สมราคาเต็งหนึ่ง

ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีที่มาแรงจริง ๆ สำหรับทีมของเป๊บ อย่าง แมน ซิตี้ หลังจากความผิดหวังในฤดูกาลที่แล้ว ที่ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใด ๆ ได้เลย ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ๆ ของเป๊บเลยก็ว่าได้ที่ไม่สามารถทำทีมได้แชมป์อะไรติดมือเลย หลังจากเริ่มคุม บาร์เซโลน่ามา

ลีคอังกฤษนั้นคงไม่ง่ายแน่ ๆ สำหรับเป๊บ ที่ประสบความสำเร็จมามากมายทั้งกับ บาเซโลน่า และ บาเยิน มิวนิค ที่เก็บถ้วยแชมป์มาเป็นว่าเล่น แต่จากฤดูกาลแรกที่คุมแมนซิตี้ นั้น ก็คงต้องยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ได้เป็นงานที่ง่ายเลยสำหร้บเป๊บ กับ ลีคอังกฤษ แม้จะได้เงินเสริมทัพมากมาย แต่ก็สร้างผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลที่แล้ว

แต่ปีนี้ เหมือนอะไรหลาย ๆ อย่าง จะเริ่มลงตัว เป๊บ เริ่มปรับตัวกับลีคอังกฤษได้ ก็เริ่มผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มเห็นสไตล์การเล่นแบบดุดัน ในการคุมทีมจากเป๊บ แบบชัดเจนในปีนี้  จากผลงานล่าสุดในการเจอกับเชลซีนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทีมของเป๊บ นั้นเล่นได้ดีกว่ามาก แม้จะเป็นทีมเยือนก็ตาม สามารถกดดันทีมแชมป์เก่า อย่างเชลซี จนไปไม่เป็น จนสุดท้ายก็ได้ประตูชัย และชนะไปได้อย่างสวยงาม ทั้งรูปเกมส์ที่เป็นต่อ และ สกอร์ที่สมควรชนะได้

บ่อนการพนันของอังกฤษก็ยกให้แมน ซิตี้ เป็นเต็ง 1 มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งก็ตามฟอร์มในตอนนี้ เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ทีมที่เล่นได้ดีที่สุดใน 7 นัดแรกของฤดูกาล นั้น ต้องยกให้กับทีม แมน ซิตี้ จริง ๆ ทั้งความโหดในแนวรุก รวมถึง การเริ่มมีเกมรับที่ลงตัว หลังจากลงทุนกับแผงหลังไปเป็นจำนวนมากในฤดูกาลนี้ รวมถึง เหล่ากำลังสำรองนั้น ถือว่าเป็นนักเตะเกรด A ล้วน  ๆ สามารถทดแทนกันได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าเทียบกับ แมนยู นั้น ถือว่าทีมของเป๊บ ยังเป็นต่ออยู่พอสมควร จากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา และ เนื่องจากแมนยู นั้น มีโปรแกรมที่ค่อนข้างเบาในช่วงต้นฤดูกาล ทำให้สามารถเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า หากเจอทีมระดับท๊อป แมนยู จะสามารถคงฟอร์มต่อเนื่องได้หรือไม่ ซึ่งแมนยู น่าจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการลุ้นแชมป์กับ แมน ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ และ คิดว่าคงจะลุ้นกันไปได้แบบยาว ๆ จนถึงปลายฤดูกาลอย่างแน่นอน

Image Ref : https://www.standard.co.uk

บทสรุป Season 2016-2017

ปิดท้ายฟุตบอลอังกฤษ ด้วยถ้วยใบสุดท้ายคือ FA Cup ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง Arsenal ที่เป็นเจ้าพ่อถ้วยนี้ กับ เชลซี แชมป์ พรีเมียลีค ปีล่าสุด ที่มาด้วยความพร้อมที่จะคว้า double Champ ในปีแรกของ กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้

เกจิทั้งหลายต่างฟังธงไว้อย่างแน่นอนว่า เชลซี จะคว้า Double Champ ในปีนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น เนื่องจากสภาพทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์กว่า Arsenal อยู่มากในการเจอกันในรอบชิงปีนี้

แต่เกมส์นี้ ต้องยอมรับในการวางแผนของ เวนเกอร์ ที่หลังจากปรับมาใช้กองหลังสามคน เลียนแบบ เชลซี ผลงานก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ชนะมารวด ๆ  หลายเกมส์ติด มีแพ้ สเปอร์ เพียงเกมส์เดียวท้ายฤดูกาล ส่วนเจ้าตำหรับอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้นั้น หลังจากเกมส์ที่แพ้ Arsenal เมื่อกลางซีซั่น ถึง 3-0 ก็ได้ปรับไปใช้แผนถนัดหลัง 3 คน จนฟอร์มกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และปาดหน้าคว้าแชมป์ไปไม่ได้อย่างไม่ยากเย็น

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเกมส์กับ Arsenal เมื่อกลางซีซั่นนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเชลซีเลยก็ว่าได้ ทำให้ปรับแผนใหม่และฟอร์มดีต่อเนื่องจนคว้าแชมป์ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ต้องถือว่า Arsenal เป็นทีมที่ส่งให้เชลซีคว้าแชมป์ พรีเมียลีค ปีนี้กลาย ๆ ก็ว่าได้

สำหรับเกมในนัดชิงนั้นต่างออกไป เนื่องจากใช้แผนเดียวกัน จึงวัดกันที่ ฟอร์มของนักเตะ ซึ่งถือว่า วันนี้นักเตะของอาเซน่อลเล่นได้ท๊อปฟอร์มทุกคน และได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะมีข้อกังขาบ้างในเรื่องการล้ำหน้า แต่ ฟอร์มในครึ่งแรกนั้นก็เล่นได้อย่างดุดัน น่าจะได้อีกหลายประตู ที่เฉียดไปเฉียดมาที่หน้าปากประตูของเชลซี

ครึ่งหลัง คอนเต้ เริ่มปรับเกมส์มาเล่นได้ดีขึ้น จนมาตามตีเสมอได้ในช่วงท้าย ๆ เกมส์ แต่อาเซน่อล ก็มาได้ประตูชัยจนได้จาก อารอน แรมซี่ย์ ผู้ซึ่งฤดูกาลนี้ โอกาสที่ได้เล่นนั้นน้อยมาก เพิ่งจะมาได้เล่นตอนปรับมาเล่นหลัง 3 ตัว และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดชิง และยิงประตูชัย พาทีมคว้าแชมป์ ครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปีได้สำเร็จ ถือเป็นผลงานปลอบใจแฟน ๆ อาเซน่อลในปีนี้ ที่พลาดตั๋ว แชมเปี้ยนลีคไปอย่างเฉียดฉิวในนัดสุดท้าย

ปีนี้นั้น ถือว่าเป็นปีที่แข่งขันกันแย่งชิงหัวตารางเพื่อโควต้าแชมเปี้ยนลีคได้สูสีจนสิ้นสุดฤดูกาล ถือเป็นฤดูกาลที่ แฟนหลายทีมประสบความสมหวัง และผิดหวัง

ที่สมหวังน่าจะเป็นแฟน เชลซี สเปอร์ และ ลิเวอร์พูล ที่ได้เข้าไปเล่น แชมเปี้ยนลีคได้สมใจ ส่วนแฟนแมนยูนั้นถึงจะไม่ได้โควต้าโดยตรง แต่ผลงานของมูรินโย่ ในปีแรกถือได้ว่าไม่ขี้เหร่ ได้ทั้งแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ และ ยูโรป้า ลีคไปครอง และคว้าโควต้า แชมป์ ยูโรป้า ไปเล่น แชมเปี้ยนลีคได้สำเร็จ

ส่วนที่น่าผิดหวังน่าจะเป็นแฟนทีม แมน ซิตี้ ที่แม้จะได้กุนซืออย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า รวมถึงการทุ่มทุนซื้อนักเตะโดยใช้เงินไปสูงที่สุด แต่ผลงานน่าผิดหวังทั้งในเกมส์ลีค และ แชมเปี้ยนลีค ไม่สมกับที่ลงทุนไปมากโข ซึ่งก็ทำให้ เป๊ป กวาดิโอล่าได้รู้รสชาติของฟุตบอลอังกฤษที่ไม่ง่ายเหมือนลีคอื่นๆ  ที่ขับเคี่ยวกันไม่กี่ทีม แต่ในพรีเมียลีค นั้นทุกทีมพร้อมสู้ตาย เพื่อรายได้มหาศาลจากส่วนแบ่งลิขสิทธิ์

ส่วนอาเซน่อลนั้น ถึงจะได้แชมป์ FA Cup มาปลอบใจ แต่ผลงานก็ถือว่าน่าผิดหวัง ซึ่งปีนี้ก็ลงทุนไปไม่น้อยกับนักเตะใหม่ แต่ผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพิ่งจะมารีดฟอร์มช่วงท้ายฤดูกาล แต่ก็ไม่ทันต้องจบด้วยอัน 5 ต้องไปเล่น ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า ซึ่งความเห็นส่วนตัว เล่นยูโรป้า ต้องเตะวันพฤหัส ทำให้มีโอกาสได้พักน้อยกว่า ทำให้ปีหน้าในลีก น่าจะลำบากไปอีกปี ถ้าไม่ได้ไปเล่นยูโรป้า จะดีเสียกว่าอีก จะได้ทุ่มให้กับลีก แบบเดียวกับที่เชลซีทำในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ

Credit Image : dailymail.co.uk