Apple ได้ลงนามกับสุดยอดเทคโนโลยีลับ คือ ฮาร์ดไดร์ฟขนาดจิ๋วของโตชิบา เพื่อให้ได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการใช้ฮาร์ดไดร์ฟดังกล่าว และไม่ให้ใครสามารถเลียนแบบได้นั่นเอง ถึงตอนนี้เราจะเห็นได้ว่า Apple ได้สุดยอดเทคโนโลยีทั้งสองไม่ว่าจะเป็น FireWire ที่ Apple เป็นเจ้าของเอง รวมถึง ฮาร์ดไดร์ฟ ขนาดจิ๋วจากโตชิบา ที่ตอนนั้นก็ยังไม่มีใครคาดคิดว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร
และสถานการณ์ในตอนนั้น Apple ได้เห็นเส้นทางที่จะกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับ Apple ต่อจากนี้ แล้ว Microsoft ที่ตอนนั้นยังแทบไม่สนใจตลาดด้านนี้เลยด้วยซ้ำ จะมาข้องเกี่ยวกับ ธุรกิจนี้ได้อย่างไร ไปรับฟังกันต่อได้เลยครับผม
เป็นปัญหาที่เพื่อนร่วมงานที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาของเธอแบ่งปัน ความกังวลเกี่ยวกับการออกเสียงผิดทำให้พวกเขาต้องกลับมาเรียนในชั้นเรียน MBA ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
และในเวลาต่อมาหลังจากเข้าสู่โลกการทำงาน งานที่ทำอย่างการเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการมักถูกมองข้ามหรือที่แย่ไปกว่านั้น Van กล่าวว่าเธอแทบไม่ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าเธอเลย
และถ้ามันเป็นปัญหาสำหรับเธอ มันก็เป็นปัญหาสำหรับคนอื่น ๆ เช่นกัน จากจำนวนผู้พูดภาษาอังกฤษประมาณ 1.5 พันล้านคนทั่วโลก World Economic Forum ประเมินว่ามีมากกว่า 1 พันล้านคนไม่ใช่เจ้าของภาษาหรือเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
ดังนั้น Van จึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยคิดหาเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งสามารถตรวจจับภาษาอังกฤษที่ใช้งานไม่ได้ของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ และเสนอโซลูชันที่ง่ายต่อการปฏิบัติตามในราคาเพียงเศษเสี้ยวของการต้องจ้างติวเตอร์
แม้จะไม่มีประสบการณ์ AI หรือแมชชีนเลิร์นนิง Van รู้ว่าเธอมีงานด้านเทคโนโลยีที่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของเธอกลายเป็นจริง
หลังจากลาออกจากงานที่ปรึกษาเธอใช้เวลาหกเดือนถัดไปในการควานหาผู้ร่วมก่อตั้งด้านเทคนิค เธอได้มองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการจดจำเสียงผ่านเทคโนโนลี AI ทุกคนในพื้นที่ Bay Area เพื่อคุยถึงแนวคิดดังกล่าว
ในที่สุดการค้นหาของ Van ก็นำเธอไปสู่เยอรมนี ซึ่งได้เป็นเจ้าภาพในการประชุมเทคโนโลยีการจดจำเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลังจากที่ศาสตราจารย์ด้านเทคนิคแนะนำเธอว่า ”ถ้าคุณไม่พบใครที่นั่นคุณก็อาจต้องปิดบริษัทไปเลย”
ภายในไม่กี่สัปดาห์เขาตกลงที่จะร่วมงานกับเธอทิ้งครอบครัวของเขาไว้ที่โปรตุเกสชั่วคราวและย้ายไปอยู่ที่อพาร์ทเมนต์เล็ก ๆ ในซานฟรานซิสโกของ Van เพื่อการเป็นหุ้นส่วนและสร้างแนวคิดดังกล่าวขึ้นมาให้เป็นจริง
“ELSA เป็นหนึ่งในการลงทุนครั้งแรกของเราในเวียดนามซึ่งเราได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากความเชื่อมั่นของ Van และ Xavier ในการแก้ปัญหาที่แท้จริงสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษกว่า 1.5 พันล้านคน” Peng T. Ong ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Monk’s Hill Ventures กล่าว
ซึ่งความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก Gradient Ventures ที่เน้นไปที่ด้าน AI ของ Google ได้รับเงินทุนทั้งหมดที่ระดมทุนได้มากกว่า 12 ล้านดอลลาร์และทำให้ ELSA เข้าถึงทีมเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ Google เพื่อช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบ็กเอนด์
คุณแม่คนใหม่ยังกล่าวอีกว่า ELSA กำลังสำรวจนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยให้แอปรายงานข้อเสนอแนะตามการสนทนาตลอดทั้งวันได้แบบ Real Time ซึ่งการเพิ่มเติม Features ดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามกฎความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างใกล้ชิด
ข่าวล่าสุดบริษัทเพิ่ง ได้ระดมทุน Series B มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์นำโดย VI (Vietnam Investments) Group และ SIG ผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ รวมถึงนักลงทุนของ Google Gradient Ventures, SOSV และ Monk’s Hill Ventures พร้อมด้วย Endeavour Catalyst, Globant Ventures และ U2’s The Edge (David Evans)
ต้องบอกว่าถือเป็นอีกหนึ่งแพล็ตฟอร์มที่น่าจับตามอง ที่มองเห็น pain point ที่สำคัญอย่างเรื่องภาษาอังกฤษ ที่เป็นปัญหาที่มีอยู่ทั่วโลก เรียกได้ว่า ELSA นั้น เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ดี