Geek Daily EP35 : สมองเทียม Plug and Play กับการทดสอบครั้งแรกในผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสาธิตอวัยวะสมองเทียมแบบ“ Plug and Play” ที่ควบคุมโดยผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตเป็นครั้งแรก

ระบบใช้เทคโนโลยี Machine Learning เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยแต่ละคนสามารถควบคุมอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์ด้วยสมอง ซึ่งแตกต่างจากอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมอง (BCI) ส่วนใหญ่ ซึ่งเทคโนโลยี AI ใหม่นี้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องฝึกอบรมใหม่ทุกวัน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3bLrfsz

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3ii6RSg

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/KlXFMwOcORk

การปลูกถ่ายเส้นประสาทกับการช่วยผู้ป่วยอัมพาตให้เคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

Natasha van Zyl ศัลยแพทย์ชาวออสเตรเลีย ได้ช่วยเหลือ ผู้ป่วย 13 ราย ที่มีอาการอัมพาต ให้มีอาการดีขึ้นอย่างมาก หลังจากได้รับการผ่าตัดเพื่อถ่ายโอนเส้นประสาทของพวกเขาได้สำเร็จ รายงานจาก The Guardian

ซึ่งก่อนที่จะถึงมือของศัลยแพทย์ชาวออสเตรเลียนั้น แขน ขา ทั้งสี่ ของผู้ป่วยแต่ละรายเป็นอัมพาตเนื่องจากอุบัติเหตุทางกีฬาหรืออุบัติเหตุจากการจราจร

ศัลแพทย์ชาวออสเตรเลียได้ใช้เทคนิคที่รู้จักกันในชื่อ การถ่ายโอนเส้นประสาท ซึ่ง Van Zyl ได้รับการฟื้นฟูความสามารถในการยืดข้อศอก รวมถึงการจับและบีบมือได้สำเร็จ – และเธอคิดว่าคนอื่น ๆ จะได้รับประโยชน์เช่นนี้เหมือนกัน

เธอและทีมงานของเธอที่ Austin Health ในเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลียเริ่มต้นด้วยการนำเส้นประสาทที่ใช้งานได้ออกจากการบาดเจ็บกระดูกสันหลัง จากนั้นพวกเขาย้ายประสาทเข้าไปในแขนขาที่เป็นอัมพาตของผู้ป่วย

สองปีหลังจากการผ่าตัดตามรายงานผู้ป่วยมีการปรับปรุงการทำงานของมืออย่างมีนัยสำคัญ

ดังที่ Van Zyl บอกกับ The Guardian ว่าเทคนิคการถ่ายโอนเส้นประสาทมีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลที่ชัดเจนนัก จนกระทั่งในปี 2014 ที่เธอและทีมของเธอออกแบบการปลูกถ่ายเส้นประสาทสามเส้นเพื่อรักษาอาการอัมพาตได้สำเร็จ

ความสำเร็จของการผ่าตัดครั้งแรกนั้นนำไปสู่การศึกษาใหม่ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหวังว่าจะสนับสนุนให้ผู้อื่นเลือกใช้เทคนิคการถ่ายโอนเส้นประสาทนี้ ในการแก้ไขอาการอัมพาตจากอวัยวะส่วนต่าง ๆ

“อาจจะมีคนที่ไม่เห็นว่านี่เป็นตัวเลือก” เขาบอกกับ The Guardian “มันทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปอย่างมาก หวังว่ามันจะช่วยคนอื่นได้เช่นกัน มันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันได้จริงๆ”

อย่างไรก็ตามนักวิจัยเตือนว่าการผ่าตัดถ่ายโอนเส้นประสาทนั้นมีก็ยังมีข้อจำกัดอยู่

ตัวอย่าง เช่น อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการเคลื่อนไหว และอาจใช้เวลาหลายปีที่ผู้ป่วยจะประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่ในกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การถ่ายโอนเส้นประสาทต้องเกิดขึ้นนานถึง 12 เดือนหลังจากได้รับบาดเจ็บเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ในผู้เข้าร่วมทดลองทั้งหมดนั้น พบว่าจากการถ่ายโอนเส้นประสาทมีถึง 4 ครั้งที่เกิดความล้มเหลว นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อลดความล้มเหลว และประเมินว่าผู้เข้าร่วมรายใดเหมาะสมที่สุดในการผ่าตัดถ่ายโอนเส้นประสาทในเทคนิคดังกล่าวนี้นั่นเอง

ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจกับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต ให้กลับมาเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นความหวังสูงสุดของผู้ป่วยเหล่านี้ แต่แน่นอนว่า เทคนิคนี้อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ยังอยู่ในช่วงการทดลอง แต่ถือเป็นก้าวที่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ป่วยอัมพาตที่จะได้รับความช่วยเหลือในอนาคตนั่นเองครับ

References : https://www.theguardian.com/world/2019/jul/04/pioneering-surgery-brings-movement-back-to-paralysed-hands https://www.medicalnewstoday.com/articles/325688.php

เมื่อ AI สามารถสร้างชุดความคิดของมนุษย์ขึ้นใหม่จากคลื่นสมองได้แบบเรียลไทม์

นักวิจัยจาก บริษัท ของรัสเซีย Neurobotics และสถาบันฟิสิกส์และเทคโนโลยีแห่งมอสโกได้ค้นพบวิธีการแสดงภาพสมองของคน ๆ หนึ่ง โดยเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นได้แบบเรียลไทม์ 

ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยในการสร้างอุปกรณ์การฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการผ่าตัดที่ควบคุมโดยสัญญาณสมอง ทีมนักวิจัยได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยลงบน bioRxiv และโพสต์วิดีโอออนไลน์โดยแสดงระบบ “อ่านใจ” ได้สำเร็จ

ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ควบคุมโดยสมอง และวิธีการรักษาโรคทางปัญญาและการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการทำ neurobiologists ซึ่งต้องมีความเข้าใจว่าสมองเข้ารหัสข้อมูลอย่างไร สิ่งสำคัญคือการศึกษากิจกรรมสมองของผู้คนที่รับรู้ข้อมูลภาพ ตัวอย่างเช่น ขณะพวกเขากำลังดูวิดีโอ เป็นต้น

โซลูชันที่มีอยู่สำหรับการแยกภาพที่สังเกตได้จากสัญญาณสมองนั้นอาจใช้คลื่น MRI หรือวิเคราะห์สัญญาณที่ได้รับผ่านการปลูกถ่ายโดยตรงจากเซลล์ประสาท ทั้งสองวิธีมีการใช้งานที่ค่อนข้าง จำกัด ในการปฏิบัติทางคลินิกและในชีวิตประจำวัน

โดยอินเตอร์เฟซคอมพิวเตอร์กับสมองที่พัฒนาโดย MIPT และNeurobotics อาศัย เทคโนโลยี Neural Network และสัญญาณ EEG ซึ่งเป็นเทคนิคในการบันทึกคลื่นสมองผ่านขั้วไฟฟ้าที่วางไว้บนหนังศีรษะ โดยการวิเคราะห์กิจกรรมของสมองระบบจะสร้างภาพที่เห็นโดยบุคคลผ่านข้อมูล EEG แบบเรียลไทม์

การสร้างภาพจากสมองได้แบบเรียลไทม์
การสร้างภาพจากสมองได้แบบเรียลไทม์

“ เรากำลังทำงานในโครงการ Assistive Technologies ของ Neuronet ใน National Technology Initiative ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ส่วนต่อประสานระหว่างคอมพิวเตอร์และสมองที่ช่วยให้ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดใช้ในการควบคุมแขน เพื่อการฟื้นฟูระบบประสาท หรือผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต  

เป้าหมายสูงสุดคือการเพิ่มความแม่นยำของการควบคุมระบบประสาทสำหรับบุคคลที่มีสุขภาพดีเช่นเดียวกัน” Vladimir Konyshev หัวหน้าห้องปฏิบัติการ Neurorobotics ที่ MIPT กล่าว

ในส่วนแรกของการทดลองนักประสาทวิทยาได้ขอให้อาสาสมัครที่มีสุขภาพดีชม 20 นาทีของวิดีโอ YouTube  โดยทีมนักวิจัยได้เลือกวิดีโอ 5 หมวดหมู่ : รูปที่เป็นแบบนามธรรม น้ำตก ใบหน้ามนุษย์ กลไกการเคลื่อนไหว และกีฬาแข่งรถ 

จากการวิเคราะห์ข้อมูล EEG นักวิจัยแสดงให้เห็นว่ารูปแบบคลื่นสมองนั้นแตกต่างกันสำหรับวิดีโอแต่ละประเภท สิ่งนี้ทำให้ทีมวิเคราะห์การตอบสนองของสมองต่อวิดีโอได้แบบเรียลไทม์

ในขั้นตอนที่สองของการทดสอบจะมีการสุ่มหมวดหมู่สามหมวดหมู่จากหมวดหมู่เดิมทั้ง 5 หมวดหมู่ นักวิจัยได้พัฒนาโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) สองเครือข่าย หนึ่งสำหรับสร้างภาพเฉพาะหมวดหมู่แบบสุ่มจาก “สัญญาณรบกวน” และอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับสร้าง “เสียงรบกวน” ที่คล้ายกันจาก EEG จากนั้นทีมได้ทำการ Training ผ่าน Neural Network ให้ทำงานร่วมกันในลักษณะที่เปลี่ยนสัญญาณ EEG ให้เป็นภาพจริงคล้ายกับที่ผู้ทดสอบกำลังเฝ้าสังเกต

ลกอริทึมการทำงานของระบบสมองและคอมพิวเตอร์ (BCI) เครดิต: Anatoly Bobe / Neurobotics และ@tsarcyanide / MIPT Press Office
ลกอริทึมการทำงานของระบบสมองและคอมพิวเตอร์ (BCI) เครดิต: Anatoly Bobe / Neurobotics และ@tsarcyanide / MIPT Press Office

ในการทดสอบความสามารถของระบบในการมองเห็นการทำงานของสมอง ผู้เข้าร่วมจะถูกแสดงวิดีโอที่มองไม่เห็นจากหมวดหมู่เดียวกันก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะที่พวกเขาดู ข้อมูล EEGs จะถูกบันทึกและส่งไปยังเครือข่ายประสาท ระบบผ่านการทดสอบและสามารถสร้างภาพที่น่าเชื่อถือซึ่งสามารถแบ่งได้อย่างง่ายดายอย่างที่เราเห็นในรูปข้างล่าง

แต่ละคู่นำเสนอเฟรมจากวิดีโอที่ดูโดยผู้ทดสอบและภาพที่สร้างขึ้นโดยเครือข่ายประสาทเทียม เครดิต: Grigory Rashkov / Neurobotics
แต่ละคู่นำเสนอเฟรมจากวิดีโอที่ดูโดยผู้ทดสอบและภาพที่สร้างขึ้นโดยเครือข่ายประสาทเทียม เครดิต: Grigory Rashkov / Neurobotics

“ อิเลคโทรนิคฮาโลแกรม คือ ชุดของสัญญาณสมองที่บันทึกจากคลื่นสมอง นักวิจัยเคยคิดว่าการศึกษากระบวนการทางสมองผ่าน EEG นั้นเหมือนกับการหาโครงสร้างภายในของเครื่องจักรไอน้ำโดยการวิเคราะห์ควันที่ตกค้างจากรถไฟไอน้ำ”  Grigory Rashkov ผู้ร่วมเขียนบทความวิจัยจาก MIPT และโปรแกรมเมอร์ที่ Neurobotics “เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะสร้างภาพที่บุคคลสังเกตได้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเป็นไปได้ดีทีเดียว”

“ ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถใช้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานสำหรับอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์กับสมองได้แบบเรียลไทม์ ภายใต้เทคโนโลยียุคปัจจุบัน อินเทอร์เฟซสำหรับระบบประสาทที่สร้างโดย Elon Musk เผชิญกับความท้าทายของการผ่าตัดที่ซับซ้อนและการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเนื่องจากกระบวนการทางธรรมชาติ

ทีมนักวิจัยหวังว่าในที่สุดเราจะสามารถออกแบบส่วนต่อประสานประสาทราคาไม่แพงซึ่งไม่ต้องใช้การฝังแบบผ่าตัดเข้าไปในสมองจริง ๆ ” นักวิจัยกล่าวเสริม

เราได้เห็นเทคโนโลยี ที่มีการเชื่อมต่อสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ (Brain Machine Interface) ที่มีการวิจัยเรื่องราวเหล่านี้เป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงโครงการ NeuralLink ของ Elon Musk ด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกับเทคโนโลยี Brain Machine Interface เทคโนโยโลยีอย่างที่เราเห็นในบทความนี้ นั้นก็ใช้รูปแบบคล้าย ๆ กัน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ส่วนต่อประสานระหว่างคอมพิวเตอร์และสมองที่ช่วยให้ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดใช้ในการควบคุมแขน เพื่อการฟื้นฟูระบบประสาท หรือผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต  

ซึ่งผมก็เชื่อว่า เราจะเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ ที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหากับอวัยวะต่าง ๆ ของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นดวงตา แขนขา ที่พิการ หรือ อื่น ๆ ได้อีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอนครับ

References : https://mipt.ru/english/news/neural_network_reconstructs_human_thoughts_from_brain_waves_in_real_time

Exoskeleton กับการช่วยชายอัมพาตให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง

ชายชาวฝรั่งเศษที่เป็นอัมพาตได้ฟื้นความสามารถในการเดิน ด้วยความช่วยเหลือของหุ่นยนต์ ที่ควบคุมด้วยจิตใจของเขา ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้ แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ

โดยหุ่นยนต์ควบคุมจิตใจที่สุดล้ำตัวนี้ ใช้ขั้วไฟฟ้าที่ปลูกฝังเหนือเยื่อหุ้มชั้นนอกของสมองโดยไม่ได้ทำการผ่านตัดเข้าไปอยู่ในสมองของผู้ป่วยแต่อย่างใด นั่นสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและอุปสรรคอื่น ๆ ที่เป็นตัวขัดขวางความสำเร็จของหุ่นยนต์ที่ควบคุมจิตใจ

ในการศึกษาของมหาวิทยาลัย Grenoble Alpes ในประเทศฝรั่งเศส ผู้ป่วยที่มีชื่อว่า Thibault ที่มีอาการอัมพาตไม่สามารถเดินได้นั้น ถูกใช้แผ่นดิสก์ขนาดห้าเซ็นติเมตร ฝังในเนื้อเยี่อหัวของกะโหลกศีรษะของเขา โดยจะถูกแทนที่ด้วยเซ็นเซอร์สมองแต่ละอันที่มีขั้วไฟฟ้าจำนวน 64 เส้น 

นักวิจัยทำแผนที่สมองของ Thibault เพื่อกำหนดว่าบริเวณใดที่จะใช้งานได้ เมื่อเขาเริ่มใช้ความคิดเกี่ยวกับการเดินหรือการขยับแขนหรือขา และใช้แผนที่เหล่านั้นเพื่อฝึกระบบให้สามารถทำตามได้ 

โดยการฝึกฝนครั้งแรกของ Thibault เขาทำการจินตนาการถึงการเดินและการเคลื่อนไหวผ่านอวาตาร์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นเขาถูกมัดไว้กับชุด Suit ที่ถูกเรียกว่า Exoskeleton ที่มีน้ำหนัก 65 กิโลกรัมและใช้มันช่วยเหลือในการเดินได้สำเร็จ

แม้ตอนนี้ระบบจะยังไม่สมบูรณ์แบบ  แต่เนื่องจากตัวขั้วไฟฟ้านั้นไม่ได้ถูกฝังในสมองโดยตรง พวกเขาจึงมีความเสี่ยงลดลงจากการติดเชื้อในสมอง การทดลองก่อนหน้าซึ่งวางขั้วไฟฟ้าในสมองจะหยุดทำงานเมื่อเซลล์ที่สร้างขึ้นรอบขั้วไฟฟ้าเกิดปัญหา 

นักวิจัยยังไม่คาดหวังว่าจะนำไปใช้งานจริง ๆ ในเร็ว ๆ นี้ และการทดสอบของ Thibault ยังคงต้องทำต่อไปอีก 27 เดือน นักวิจัยกล่าวว่าระบบนี้สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและด้วยเทคโนโลยีที่ลดขนาดลง อย่างที่เราเห็นใน exosuits อื่น ๆ ซึ่งในที่สุดมันอาจจะช่วยเหลือผู้ป่วยอัมพาตเหล่านี้ให้เห็นช่องทางให้พวกเขาสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งนั่นเองในอนาคตอันใกล้นี้

References : https://www.engadget.com