Movie Review : คําสาปมรณะจากหญิงร่ำไห้

ต้องบอกว่าผมไม่ได้เขียน Review หนังมานานมากแล้ว และช่วงหลัง ๆ ภารกิจค่อนข้างรัดตัวทำให้ไม่ได้มีโอกาสไปดูหนังในโรงซักเท่าไหร่ แต่สำหรับหนังผีเรื่องนี้ The Curse of the Weeping Woman หรือในชื่อไทย คําสาปมรณะจากหญิงร่ำไห้ นั้น พอดีเพิ่งได้มีโอกาสดูเมื่อคืน จึงอยากจะมา Review ให้ฟังกันเสียหน่อย เนื่องจากผมค่อนข้างเป็นแฟนพันธ์แท้สำหรับหนังผีอยู่แล้ว

หลังจากได้พออ่านจากกระแสตามเว๊บไซต์ ต่าง ๆ ที่ Review ออกมาค่อนข้างดี และเป็นเรื่องราวที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับ The Conjuring ที่เป็นหนังที่เรียกได้ว่าเป็นหนังขึ้นหิ้งแล้วสำหรับหนังเกี่ยวกับผีจากโลกตะวันตก

แม้ในเรื่องล่าสุดอย่าง The Nun นั้นจะไม่ได้ประทับใจมากเท่าที่ควร แต่ เรื่องนี้ มีหลายคนบอกให้ไปดู หากเป็นคนชอบหนังผี ก็ไม่ควรพลาดเลยก็ว่าได้ ยิ่งทำให้อยากดูมาก ๆ แต่เวลาไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าที่ควร จนหนังใกล้จะลาโรงแล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากเท่าที่เช็ครอบ เหลือเพียงรอบเดียวและฉายเพียงโรงเดียวเท่านั้นที่ โรงเจ้าประจำที่ผมดูอย่าง เมเจอร์ รัชโยธิน

เรื่องย่อ 

เรื่องราว ลาโยโรนา หญิงร่ำไห้ วิญญาณร้าย เธอติดอยู่ในโชคชะตาอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของตนเอง คำกล่าวขานเรื่องราวของเธอโด่งดังทั่วโลกมายาวนาน เมื่อยามมีชีวิต เธอกดลูกตัวเองจมน้ำจากความโกรธแค้น และกระโดดลงสู่สายน้ำอันปั่นป่วนขณะร่ำไห้อย่างเจ็บปวด ยามนี้ เธอร่ำไห้นิรันดร และหากใครที่ได้ยินเสียงเพรียกแห่งความตายยามค่ำคืนของเธอต้องพบจุดจบ เธอคืบคลานในความมืด เรียกร้องหาเด็ก ๆ เพื่อนำมาแทนที่ลูกของตน ยิ่งเวลาผ่านไปนับศตวรรษ ความปรารถนาของเธอกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น รุนแรงยิ่งขึ้น และวิธีการของเธอก็น่ากลัวยิ่งขึ้นทุกที

ปี 1970 ที่ลอสแองเจลิส ลาโยโรนา แฝงกายในความมืด ติดตามเด็กชายที่ไม่สนใจฟังคำเตือนอันน่าขนลุกของนักสังคมสงเคราะห์สาวผู้เป็นมารดา ที่คาดว่าลูกของตนกำลังอยู่ในอันตราย ไม่ช้าเธอและลูกของเธอก็ถูกดึงเข้าสู่ดินแดนเหนือธรรมชาติสุดสะพรึง ซึ่งเธอคิดว่า ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของพวกเธอที่จะรอดจากความแค้นของ La Llorona อาจเป็นนักบวชผู้ไม่แยแสโลกและฝึกฝนเวทมนตร์เพื่อรับมือปีศาจนั่นเอง

ตัวหนังมีองค์ประกอบหนังผีครบครัน เรียกได้ว่าไม่เคยเจอหนังผีแบบนี้มานานมากแล้วด้วยซ้ำ ทั้งฉากน่ากลัวๆ ผีมาไม้เว้นแม้แต่กลางวันก็ตาม ทั้งจังหวะตุ้งแช่ ที่เรียกได้ว่าบางครั้งแทบจะจับทางไม่ติดว่าจะผีจะโผล่ออกมา ได้ยินเสียงกรี๊ดจากทั้งโรงเป็นระยะ ๆ 

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นผมว่าหนังทำได้ดีมาก ที่เดินเรื่องแบบเป็นเส้นตรง ไม่มีหักมุมใด ๆ ทั้งสิ้น แทบจะไม่ต้องเดาเลยด้วยซ้ำว่าจะจบอย่างไร แม้ดารานักแสดงนั้น ดูเหมือนการที่มีนักแสดงหลักเพียงไม่กี่คน แต่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้หนังผีเรื่องนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นหนังผีแห่งปี 2019 เลยก็ว่าได้สำหรับความเห็นส่วนตัวของผม ที่ได้รู้สึกเต็มอิ่มกับความเป็นหนังผีจากหนังเรื่องนี้มาก ใครที่ยังไม่ได้ดูอยากให้แนะนำไปดูเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนรักหนังผี 

Trailer 

Paypal Mafia ตอนที่ 9 : Keith Rabois

Keith Rabois นั้นเป็นหนึ่งในทีมงานของ paypal ที่จัดการเรื่องการกำหนดนโยบายที่สำคัญ ๆ ของบริษัท โดยเขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย stanford ในสาขารัฐศาสตร์ ต่อด้วยการเรียนจบทางด้านกฏหมายที่ Harvard Law School สถาบันด้านกฏหมายอันดันหนึ่งของอเมริกา

หลังจากเรียนจบด้านกฏหมายจาก Harvard เขาก็ได้เข้ามาทำงานในสำนักงานกฏหมายชื่อดังอย่าง Sullivan & Cromwell โดยเน้นไปทางด้านคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา

หลังจากนั้นเขาก็ได้มาทำงานด้านการเมือง โดยเป็นคนช่วยในการร่างสุนทรพจน์ของรองประธานาธิบดี Quayle รวมถึงงานด้านสื่อคอยตตอบข้อซักถามของสื่อเกี่ยวกับนโยบายของรองประธานาธิบดี

หลังจากทำงานด้านการเมืองได้เพียงปีเดียวเท่านั้น เขาก็เข้าสู่แวดวงธุรกิจอีกครั้งที่ Voter.com บริการเว๊บท่าที่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเขามีบทบาทสำคัญในการปรับรูปแบบธุรกิจของ Voter.com จากเว๊บท่า ไปสู่การทำการตลาดผ่าน email 

และในปี 2000 เขาได้เข้ามาร่วมงานกับ paypal ในตำแหน่ง Business Development เพื่อเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขันกับ ebay , VISA และ MasterCard รวมถึงการจัดการเรื่องกฏระเบียบทางการเงินต่าง ๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้น ทำหน้าที่ในการล็อบบี้เหล่าสมาชิกสภาคองเกรสกว่า 70 คน รวมถึงการประสานกับเหล่าวุฒิสมาชิก 20 คนในการจัดการเรื่องกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงินให้ paypal สามารถเติบโต และสามารถทำกำไรได้ในที่สุด

หลังจาก paypal ถูกขายให้ ebay ในปี 2002 แล้วนั้น Rabois ก็ได้ย้ายมาทำงานกับ LinkedIn ที่เป็น Social Network ของมืออาชีพ โดยเขาเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ LinkedIn นั้นมีผู้ใช้งานเติบโตขึ้นจาก 1.5 ล้านคนไปจนถึง 10 ล้านคนในช่วงปี 2007

ย้ายไปร่วมงานกับ LinkedIn
ย้ายไปร่วมงานกับ LinkedIn เครือข่ายสังคมออนไลน์ของมืออาชีพ

Rabois ถูกยกย่องว่าเป็นผู้นำแนวคิดในการทำการตลาดโฆษณาออนไลน์ ที่ล้ำสมัยที่สุดคนหนึ่ง และยังเป็นคนที่กำหนดแนวคิดสำคัญในเรื่อง Premium Subscriptions ซึ่งเป็นโมเดลการทำงานอย่างนึงของ LinkedIn โดยยังเป็นแหล่งรายได้หลักของ LinkedIn มาจวบจนถึงปัจจุบัน

หลังจากการทำงานที่ LinkedIn เขาก็ได้เข้าร่วมงานกับ Jack Dorsey ที่กำลังสร้างผลิตภัณฑ์ชำระเงินรูปแบบใหม่อย่าง Square โดยรับตำแหน่ง COO (Chief Operating Officer)  เขาได้เข้าร่วมงานกับ Square ในช่วงตั้งไข่ของบริษัท ตั้งแต่มีลูกค้าทดลองใช้งานเพียงแค่ 841 ราย โดยขณะนั้น Square มีพนักงานรวมทั้งสิ้นแค่ 24 คนเท่านั้น

เขาได้ช่วย Jack Dorsey ในการขยายตลาดของ Square อย่างรวดเร็ว จนพนักงานมีถึงกว่า 440 คน ทำให้ Square มีการใช้บริการผ่านอุปกรณ์ของ Square เป็นจำนวนเงินมากกว่า 12 พันล้านเหรียญ ซึ่งทำให้มูลค่าของ Square เพิ่มจาก 40 ล้านเหรียญจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 3.6 พันล้านเหรียญ

เข้าร่วมงานกับ Square จนมูลค่าบริษัทสูงขึ้นถึง 3.4 พันล้านเหรียญ
เข้าร่วมงานกับ Square จนมูลค่าบริษัทสูงขึ้นถึง 3.6 พันล้านเหรียญ

สำหรับงานด้านการลงทุน เขายังเข้าร่วมงานกับ Khosla Ventures ในตำแหน่ง Managing Director และเข้าร่วมในฐานะคณะกรรมการของบริษัท Scribd หลังจากที่ Khosla Ventures ได้กลายเป็นบริษัทลงทุนหลักของ Scribd

ในปี 2014 Rabois เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Opendoor ซึ่งเป็น Marketplace ของ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ 

และเขายังเป็นนักลงทุนในสเตจแรกของหลาย ๆ ธุรกิจเกิดใหม่ชื่อดัง โดยเป็น Angel Investor ของทั้ง Youtube , Airbnb , Palantir , Eventbrite , Lyft ,Quora , Yammer , Skybox, Counsyl , Weebly , Wish รวมถึง Eventbrite

–> อ่านตอนที่ 10 : Reid Hoffman

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Jawed Karim *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***