ทีเด็ด Apple ปีนี้อยู่ที่ Electrocardiogram

ต้องบอกว่าเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่ได้มานั่งฟัง Live สดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple เพราะ โดยส่วนตัวก็ห่างจากผลิตภัณฑ์จาก Apple มาค่อนข้างนานแล้ว

ปีนี้จึงเป็นปีแรกในรอบหลาย ๆ ปีที่มีโอกาสได้ดู Live ของงาน Apple Event ต้องบอกว่าไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์ จากข่าวหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้เลย ทั้งชื่อรุ่น รูปแบบของ Iphone รวมถึง Spec ต่าง ๆ ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ต้องบอกว่า Apple ลดมนสเน่ห์ของงานนี้ลงไปมาก จากการที่ไม่สามารถจัดการข่าวที่หลุดออกไปได้ก่อนหน้า

ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์เด่น ที่เปิดตัว อย่าง Iphone XS นั้น ต้องบอกว่าโดยส่วนตัวแล้ว ถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง แทบจะไม่มีอะไรว้าว ให้น่ากล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ มีเพียงแค่การเล่นกับเรื่องเดิม ๆ ทั้งเรื่อง spec ที่เพิ่มในแบบ xเท่า ของชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของการ Present ของ Apple ไปเสียแล้ว

รวมถึงการอัด Spec ต่าง ๆ นาๆ ทั้ง 6 CPU เอย  4 GPU เอย ต้องบอกว่า การทำงานนั้น User ทั่วไปแทบจะมองไม่เห็นความแตกต่างอยู่แล้ว คือ Spec ในตอนนี้นั้น ต้องบอกว่า สามารถไปใช้งานเป็น Server ได้แล้วด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ แค่สำหรับ End User ใช้งานมือถือ เท่านั้น ต้องบอกว่าเรื่อง Spec นั้นไม่ได้เป็นจุดเด่นของแต่ละเจ้าอีกต่อไป เมื่อทุกเจ้า สามารถอัดมาได้เหมือนกันหมด จึงแทบไม่เห็นความแตกต่าง ของ Android รุ่นท็อป กับ Apple รุ่นท๊อป อีกต่อไป

พระเอกของงานตัวจริง

ต้องบอกว่า แทบจะไม่มีข่าวหลุดมาเลยสำหรับตัว AppleWatch Series 4 ที่ apple ได้เปิดตัวในปีนี้  ซึ่งทำให้โดยส่วนตัวนั้น เริ่มอยากจะหามาใช้บ้างแล้ว หลังจากไม่เคยชายตามองเลยสำหรับ Apple Watch

ข้อมูลที่เหลือเชื่อมาก  ๆ คือ apple watch นั้นเป็นนาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลกไปแล้วในตอนนี้  ซึ่งไม่ใช่แค่ Smart Watch เท่านั้น แต่ apple ได้ส่วนแบ่งการตลาดของวงการนาฬิกาแบบดั้งเดิมไปได้มากที่สุดไปแล้ว ซึ่งตอนเปิดตัวมาตอนแรก ไม่คิดว่า apple watch จะเดินมาได้ไกลถึงขนาดนี้

ต้องยอมรับว่า apple ทำการตลาดในเรื่อง apple watch มาอย่างดี เน้นไปในเรื่องสุขภาพอย่างเห็นได้ชัด โดยอัดเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เข้าไปมากมายให้กับผู้ใช้ ได้วัดค่าต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ตลาดใหม่ของ apple ซึ่งก็ต้องถือว่า apple watch นั้นเป็นผลงานชิ้นแรก ของ ทิม คุ๊ก หลังจากการจากไปของ สตีฟ จ๊อป ที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยไม่อยู่ใต้เงาของผลิตภัณฑ์ที่ สตีฟ จ๊อบ เป็นผู้สร้างมา

Electrocardiogram กับก้าวที่สำคัญของ Apple Watch

ต้องบอกว่าสิ่งที่ เซอไพรซ์ที่สุดของงานปีนี้ น่าจะเป็น เซ็นเซอร์ ตัวใหม่ของ Apple Watch ซึ่งเรียกว่า Electrocardiogram หรือในศัพท์ทางการแพทย์จริง ๆ ก็คือ การวัด ECG ที่เราใช้ตรวจคลื่นหัวใจเพื่อวัดความผิดปรกติของหัวใจ

ต้องบอกว่า มีผู้คนมากมาย ในโลกนี้ ต้องจบชีวิต ไปอย่างฉับพลัน ด้วยโรคหัวใจ บางคนต้องเสียหัวหน้าครอบครัว สูญเสียคนที่ตัวเองรัก ไปแบบฉับพลัน จากโรคหัวใจ ซึ่งต้องบอกว่าจากความเปลี่ยนแปลงของโลกเราในยุคปัจจุบัน ทั้งเรื่องรูปแบบการกิน รวมถึง รูปแบบการใช้ชีวิต ทำให้คนในรุ่นใหม่ ๆ มีความเสี่ยงกับเรื่องโรคหัวใจมากยิ่งขึ้น

การที่ apple เข้ามาเจาะในตลาด Healthcare อย่างเต็มตัว รวมถึงการเพิ่มความสามารถในส่วนการวัดค่า ECG ได้ หากอย่างที่ Apple โฆษณาจริง ๆ ต้องบอกว่า เป็น Features ที่ปฏิวัติ วงการเลยก็ว่าได้ ให้คนทั่วไปสามารถ คอยมอนิเตอร์ การเปลี่ยนแปลงของคลื่นหัวใจได้ และการทำงานร่วมกับ Apple Watch ก็สามารถทำให้ส่งสัญญาณเตือนให้กับผู้ใช้ได้ โดยหากยิ่งเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจอยู่แล้ว ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจได้อย่างมาก

และไม่ใช่แค่ผู้ป่วยเท่านั้น ที่สนใจที่จะซื้อ apple watch เพราะบรรดาลูกหลานต่าง ๆ ที่เป็นห่วงคุณพ่อ คุณแม่ หรือ คนเฒ่า คนแก่ ก็สามารถที่จะซื้อ apple watch เพื่อคอย มอนิเตอร์ ข้อมูลด้านสุขภาพของคนที่เค้ารักเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งจากในงานนั้น ได้มี หมอด้านหัวใจ ออกมารับรองคุณภาพของตัวเซ็นเซอร์ตัวใหม่นี้ ซึ่งคิดว่า apple คงได้ทำการทดสอบมาอย่างดีแล้ว และทีสำคัญ ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ซึ่งคิดว่า เมื่อมีการวางขายอย่างเป็นทางการของ Apple Watch Series 4 แล้วนั้น คงทำให้รายได้ของ apple เติบโตไปอีกก้าวอย่างแน่นอน ไม่ได้พึ่งเพียงแค่ผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Iphone เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

References : apple.com

 

 

เมื่อ Apple ไม่ใช่ผู้นำด้าน Innovation อีกต่อไป

จบไปแล้วสำหรับงาน Apple Event ที่มีการถ่ายทอดสดผ่าน Streaming เมื่อคืนนี้ ให้สาวกชาว apple ได้นอนดึกกันอีกครั้ง ซึ่งสำหรับปีนี้นั้น ยังไม่มี Main Product ที่ทำให้ร้อง wow เหมือนตอนที่ Steve Jobs ยังอยู่อีกเช่นเคย ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเป็นสเน่ห์ของ apple ในอดีต รวมถึงข่าว leak ต่างที่หลุดออกมาจนไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์กันเหมือนในอดีตซึ่งช่วงหลังมานี้ไม่สามารถควบคุมข่าวความลับของบริษัทได้เหมือนในอดีตซึ่งทำให้ส่วนนี้ขาดเสน่ห์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเป็นอย่างมากหลังจากสิ้นสุดยุค Steve Job สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่ที่น่าสนใจจากเมื่อคืน

  • IPAD PRO

ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงตัวใหม่ที่ apple เปิดตัวมาหลังจากมีข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้ซักช่วงหนึ่งแล้ว สำหรับตัว ipad pro นั้นถูกพัฒนามาเพื่อให้ใช้งานสำหรับกลุ่ม enterprise หรือ มืออาชีพ มากกว่า user แบบ consumer ทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าเปิดตัวมาราคาค่อนข้างแรงมาก start ที่ 799$ ซึ่งเป็นราคาที่ user ทั่วไปคงต้องคิดหนักที่จะซื้อมาใช้งานจริง ๆ จัง ๆ  ด้วยขนาดหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว นั้น ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลยที่จะใช้ในการพกพาทั่วๆ ไปแบบ ipad รุ่นเดิม คิดว่าทำมาเจาะกลุ่มตลาดองค์กร หรือ enterprise user มากกว่า

  • Apple Pencil

ชัดเจนได้เลยว่ามันเป็นการขัดกับแนวทางที่ apple เคยพร่ำบอกมาตลอดว่าใครจะมาใช้ปากกา เมื่อตอน galaxy note ออกใหม่ๆ  จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าช่วงหลัง apple เป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ ต้องคอยนำแนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วทำตามเสียมากกว่า ทั้ง apple pencil , หรือ keyboard รูปแบบใหม่นั้นจะเห็นได้ว่ามันควรจะมีมาตั้งนานแล้ว ดังตัวอย่างทั้งใน galaxy note และ microsoft surface  แต่ถือเป็นสิ่งที่ดีกับผู้บริโภค ที่ apple เริ่มทำในสิ่งที่ควรทำซะที

  • The new Apple TV

ถือเป็นการเดินหมายที่ถูกต้องอย่างยิ่งสำหรับ apple ที่ได้ทำการซื้อ siri เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ product main หลักเนื่องจากในอนาคต คิดว่า siri จะมีบทบาทสำคัญกับ product ของ apple แทบทุกตัว เมื่อการใช้งานด้วยเสียงนั้นเข้ามามีส่วนสำคัญกับชีวิตประจำวันเรามากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ apple tv ตัวใหม่ที่เปิดตัวมา ซึ่งถือว่าเป็น product ที่ apple ออกลูกกั๊ก มานาน ไม่ค่อยพัฒนาต่อซักเท่าไหร่ แต่รอบนี้ถือว่าทำการบ้านมาได้ดีระดับหนึ่งกับการเปิดตัว home entertainment center ตัวใหม่ที่มาพร้อม siri รวมถึง remote รูปแบบใหม่ที่ทำให้ user สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าถึง casual game ต่างๆ  ที่สามารถเล่นร่วมกับ remote ได้อย่างดี ส่วนนี้คิดว่าคงเลียนแบบมากจากความประสบความสำเร็จของ Wii ยุคแรก แต่คงไม่ได้คิดจะไปต่อกรกับศึก console รุ่นใหญ่อย่าง xbox one หรือ ps4 คงเน้นเกมส์ที่เล่นเป็นครอบครัวมากกว่า ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็น highlight ของงานเมื่อคืนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ของ innovation นั้นก็แทบไม่ได้มีอะไรใหม่เหมือนเคย ถ้าคนที่ใช้ android box tv อยู่แล้วนั้นคงจะไม่มีอะไรน่า เซอร์ไพรซ์เลย เพราะทุกอย่างที่ apple tv มีนั้น แทบจะมีอยู่ทั้งหมดอยู่แล้วใน android tv box แต่หากจะหาส่วนที่เป็น key จริง ๆ ที่ทำให้แตกต่างนั้นก็คงเป็นความสามารถของ Siri ที่นำมาใช้ร่วมกับ apple tv ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าทางฝั่ง android

  • iphone 6s

สำหรับ product สุดท้ายอย่าง iphone 6s , 6s plus นั้น จากการที่นำมาเปิดตัวหลังสุดในงานก็พอจะบอกอะไรได้หลายอย่างว่า iphone 6s นั้นก็ไม่ได้มีอะไรปรับปรุงใหม่ที่เห็นอย่างได้ชัดเจน ซึ่งก็ถือว่าเป็นรอบการพัฒนาของ apple อยู่แล้วในช่วงหลัง ๆ มาจะออก main product ปีเว้นปี  ปีที่แล้วหลังจากเปิดตัว iphone 6 อย่างยิ่งใหญ่ปีนี้ก็เป็นเพียงการ minor change บางส่วน เช่น ประสิทธิภาพของกล้อง , วัสดุใหม่ , รวมถึงเพิ่มสีใหม่เข้ามาใน line product และส่วนที่น่าสนใจคือ force touch ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักการ touch ที่หน้าจอที่แตกต่างกันได้ ส่วนนี้ก็คิดว่าทาง application ทั้งหลายก็ต้องมีการ update เพื่อให้ใช้งาน function force touch ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยรวมนั้น ก็ถือว่า ไม่ได้มีอะไรใหม่มากมายในปีนี้สำหรับ iphone 6

สุดท้ายหากเรามองในแง่ของรายได้ของ apple นั้น ตั้งแต่ สิ้นสุดยุค Steve Job นั้นในแง่รายได้ก็ยังเติบโตอยู่เรื่อย ๆ และในปีนี้ก็เช่นกัน คงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในการปฏิบัติงานในตำแหน่ง CEO ของ Tim Cook เลย ซึ่งคิดว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของ apple ก็คงพอใจการทำงานของ Tim Cook อยู่ หากแต่ว่าการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นนวัตกรรมจริง ๆ นั้นเริ่มลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบก็จะคล้าย ๆ ยุคของ Steve Ballmer  ของ microsoft นั้นเองซึ่งในยุคแรก ๆ หลังเปลี่ยนผ่านมาจาก bill gates นั้นก็คงไม่มีใครสงสัยในความสามารถของ Ballmer แต่อย่างใด สามารถทำรายได้ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดมา แต่ปัญหาจริง ๆ แล้วบริษัท it ส่วนใหญ่นั้นต้องมี innovation ใหม่ ๆ สม่ำเสมอ เพราะ Technology ในยุคนี้เป็นสิ่งที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมากและการเข้ามาของคู่แข่งใหม่ ๆ นั้นก็ไม่ยากเย็นแต่อย่างใดเหมือนในอดีต ด้วยการเข้าถึง Infrastructure ที่ถูกลง

หากเรามองสถานการณ์ตอนนี้จะเห็นได้ว่า  apple นั้นก็คงยังไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่มันเป็นเป็นปัญหาระยะยาวต่างหากที่ apple มีโอกาสที่จะประสบชะตากรรมเดียวกับ microsoft ในอดีตก็เป็นไปได้  ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นคิดว่าตอนนี้ apple เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ ที่ต้องให้คนที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานสูงอย่าง Tim Cook ดูแลไปก่อนเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อยู่ แต่คนที่มีบทบาทในอนาคตจริง ๆ และแทบจะออกหน้าตลอดเวลานั้นคือ Jony Ive ต่างหากจะเห็นได้ใน Video Presentation นั้นจะมี Ive เป็นหลักเสมอมา เหมือนเป็นตัวตายตัวแทน Job ซึ่งคิดว่า CEO คนต่อไปของ apple คงจะหนีไม่พ้น Jony Ive อย่างแน่นอน หลังจาก Tim Cook สร้างความแข็งแกร่งในด้านการบริหาร และ การจัดการต่าง ๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อนของ apple เสร็จสิ้น ผมมองว่าเขาคงจะมอบต่อตำแหน่ง CEO ให้กับ  Jony Ive อย่างแน่นอน และเมื่อนั้น apple อาจจะเปลี่ยนเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Innovation เหมือนยุค Steve Job ก็เป็นได้