บทสรุป Season 2016-2017

ปิดท้ายฟุตบอลอังกฤษ ด้วยถ้วยใบสุดท้ายคือ FA Cup ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง Arsenal ที่เป็นเจ้าพ่อถ้วยนี้ กับ เชลซี แชมป์ พรีเมียลีค ปีล่าสุด ที่มาด้วยความพร้อมที่จะคว้า double Champ ในปีแรกของ กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้

เกจิทั้งหลายต่างฟังธงไว้อย่างแน่นอนว่า เชลซี จะคว้า Double Champ ในปีนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น เนื่องจากสภาพทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์กว่า Arsenal อยู่มากในการเจอกันในรอบชิงปีนี้

แต่เกมส์นี้ ต้องยอมรับในการวางแผนของ เวนเกอร์ ที่หลังจากปรับมาใช้กองหลังสามคน เลียนแบบ เชลซี ผลงานก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ ชนะมารวด ๆ  หลายเกมส์ติด มีแพ้ สเปอร์ เพียงเกมส์เดียวท้ายฤดูกาล ส่วนเจ้าตำหรับอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้นั้น หลังจากเกมส์ที่แพ้ Arsenal เมื่อกลางซีซั่น ถึง 3-0 ก็ได้ปรับไปใช้แผนถนัดหลัง 3 คน จนฟอร์มกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และปาดหน้าคว้าแชมป์ไปไม่ได้อย่างไม่ยากเย็น

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเกมส์กับ Arsenal เมื่อกลางซีซั่นนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเชลซีเลยก็ว่าได้ ทำให้ปรับแผนใหม่และฟอร์มดีต่อเนื่องจนคว้าแชมป์ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ต้องถือว่า Arsenal เป็นทีมที่ส่งให้เชลซีคว้าแชมป์ พรีเมียลีค ปีนี้กลาย ๆ ก็ว่าได้

สำหรับเกมในนัดชิงนั้นต่างออกไป เนื่องจากใช้แผนเดียวกัน จึงวัดกันที่ ฟอร์มของนักเตะ ซึ่งถือว่า วันนี้นักเตะของอาเซน่อลเล่นได้ท๊อปฟอร์มทุกคน และได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะมีข้อกังขาบ้างในเรื่องการล้ำหน้า แต่ ฟอร์มในครึ่งแรกนั้นก็เล่นได้อย่างดุดัน น่าจะได้อีกหลายประตู ที่เฉียดไปเฉียดมาที่หน้าปากประตูของเชลซี

ครึ่งหลัง คอนเต้ เริ่มปรับเกมส์มาเล่นได้ดีขึ้น จนมาตามตีเสมอได้ในช่วงท้าย ๆ เกมส์ แต่อาเซน่อล ก็มาได้ประตูชัยจนได้จาก อารอน แรมซี่ย์ ผู้ซึ่งฤดูกาลนี้ โอกาสที่ได้เล่นนั้นน้อยมาก เพิ่งจะมาได้เล่นตอนปรับมาเล่นหลัง 3 ตัว และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดชิง และยิงประตูชัย พาทีมคว้าแชมป์ ครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปีได้สำเร็จ ถือเป็นผลงานปลอบใจแฟน ๆ อาเซน่อลในปีนี้ ที่พลาดตั๋ว แชมเปี้ยนลีคไปอย่างเฉียดฉิวในนัดสุดท้าย

ปีนี้นั้น ถือว่าเป็นปีที่แข่งขันกันแย่งชิงหัวตารางเพื่อโควต้าแชมเปี้ยนลีคได้สูสีจนสิ้นสุดฤดูกาล ถือเป็นฤดูกาลที่ แฟนหลายทีมประสบความสมหวัง และผิดหวัง

ที่สมหวังน่าจะเป็นแฟน เชลซี สเปอร์ และ ลิเวอร์พูล ที่ได้เข้าไปเล่น แชมเปี้ยนลีคได้สมใจ ส่วนแฟนแมนยูนั้นถึงจะไม่ได้โควต้าโดยตรง แต่ผลงานของมูรินโย่ ในปีแรกถือได้ว่าไม่ขี้เหร่ ได้ทั้งแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ และ ยูโรป้า ลีคไปครอง และคว้าโควต้า แชมป์ ยูโรป้า ไปเล่น แชมเปี้ยนลีคได้สำเร็จ

ส่วนที่น่าผิดหวังน่าจะเป็นแฟนทีม แมน ซิตี้ ที่แม้จะได้กุนซืออย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า รวมถึงการทุ่มทุนซื้อนักเตะโดยใช้เงินไปสูงที่สุด แต่ผลงานน่าผิดหวังทั้งในเกมส์ลีค และ แชมเปี้ยนลีค ไม่สมกับที่ลงทุนไปมากโข ซึ่งก็ทำให้ เป๊ป กวาดิโอล่าได้รู้รสชาติของฟุตบอลอังกฤษที่ไม่ง่ายเหมือนลีคอื่นๆ  ที่ขับเคี่ยวกันไม่กี่ทีม แต่ในพรีเมียลีค นั้นทุกทีมพร้อมสู้ตาย เพื่อรายได้มหาศาลจากส่วนแบ่งลิขสิทธิ์

ส่วนอาเซน่อลนั้น ถึงจะได้แชมป์ FA Cup มาปลอบใจ แต่ผลงานก็ถือว่าน่าผิดหวัง ซึ่งปีนี้ก็ลงทุนไปไม่น้อยกับนักเตะใหม่ แต่ผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพิ่งจะมารีดฟอร์มช่วงท้ายฤดูกาล แต่ก็ไม่ทันต้องจบด้วยอัน 5 ต้องไปเล่น ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า ซึ่งความเห็นส่วนตัว เล่นยูโรป้า ต้องเตะวันพฤหัส ทำให้มีโอกาสได้พักน้อยกว่า ทำให้ปีหน้าในลีก น่าจะลำบากไปอีกปี ถ้าไม่ได้ไปเล่นยูโรป้า จะดีเสียกว่าอีก จะได้ทุ่มให้กับลีก แบบเดียวกับที่เชลซีทำในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ

Credit Image : dailymail.co.uk

วนลูป

กลับเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์อีกครั้งสำหรับทีมรักอย่าง Arsenal ซึ่งให้ความรู้สึกไม่ต่างกับทุกๆ ปีที่ผ่านมาเลย สำหรับฟอร์มในปีนี้นั้นก็แทบไม่ต่างจากหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา

ผลงานที่เริ่มจะร้อนแรงในช่วงแรก ๆ ของทุกปีและมักจะมาเริ่มแผ่วในช่วงต้นปีใหม่ยาวไปถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งก็ไม่รู้จะรักษามาตรฐานแบบนี้ไปทำไม หรือเป็น pattern ของ wenger ไปซะแล้วในช่วงหลัง ๆ แม้ปีนี้จะมีการเสริมทัพที่พอดูได้ขึ้นมาบ้างมีการทุ่มทุนซื้อนักเตะอย่าง มุสตาฟี่ เข้ามา

ซึ่งรวม ๆ นั้นก็ใช้เงินไปไม่น้อยซึ่งสวนทางกับผลงานที่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด การใช้แท็กติก เดิมๆ  ในทุก ๆ แมตช์ ซึ่งแทบจะจับทางได้หมดแล้วไม่ว่าทีมเล็กหรือทีมใหญ่

ก็ต้องรอดูว่าการพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่า แชมเปี้ยนลีคนั้น ผลงานจะเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ดูทรงของทีม ณ ขณะนี้นั้นก็คงไม่น่าจะรอดเงื้อมมือ บาเยิร์น มิวนิค ไปได้ ผลงานก็จะวนลูปเข้าสู่จุดเดิมเหมือนทุก ๆ ปี และสุดท้ายก็กระเสือกกระสนพากลับไปได้เป็นที่ 4 เป็นอย่างน้อยเพื่อเข้าไปแข่งแชมเปี้ยนลีคในปีหน้าอีกเหมือนเคย

แฟน ๆ จำนวนมากเริ่มมีกระแสที่ไม่พอใจ เวนเกอร์ออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งคิดว่าคงจะหมดวัยของ เวนเกอร์แล้วจริง ๆ และน่าจะถึงเวลาได้เปลี่ยนแปลงทีมซักทีในปีหน้า ถ้าปีนี้มือเปล่า คิดว่าเวนเกอร์คงต้องถึงเวลาวางมือแล้วจริงๆ  เพราะฟุตบอลยุคนี้คงไม่เหมาะกับกุนซือแบบเวนเกอร์อีกต่อไปแล้ว

ถึงแม้จะมีความเสี่ยงกับกุนซือใหม่ แต่ก็คงจะดีกว่าการย่ำอยู่กับที่แบบไม่มีลุ้นแบบนี้ไปอีกหลายปีหากเวนเกอร์ยังกุมบังเหียนทีมอยู่ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเวนเกอร์ก็คงจะคิดได้แล้วว่าถึงเวลาที่จะต้องวางมือ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มาสานต่อจริง ๆ จัง ๆ ซักที

Arsenal กับการเริ่มต้นที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง

ออก Start Season ใหม่กันแล้วสำหรับ Premier league ในปีนี้  เนื่องจากผลงานต่อเนื่องจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วทำให้แฟน ๆ อาเซน่อลหลาย ๆ คนก็คงหวังที่จะมาลุ้นแชมป์เต็มตัวได้ในปีนี้หากดูฟอร์มจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว

แต่เป็นเหมือนคำสาปในช่วงหลาย ๆ ปีหลัง อาเซน่อลจะประสบปัญหาการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอตลอดฤดูกาลตลอดมา หากปีไหน Start ได้ยอดเยี่ยมนั้นก็จะมาแผ่วปลายในช่วงท้าย Season ตลอด และหากปีไหน ออก Start ได้แย่นั้น ก็จะมาเร่งตอนปลายฤดูกาลทำให้ผลงานก็วนอยู่ในอันดับ 3-4 ในตลอดช่วงทศวรรษหลัง จากที่ได้แชมป์ลีคครั้งสุดท้ายในปี 2003-2004

ถ้ามองในเรื่องตัวผู้เล่นนั้นจากช่วงปลาย season ที่แล้วนั้น แฟน ๆ ก็คงคิดว่าเราได้ทีมที่ลงตัวแล้วหลังมีปัญหาในเรื่อง midfield ตัวรับมานาน จนได้ ค็อกโกแลงมาอุดรอยรั่วตรงได้อย่างดีทำให้ทีมรับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว สำหรับปีนี้นั้นในช่วงตลาดยังเปิดนั้นอาเซน่อลก็ได้มีข่าวกับนักเตะระดับ world class เป็นจำนวนมาก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มาซักราย ได้มาเพียง ปีเตอร์ เช็ก นายประตูจากเชลซีเท่านั้น ซึ่งใน Season ที่แล้ว Ospina ก็เล่นได้ดีอยู่แล้วเสริมตัวนายประตูเข้ามาก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมซักเท่าไหร่ ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของทีมอยู่ที่กองหน้ามากกว่า

จะเห็นได้ว่า อาเซน่อลนั้นเป็นทีมที่สร้างสรรค์โอกาสการทำประตูได้อย่างมากมายตลอด จำนวน shot ต่อเกมส์นั้นสูงมาก แต่ไม่สามารถแปลให้กลายเป็นประตูได้เนื่องจากขาดกองหน้าระดับ world class ที่จะช่วยทีมให้เข้าใกล้สู้แชมป์มากยิ่งขึ้น จากเกมส์เมื่อคืนจะเห็นได้อย่างชัดเจน หากมีกองหน้าระดับ world class ร่วมทีม น่าจะได้ประตูไม่ต่ำกว่า 6 ลูกอย่างแน่นอน จากจำนวนโอกาสการทำประตูทั้งสิ้น 29 ครั้งซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ในเกมส์ premier league

สำหรับการเริ่มต้นใน Season 2015-2016 นั้น 5 เกมส์แรกที่ผ่านมาคงจะพอบอกอะไร wenger ได้หลายอย่างว่าหากจะคิดมาลุ้นแชมป์กับทีมอย่าง เชลซี หรือ แมนซิตี้นั้น ทีมเราต้องการนักเตะกองหน้าระดับ world class เข้ามาสู่ทีมโดยด่วน  ซึ่งคิดว่าส่วนอื่นๆ  ของทีมนั้นสามารถสู้กับทีมระดับท๊อปของยุโรปได้แล้วขาดเพียงกองหน้าที่จะมาเติมเต็มในจุดนี้  ซึ่งถ้าสภาพทีมยังมีแค่นี้ ก็คงเป็นอีกปีที่เราได้ไป Eufa Champion League ในฐานะทีมอันดับ 3-4 อีกครั้งเหมือน 10 ปีที่ผ่านมา