Geek Book EP14 : CHIP WAR #1 เมื่อ Key หลักของการพัฒนาประเทศคือการถูกเลือกเป็นฐานผลิตชิปของอเมริกา

ทุกวันนี้ ต้องขอบคุณกฎของมัวร์ เซมิคอนดักเตอร์ถูกฝังอยู่ในอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต้องใช้พลังในการประมวลผล และในยุคของ IoT มันหมายถึงอุปกรณ์แทบทุกชนิด แม้แต่ผลิตภัณฑ์อายุร้อยปี เช่น รถยนต์ ก็ยังมีชิปมูลค่าหนึ่งพันดอลลาร์ GDP ส่วนใหญ่ของโลกผลิตขึ้นจากอุปกรณ์ที่ใช้เซมิคอนดักเตอร์ 

ประเทศในเอเชียตะวันออกพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาเอง แต่สามารถประสบความสำเร็จเมื่อพวกเขารวมตัวเองเข้ากับห่วงโซ่อุปทานของ Silicon Valley อย่างลึกซึ้ง  ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมชิปโดยให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทต่าง ๆ ให้ทุนสนับสนุนโครงการฝึกอบรม รักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้ต่ำ กลยุทธ์นี้ทำให้มีความสามารถบางอย่างที่ไม่มีประเทศอื่นเลียนแบบได้ แต่พวกเขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเขามีร่วมกับ Silicon Valley โดยยังคงพึ่งพาเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ และลูกค้าของสหรัฐฯ เป็นหลัก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3WnGtdn

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://bit.ly/3W0ClAi

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3FynzJZ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://bit.ly/3j8FgIO

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/01uO1r_lnnk

References Image : https://www.protocol.com/policy/chip-war-chris-miller

Binance x FIFA กับจุดตัดสำคัญขององค์กรที่คิดว่าตัวเองมีความอิสระไร้ซึ่งการตรวจสอบ

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งสำหรับแพล็ตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance ที่ กำลังเจอมรสุมรุมเร้าอย่างหนักอึ้ง

ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Proof of Reserve ที่มีการตั้งข้อสงสัยจากการตรวจสอบบัญชีโดย Mazars มีการถูก FUD ข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินไหลออกจากแพล็ตฟอร์มจำนวนมหาศาลสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก

แต่ข่าวที่น่าสนใจที่สุดสำหรับประเด็นร้อนในตอนนี้ผมว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องข่าวที่สื่อใหญ่อย่าง Coindesk และ Reuters ลงข่าวว่า Binance และเหล่าผู้บริหารรวมถึงผู้ก่อตั้งอย่าง Changpeng Zhao (CZ) ที่อาจจะถูกจับกุมและถูกปรับในข้อหาฟอกเงิน

แล้วทำไมมันถึงน่าสนใจ ต้องบอกว่ามันมีหลายเคสที่เคยเกิดขึ้น ที่หน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ เคยจัดการองค์กรที่ตั้งตัวเองเป็นอิสระ ที่คิดว่าไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้อย่าง FIFA ก็ยังเคยโดนเล่นงานโดย FBI บุกจับเหล่าผู้บริหารในนประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาก่อนหน้านี้แล้ว

ประเด็นคือทำไมองค์กรที่เหมือนมีอำนาจล้นฟ้าอย่าง FIFA และแทบจะไม่ขึ้นตรงต่อหน่วยงานใด ๆ ในโลก ต้องถูกจับกุมล็อตใหญ่กลายเป็นประเด็นที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก

เพราะประเด็นสำคัญที่หน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะมันเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินนั่นเอง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับสหรัฐอเมริกา เพราะประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว (CR:The Mirror)
ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว (CR:The Mirror)

การสืบสวนสอบสวนในเชิงลับ มีมาก่อนหน้าหลายปี ก่อนที่จะมีการจับกุมกันจริง ๆ ในปี 2015 มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FIFA ถูกตั้งข้อกล่าวหาหลายคน โดยเกี่ยวข้องกับการรับสินบนและการฟอกเงิน

แต่ประเด็นก็คือมันมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากสาเหตุที่ว่าประเทศที่มีความพร้อมเป็นอย่างมากอย่างสหรัฐอเมริกา แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับกาตาร์ในการพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กำลังจัดกันอยู่ในตอนนี้

ตอนนั้นเรียกได้ว่าสหรัฐอเมริกามีความมั่นใจมาก ๆ ว่าจะได้เป็นเจ้าภาพแน่ ๆ ด้วยความพร้อมทุกอย่างทั้งเรื่องสนาม โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ระบบขนส่งมวลชนที่พร้อมมาก ๆ แต่กลายเป็นว่ากาตาร์ ประเทศที่แทบไม่มีความพร้อมใด ๆ จะจัดช่วงกลางปีเหมือนในทุก ๆ ครั้งพวกเขายังไม่สามารถทำได้เลยแต่กลับได้รับชัยชนะในการถูกคัดเลือกเป็นเจ้าภาพได้อย่างน่าประหลาดใจ

นั่นเองที่ไม่แปลกเมื่อ เริ่มมีมูลเกี่ยวกับทุจริต การฟอกเงิน และใช้สถาบันการเงินของสหรัฐในการกระทำการดังกล่าว พวกเขาก็จัดการทันทีและได้รับไฟเขียวจากทางการเมืองให้จัดการ FIFA ได้แบบช็อคชาวโลกกันเลยทีเดียว

เมื่อลองมาไล่ประเด็นที่เกิดขึ้นกับ Binance เรื่องการฟอกเงินไม่ต้องห่วง มันมีอยู่ 100% ในแพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหล่านี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักธุรกิจสีเทา ไม่ต้องดูตัวอย่างไกลในไทยก็ยังมี แถมกลายเป็นคนดังเสียด้วย ใช้การฟอกเงินผ่านคริปโตเหล่านี้ กลายเป็นคนที่ใสสะอาดได้หน้าตาเฉย

แพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่กลายเป็นแหล่งฟอกเงินที่สำคัญ (CR:Reuters)
แพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่กลายเป็นแหล่งฟอกเงินที่สำคัญ (CR:Reuters)

เพราะฉะนั้นข่าวการสอบสวนที่มีรายงานจาก Reuters ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2018 ที่มุ่งเน้นไปที่ Binance ที่เกี่ยวกับกฎหมายการต่อต้านการฟอกเงิน

โดยมีการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้หลายๆ คน รวมถึงเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงอดีตที่ปรึกษาของ Binance ซึ่งน่าจะมีการขุดคุ้ยเรื่องราวภายในของ Binance อยู่เบื้องหลังมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว

แถมประเด็นการล่มสลายของ FTX ที่มีเรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องแบบเต็ม ๆ เนื่องจาก sam bankman-fried (SBF) นั้นบริจาคเงินมหาศาลให้นักการเมืองเพื่อพยายามล็อบบี้เรื่องของหน่วยงานกำกับดูแล

เพราะฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ผมคิดว่าอยู่ที่การตัดสินใจของคนมีอำนาจของหน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ เพียงเท่านั้น ว่าจะเล่นงาน Binance เมื่อไหร่ เพราะยังไงอำนาจของพวกเขาก็ไปถึงและสามารถรจัดการได้แน่นอนถ้าจะเล่นงานจริงเหมือนเคสที่เคยเกิดขึ้นกับ FIFA นั่นเองครับผม

References :
https://www.reuters.com/markets/us/us-justice-dept-is-split-over-charging-binance-crypto-world-falters-sources-2022-12-12/
https://www.theguardian.com/football/2015/may/27/several-top-fifa-officials-arrested
https://www.theguardian.com/football/2017/nov/06/fifa-scandal-fbi-new-york-trial-chuck-blazer-sepp-blatter
https://cointelegraph.com/news/binance-s-proof-of-reserves-raises-red-flags-report
https://www.technopixel.org/billion-dollar-money-laundering-alleged-about-binance/

Geek Book EP13 : Disrupting The Game โดย Reggie Fils-Aimé กับเส้นทางจากบรองซ์สู่จุดสูงสุดของ Nintendo

Reggie Fils-Aimé เป็นผู้นำที่โด่งดังของ Nintendo ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมาถึงบริษัทในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ของบริษัท เมื่อได้รับการปฏิวัติที่นำโดย Satoru Iwata หลังจากยุคที่ท้าทายของ GameCube ในการเผชิญกับการแข่งขันใหม่จาก Xbox ของ Microsoft และ Sony PlayStation 2 ที่เอาชนะได้ทั้งหมด

Fils-Aimé ก็ปรากฏตัวบนเวทีอย่างมีชื่อเสียงในงาน E3 2004 แนะนำตัวเองด้วยคำพูดที่ชัดเจนและตำนานการเตะตูด และเปิดเผย Nintendo DS จากกระเป๋าของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากลายเป็นคนสำคัญของ Nintendo โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมเมอร์ในอเมริกาและยุโรป

‘Disrupting the Game, From the Bronx to the Top of Nintendo’ จะทำให้เราได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิหลังของ Fils-Aimé และอาชีพก่อน Nintendo ทั้งความกล้าหาญ ความคิด และความมุ่งมั่น ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร 

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3FOseZC

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://bit.ly/3VWT5bB

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3HwFdR2

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://bit.ly/3WwRXLZ

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/JduvqVMuW2M

References Image : https://www.nintendolife.com/reviews/disrupting-the-game-from-the-bronx-to-the-top-of-nintendo-reggie-fils-aime

เมื่อมังงะจากญี่ปุ่น กำลังถูกท้าทายครั้งสำคัญโดย webtoon จากเกาหลีใต้

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับสำหรับอุตสาหกรรมที่ถือได้ว่าใหญ่ไม่ใช่น้อยอย่างการ์ตูน ที่ตอนนี้มังงะจากญี่ปุ่นได้ถูกเบียดตกจากบัลลังก์โดย webtoon จากเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เป็นสองชาติที่ขับเคี่ยวในด้านต่างๆ กันอย่างดุเดือดทั้งเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมต่าง ๆ รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ บันเทิง หรือแม้กระทั่งล่าสุดการ์ตูน

ตลาดของมังงะได้หดตัว 2.3% เหลือเพียงแค่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ webtoon พุ่งทะยานสู่มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะพุ่งทะยานไปจนมูลค่าสูงถึง 56 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2030

มันคล้ายๆ กับในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ญี่ปุ่นมักจะก้าวช้าอยู่เสมอ ด้วยความยึดติดจากโลกอนาล็อกแบบเดิม ๆ ทำให้พวกเขาก้าวพลาดมาก ๆ ถูกทั้ง Samsung , LG เข้ามาครอบครองส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่โลกดิจิทัลที่เกาหลีมีความได้เปรียบกว่ามาก

เฉกเช่นเดียวกันกับมังงะ ก็กำลังคืบคลานอย่างช้า ๆ เพื่อก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล เพราะส่วนใหญ่นั้นมังงะยังคงถูกออกแบบมาสำหรับการพิมพ์ จึงไม่สะดวกที่จะอ่านบนสมาร์ทโฟน เพราะตัวอักษรมักจะเล็กเกินไปและต้องมีการซูมเข้าซูมออกอย่างต่อเนื่อง

แม้ webtoons เช่น “Itaewon Class” และ “Solo Levelling” จะกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น แต่ผู้จัดพิมพ์ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ยังดื้อรั้นกับมังงะ เพราะอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเป็นแแบบอนุรักษ์นิยมมาก

รูปแบบธุรกิจของอุตสาหกรรมมังงะซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารรายสัปดาห์และจากนั้นในหนังสือ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960

นั่นทำให้คนที่อ่านมังงะได้มีแค่ คนญี่ปุ่น เกาหลี และพวก geek ทั่วโลกเพียงเท่านั้น ในขณะที่ webtoon เติบโตอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรวดเร็วและร้อนแรง เนื่องจากสามารถอ่านได้ง่ายและเข้าใจได้ง่ายกว่า

เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ ที่ นักวาดการ์ตูนมังงะแบบดั้งเดิมชาวญี่ปุ่นกำลังจะยกตลาดการ์ตูนทั่วโลกให้กับนักนวัตกรรมชาวเกาหลีใต้

การส่งออกทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ของเกาหลีใต้นั้นเรียกได้ว่า ทิ้งห่างญี่ปุ่นไปไกล ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ชื่อดังอย่าง “Squid Game” ของ Netflix หรือ วงบอยแบนด์ BTS ที่ทำให้โลกต้องตกตะลึงด้วยการผสมผสานนวัตกรรมและการตลาดอัจฉริยะที่อยู่เบื้องหลัง และกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งกับ webtoon

ในขณะเดียวกัน กลยุทธ์ “Cool Japan” ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ตั้งใจเลียนแบบความสำเร็จของเกาหลีกลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

แต่อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมมังงะก็ยังคงรักษาจุดแข็งของพวกเขาเอาไว้ได้ ด้วยรูปแบบที่มีความซับซ้อนที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่มีความซับซ้อนได้ และมังงะหลายเรื่องก็เป็นศิลปะที่มีความมหัศจรรย์ด้วยงานสร้างสรรค์ที่มีความพิถีพิถัน

ด้วยเรื่องราวและฝีมืองานวาดที่มีความแข็งแกร่งทำให้มังงะสามารถรักษากลุ่มลูกค้าภายในประเทศได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งทำให้เหล่าสำนักพิมพ์ต่างๆ มีแรงจูงใจน้อยมากที่คิดจะเปลี่ยนแปลงให้ทันกับโลกภายนอกที่กำลังถูกรุกรานจาก webtoon ของเกาหลี

มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่มังงะยังคงความอนุรักษ์นิยมไว้เช่นนี้ มันก็ไม่ต่างจากสิ่งที่แบรนด์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ แบรนด์ของญี่ปุ่นยังคงยึดถือกับโลกอนาล็อกและไม่แปรเปลี่ยนไปตามวิถีของโลกดิจิทัลที่เกาหลีใต้นั้นมีความถนัดกว่า

ตอนนี้มันก็มาถึงอุตสาหกรรมที่สำคัญอีกอย่างนึงของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในอนาคต webtoon จะแซงหน้ามังงะและยึดครองตลาดส่วนใหญ่ของโลกได้สำเร็จเหมือนกับในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ของเกาหลีหรือไม่ เวลาจะเป็นคำตอบนั่นเองครับผม

References :
https://www.economist.com/asia/2022/12/08/japanese-manga-are-being-eclipsed-by-korean-webtoons
https://www.koreatimes.co.kr/www/culture/2022/03/199_311789.html

Geek Monday EP158 : โมเดล Free-to-play และ In-game purchases เข้ามาครอบงำอุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้อย่างไร

ท่ามกลางความนิยมของเกมและแพลตฟอร์มเกมที่เล่นฟรีและดาวน์โหลดได้ เช่น “Fortnite” “League of Legends” และ Roblox แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่วิดีโอเกมชื่อดังจะเปิดตัวในตอนนี้โดยไม่มีกลยุทธ์การชำระเงินแบบประจำ ซึ่งห่างไกลจากการซื้อเกมแบบสแตนด์อโลนซึ่งครอบงำอุตสาหกรรมวิดีโอเกมในทศวรรษที่แล้ว

เกมมือถือแซงหน้าการเติบโตของตลาดวิดีโอเกมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และคาดว่าจะใช้เงินทั่วโลก 136,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เทียบกับ 86,000 ล้านดอลลาร์สำหรับพีซี คอนโซล และเกมพกพาคอนโซลรวมกัน ศึกษาโดย data.ai และ IDC

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3W4eyQd

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://bit.ly/3Y7PWr7

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3W6jJP8

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://bit.ly/3BqqVh9

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/-O0YMVE4sfc