ในขณะที่ผู้นำทั่วโลกเพิ่งจะเข้าใจถึงความรุนแรงและความหายนะทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในปี 2020 โมฮัมเหม็ดก็ยังรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องราวดราม่าภายในเครือราชวงศ์
ความผิดหวังกับราคาน้ำมันที่ตกต่ำ เพื่อให้บรรลุความฝันทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาต้องการเงินลงทุนมากกว่านี้หลายแสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่เพียงแค่ 25,600 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับจากการทำ IPO ของ Aramco
ราคาน้ำมันที่ตกลงไปต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าระดับที่เขาต้องการในการสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ทั้งหมดในคราวเดียวกัน
นั่นทำให้โมฮัมเหม็ดต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบ 5 ปีในฐานะผู้ปกครองราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียแบบวันต่อวัน การพูดคุยกับรัสเซียจบด้วยความล้มเหลว เขาสั่งให้พี่ชายที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเพิ่มอุปทานเพื่อกดดันตลาด
เมื่อตลาดเปิดในวันจันทร์ถัดมา ราคาน้ำมันได้ลดลงมากกว่า 20% และยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ โมฮัมเหม็ดหวังว่าการกดดันราคา จะทำให้บริษัทบางแห่งในสหรัฐอเมริกาต้องออกจากธุรกิจ
แม้ว่าซาอุดิอาระเบียพึ่งพารายได้จากน้ำมันมากกว่าประเทศอื่นใดในโลก ในการแก้ปัญหาของโมฮัมเหม็ด เขาได้ใช้แหล่งเงินทุนของราชอาณาจักรไปอย่างมหาศาล
แต่มันเป็นการตัดสินใจอย่างกล้าหาญของโมฮัมเหม็ด เขาเดิมพันครั้งใหญ่กับความอยู่รอดของอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย บริษัท น้ำมันทุกแห่งทั่วโลกต่างสาปแช่งชื่อของเขาและประเทศต่าง ๆ อาจล้มละลายได้จากการกระทำของเขาเช่นเดียวกัน แต่ถ้ามันหมายถึงสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอาณาจักรซาอุฯ มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
โมฮัมเหม็ดเริ่มคิดว่าปี 2020 จะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูตำแหน่งของเขาในโครงสร้างอำนาจโลก การละทิ้งสงครามเยเมน เรื่องอื้อฉาวคาชอกกี และข่าวร้ายๆ เกี่ยวกับการคุมขังเหล่าเครือญาติ จะต้องถึงเวลาเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่
เขากำลังวางแผนสำหรับการประชุม G-20 ในริยาด ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะทำให้ซาอุดิอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลและเป็นประเทศที่มีอำนาจต่อโลกเราในอนาคต
ภายในราชอาณาจักรเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บางส่วนของริยาด และเมืองใหญ่อื่น ๆ เริ่มมีลักษณะคล้ายกับดูไบมากขึ้น ผู้ชายปะปนกับผู้หญิง แทบจะไม่มีการสวมผ้าคลุมศรีษะในร้านอาหารและแหล่งชอปปิ้ง นักท่องเที่ยวเริ่มที่จะหลั่งไหลเข้ามาโดยได้รับแรงกระตุ้นจากคนดังใน Instragram ที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียจ่ายเพื่อทำการโปรโมตประเทศ
ในขณะเดียวกับกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ มีเป้าหมายที่จะตามล่าหา Deal ข้อตกลงใหญ่ ๆ ที่สามารถทำให้ซาอุดิอาระเบียกลับมาอยู่ในแผนการลงทุนได้ มีเงินลงทุนใหม่สำหรับการลงทุนที่มีรายละเอียดสูง เช่น การซื้อทีมฟุตบอลนิวคาสเซิลในประเทศอังกฤษ
เหล่านายธนาคารชื่อดังเริ่มกลับมาสนใจริยาด มีการพูดถึงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเริ่มดึงดูการเข้ามาลงทุนในอาณาจักรเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญยังได้พิสูจน์ให้เหล่านักวิจารณ์มากมายเห็นว่า โมฮัมเหม็ด ไม่ใช่มือใหม่ทางด้านการเงินอีกต่อไป
มีมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่เพิ่งได้ไปพบกับโมฮัมเหม็ด และเชื่อว่าตอนนี้เขาอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ผู้นำอย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากช่วง 2-3 ปีแรก ที่เพิ่งเข้ามามีอำนาจ ที่ความรู้บางอย่างของเขายังตื้นเขินนัก
แม้แผนการหลาย ๆ อย่างของโมฮัมเหม็ดในปี 2020 จะต้องถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เศรษฐกิจโลกต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะที่ผู้คนหลายล้านคนต้องตกงาน หรือ หยุดงานเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัส และไม่ให้ระบบการแพทย์ต้องล่มสลายลงไป
หลายสัปดาห์หลังจากสงครามน้ำมัน โมฮัมเหม็ดได้ผลักดันราคาให้ต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบสองทศวรรษ
เขาตกลงที่จะลดการผลิตอย่างรวดเร็วและรุนแรงหลังจากการสนทนากับ จาเร็ด คุชเนอร์ ซึ่งได้พูดคุยกับคู่ค้าจากรัสเซียที่แสดงความไม่เห็นด้วย สงครามน้ำมันครั้งนี้ได้ทำลายบริษัทอเมริกันในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังสั่นคลอนจากการแพร่ระบาด
แม้ว่าสงครามราคาน้ำมันครั้งนี้อาจทำให้ซาอุดิอาระเบียเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ แต่อย่างน้อยโมฮัมเหม็ดก็สามารถมั่นใจได้ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการเตือนให้โลกรู้ว่าโมฮัมเหม็ดมีอำนาจเหนือตลาดโลกมากเพียงใดนั่นเองครับผม
แล้วเราได้อะไรจากการเรื่องราวของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน จาก Blog Series ชุดนี้
ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องราวที่เราทุกคนควรที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศซาอุดิอาระเบียและการก้าวขึ้นมาสู่อำนาจของโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในประเทศที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มากว่าหลายทศวรรษ ด้วยเศรษฐกิจที่แต่เดิมนั้น มีการพึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว นี่คือตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของประเทศหนึ่ง ที่พลิกประเทศด้วยการมีผู้นำที่เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว และกล้าตัดสินใจทำอะไรใหม่ ๆ ให้กับประเทศ แบบที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน
และการได้เรียนรู้จากชายคนนี้ ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับชีวิตของชายคนนี้ ที่มีความน่าสนใจ การเติบโตมาแตกต่างจากเหล่าราชวงศ์คนอื่น ๆ ที่มักจะไปเติบโตซึมซับความรู้ความเข้าใจมาจากต่างประเทศ
แต่กลับกัน โมฮัมเหม็ด เป็นเพียงชายที่เติบโตมาในประเทศของเขา เรียนรู้ ซึมซับการใช้อำนาจผ่านบิดาของเขาอย่างกษัตริย์ซัลมาน มันคือความแตกต่าง เพราะหากใช้การปกครองรูปแบบเดิม ๆ มันก็คงจะได้ผลเหมือนเดิมแบบที่กษัตริย์อับดุลลาห์องค์ก่อนเคยพยายามจะทำ แต่ก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับประเทศ
ต้องบอกว่า โลกเรา มีเพียงผู้นำไม่กี่คนในโลก ที่มีทั้งอำนาจ เงินตรา และการตัดสินใจต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบรุนแรงต่อความเป็นอยู่ของคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เช่น น้ำมัน หรือ การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลก เช่น เรื่องของเทคโนโลยี ที่ใช้เงินทุนของโมฮัมเหม็ดมาเปลี่ยนแปลงโลกเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมามากมายทั่วโลก
Blog Series ชุดนี้ ทำให้เราได้เข้าใจ และเข้าถึง ผู้นำรุ่นเยาว์คนใหม่ ที่มีความทะเยอทะยานความกล้าหาญ ที่สุดคนหนึ่งของโลก และแน่นอนว่าชายผู้นี้จะมีมีบทบาทที่สำคัญต่อโลกเราในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า และโลกของเราจะพลิกโฉมหน้าไปแบบที่ไม่เคยใครคาดคิดมาก่อน ผ่านน้ำมือของชายคนนี้อย่างแน่นอนครับผม
<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 : Prologue
อย่าลืมติดตามผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปของผมก่อนใครได้ที่ blockdit นะครับ โหลดได้เลย
อย่าลืม ค้นหา “ด.ดล Blog” แล้ว กด follow กันด้วยนะครับผม