายของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ เทคโนโลยีอย่าง Machine Learning ของ BlueDot ก็สามารถช่วยในการทำนายการแพร่กระจาย ของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในอนาคต ผมก็เชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ จะมีบทบาทที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ ไวรัสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับโลกเราได้น้อยลงเรื่อย ๆ ได้อย่างแน่นอนครับ

References : https://www.forbes.com/sites/jilliandonfro/2020/02/02/robots-to-the-rescue-how-high-tech-machines-are-being-used-to-contain-the-wuhan-coronavirus/#6e61b73f1779