Geek Daily EP23 : เมื่อ AI ด้าน HR ทำนายได้ว่าผู้สัมภาษณ์งานคนใดมีแนวโน้มที่จะย้ายงานบ่อย

นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของ COVID-19 บริษัท จำนวนมากได้หันมาใช้ AI เพื่อช่วยในการจ้างงาน ระบบที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวข้องกับการใช้อัลกอริธึมทางด้าน AI เพื่อช่วยพิจารณาว่าผู้สมัครคนใดมีแนวโน้มที่จะมีความภักดีกับบริษัทนาน ๆ

การสร้างรูปแบบการเรียนรู้ด้วยเครื่องใหม่ (Machine Learning) ที่พยายามทำนายโอกาสที่ผู้สมัครจะได้งานและทำการเปลี่ยนงานบ่อยกว่าความต้องการของนายจ้าง เพราะการเก็บรักษาพนักงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับหลาย ๆ บริษัท โดยประมาณที่ 16% ของต้นทุนของเงินเดือนพนักงานแต่ละคน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการหาพนักงานที่มีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรนาน ๆ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3k7zAL2

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/2BTuIrA

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2XqaSMh

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/N67VKy1DZ8Y

References : https://www.technologyreview.com/2020/07/24/1005602/ai-hiring-promises-bias-free-job-hopping-prediction/
https://www.peoplematters.in/site/interstitial?return_to=%2Farticle%2Ftalent-acquisition%2Fhow-ai-is-transforming-the-hiring-process-16517

หากเงินเดือนเป็นเรื่องเปิดเผย

เรื่องของเงินเดือนนั้นมักจะเป็นเรื่องลึกลับในองค์กร ที่ถูกบอกกล่าวกันมาว่า หากเรามีการทราบเงินเดือนซึ่งกันและกันในบริษัทนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาในทีมขึ้นมาได้ทันที แต่นี่กลับกลายเป็นความเสียเปรียบอย่างนึงของมนุษย์เงินเดือน ที่องค์กรกำลังเอาเปรียบอยู่ผ่านวิธีการบอกไม่ให้เราไปรับรู้เงินเดือนของคนอื่น ๆ 

ลองกลับกัน ถ้าทุกคนรู้รายได้ของเพื่อนร่วมงานทุกคน มันก็จะเหมือนวงการฟุตบอลที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือ พอเพื่อนร่วมทีมเราได้เยอะ ก็จะมีการขอปรับเยอะขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้เงินเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างสถานการณ์ค่าตัวรวมถึงค่าเหนื่อยนักฟุตบอลในยุคปัจจุบัน ซึ่งใครจะคิดว่านักเตะอย่าง Theo Walcott จะมีรายได้ถึง 100,000 กว่าปอนด์ได้

เพราะความที่นักบอลเค้ารับรู้รายได้กันหมด ที่สำคัญยังมีการประกาศผ่านสื่อเรียกได้ว่าเรื่องรายได้ไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับเลยสำหรับนักฟุตบอลหรือนักกีฬาต่าง ๆ  เพราะฉะนั้นเหล่าพนักงาน (นักกีฬา) ก็จะไม่มีใครยอมใคร ก็ต้องมีการเรียกค่าเหนื่อยให้เต็มที่เหมือนกัน โดยมีการเอาเพื่อนมาเปรียบเทียบด้วย ซึ่งถามว่าดีมั๊ยสำหรับลูกจ้าง (นักบอล) ต้องบอกว่าโครตดีเลยแหละ ที่ทำให้ค่าเหนื่อยแพงขึ้นมหาศาลมาก ๆ 

แต่สุดท้ายมันก็ต้องมี Limit ที่องค์กรสามารถจ่ายได้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่องค์กรเสียเปรียบมากในขณะนี้  แต่อย่างไรก็ตามนั้นมันก็ต้องมีเหตุมีผลอย่างน้อยก็ต้องผันตรงกับรายได้ของบริษัทอยู่แล้วเช่นกัน ซึ่งยังไงค่าใช้จ่ายเหล่านี้มันก็ไม่มีทางเฟ้อไปกว่าความสามารถของเจ้าของทีมที่จะจ่ายจริง ๆ อยู่ดี (ขอไม่นับรวมเหล่าเศรษฐีที่มา take over นะครับ เอาเฉพาะทีมที่ทำธุรกิจฟุตบอลจริง ๆ ตัวอย่างเช่น ลิเวอร์พูล , แมนยู ในตอนนี้) ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจนั่นเองว่าทำรายได้มากน้อยเพียงใด

คราวนี้ลองหันกลับมามองที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนล่ะ เช่นกัน ถ้าทุกอย่างมีการเปิดเผยค่าแรงพนักงาน มันก็จะคล้ายกับวงการฟุตบอล และค่าเหนื่อยพวกเราต้องเฟ้ออย่างแน่นอน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบเดียวกับนักบอล (จนกว่าบริษัทจะจ่ายไหวจริง ๆ ) ซึ่งนั่น เราจะได้เห็นมูลค่าที่แท้จริงของเราที่เป็นพนักงานจริง ๆ ว่าเราควรจะมีเงินเดือนหรือค่าเหนื่อยในระดับไหนกันแน่ และบริษัทสามารถจ่ายให้เราจริง ๆ เท่าไหร่นั่นเอง

ซึ่งโดยปรกติส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้มูลค่าตัวเราจริง ๆ ก็ต่อเมื่อตอนที่เรายื่นใบลาออกแล้วได้งานใหม่เท่านั้น มูลค่าที่แท้จริง ๆ ของเราถึงจะปรากฏ เพราะสุดท้ายถ้าคุณเก่งจริง บริษัทก็ต้องสู้เท่าที่เค้าจะสู้ได้จริง ๆ เพื่อไม่ให้เสียคุณไปนั่นเอง

แล้วถึงวันที่เรื่องของเงินเดือน ค่าเหนื่อย ควรเป็นเรื่องเปิดเผยได้หรือยัง เป็นคำถามที่น่าสนใจนะครับ แล้วเพื่อน ๆ มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างเอ่ย?

References Image : https://gagadget.com/media/post_big/apple_EWycVrJ.jpg