Geek Daily EP2 : Tesla กับแบตเตอรี่ใหม่อายุนาน 16 ปีกับระยะทาง 1 ล้านไมล์

อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่หยุดยั้งการนำ EV มาใช้อย่างกว้างขวางและแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานสามารถเปลี่ยนรูปแบบสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ 

แบตเตอรี่เป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดของ EV ดังนั้น หากสามารถถ่ายโอนแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นไปสู่รถยนต์ใหม่ก็อาจทำให้ราคาลดลง ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้นกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ของ Tesla ที่อายุนาน 16 ปี กับระยะทาง 1 ล้านไมล์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2XOvm1z

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/2XPV0Dq

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2XQRQyY

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/Xva_y2aZrfY

References : https://www.businessinsider.com/catl-claims-battery-1-million-miles-2020-6

Tesla กับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญกับอนาคต Apple แห่งวงการยานยนต์

รายงานใหม่จากสำนักข่าวรอยเตอร์เผยให้เห็นว่า Telsa จะเปิดตัวแบตเตอรี่ รุ่นใหม่ ที่สามารถใช้งานได้ถึง “ล้านไมล์” เป็นการพัฒนาร่วมกันกับนักพัฒนาแบตเตอรี่จีน Amperex เทคโนโลยี จำกัด (CATL) ในประเทศจีน

สำหรับแบตเตอรี่หนึ่งล้านไมล์ ( 1.6 ล้านกิโลเมตร) จะต้องสามารถหมุนเวียนการชาร์จ อย่างมีนัยสำคัญได้มากกว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ li-ion ปัจจุบัน โดยทั่วไปเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นแบตเตอรี่จะเริ่มลดลงหลังจากชาร์จไปประมาณ 1,000 รอบ ในขณะที่ หากทำให้แบตเตอรี่สามารถมีอายุการใช้งานนานถึงหนึ่งล้านไมล์ จะต้องสามารถหมุนเวียนการชาร์จได้ประมาณ 4,000 ครั้ง

ตามที่รายงานจาก The Driven ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเว็บไซต์ได้ กล่าวถึงความคิดเห็นจากแหล่งข่าวจีนที่ใกล้ชิดกับเทสลาว่า “แบตเตอรี่ใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยเทสลานั้นเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห้งและซูเปอร์คาปาซิเตอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่คาดว่าจะอธิบายในการประชุมเรื่องแบตเตอรี่เทสลาในเดือนเมษายน”

การรวมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาตรฐานกับตัวเก็บประจุพิเศษ (เป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญพิเศษของแบตเตอรี่ Maxwell ที่ Tesla ซื้อมาในเดือนพฤษภาคม 2019) สามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้อย่างมาก

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการรวมกันของแบตเตอรี่ธรรมดาและซุปเปอร์แคปในรูปแบบที่เรียกว่าแบตเตอรี่ไฮบริด สิ่งเหล่านี้มักจะมีคุณสมบัติของอุปกรณ์ทั้งสองนี้ ข้อได้เปรียบที่สำคัญก็คคือ เทสลามีการปรับปรุงความสามารถรอบด้านของอุปกรณ์เป็นอย่างมาก (ซึ่งอาจทำให้ชาร์จได้ถึง 10,000 รอบ) ซึ่งแตกต่างจากแบตเตอรี่ LIBs แบบเดิม ๆ ที่เริ่มลดระดับลงในช่วง 1000 รอบ)

ต้องบอกว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่น่าสนใจมาก ๆ ที่ เทสลา กำลังซุ่มพัฒนาแบตเตอรี่ รุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานได้ถึง 1.6 ล้านกิโลเมตร มันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการยานยนต์โลก

เหมือนที่ในปี 2007 Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์มือถือใหม่ออกมา ที่ทุกคนต่างค่อนขอดว่าไม่มีทางแจ้งเกิดได้ การใช้งานจอสัมผัส หรือ การที่แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นานนั้น คนต่างมองข้าม Apple Iphone มาในช่วงแรก แต่สุดท้ายกาลเวลามันก็ได้พิสูจน์สิ่งที่ Apple ได้ทำว่ามัน Impact ต่อวงการมือถือโลกเพียงใด

ผมมองว่า Musk ก็กำลังทำสิ่งเดียวกันกับวงการยานยนต์โลกอยู่ เขาพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมา หลังจากที่วงการยานยต์โลกนั้น หยุดนิ่งในการพัฒนามานา เพราะความยิ่งใหญ่ของบริษัทยุคเก่า ไม่ว่าจะเป็น Toyota , Hoda , GM ,Ford บริษัทเหล่านี้นั้นไม่ต่างจากความยิ่งใหญ่ของ Nokia , Blackberry หรือ แม้กระทั่ง Microsoft ในวงการมือถือ

แต่ในอนาคต ทุกอย่างจะถูก Disruption โดยเฉพาะยิ่งมาเจอปัญหาการผลิตในช่วง COVID-19 ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่เก่า ๆ เริ่มมีปัญหามากยิ่งขึ้น และ นั่นจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Tesla ที่จะผงาดกลายมาเป็น Apple แห่งวงการยานยนต์ได้ในอนาคตนั่นเองครับ

–> อ่าน Blog Series : ประวัติ Elon Musk

References : https://thedriven.io/2020/05/15/tesla-battery-day-update-flags-launch-of-million-mile-battery-in-china-first/ https://electrek.co/2020/05/14/tesla-new-battery-china-catl-report/

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol

0-100 ใน 2.5 วิ กับ รถยนต์ Hybrid ตัวแรกของ Ferrari

เฟอร์รารีได้ประกาศรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเป็นครั้งแรกในรุ่น SF90 Stradale นอกเหนือจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ ซึ่ง บริษัท อ้างว่ามีกำลังสูงสุด 8 สูบ ถือเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของรถที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมดสามตัว (สองตัวที่แกนหน้าและอีกตัวที่อยู่ด้านหลัง) เมื่อรวมกันแล้วเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์จะผลิตแรงม้า 985 แรงม้า ทำให้รถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.5 วินาทีและสามารถทำความเร็วสูงสุด 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่หากคุณต้องการควบคุมรถในโหมด eDrive ด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด คุณอาจผิดหวังเล็กน้อยเพราะสามารถใช้งานได้ในระยะทางสูงสุด 24 กิโลเมตรเพียงเท่านั้น แต่นั่นอาจจะเพียงพอสำหรับการเดินทางไปที่ร้านค้า หรือการเดินทางสั้น ๆ

แต่การเดินทางด้วยเฟอร์รารี่ที่คุณอุตส่าห์ซื้อมานั้นระยะทาง 24 กิโลเมตรนั้นจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว: โดย Ferrari ประกาศว่า SF90 Stradale สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหากไม่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเครื่องยนต์นี้จะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อคุณถอยหลังหมายความว่าภายในกระปุกเกียร์ของรถไม่จำเป็นต้องมีเกียร์ถอยหลังอีกต่อไป

ภายในรถมีหน้าจอโค้ง HD ขนาด 16 นิ้วด้านหลังพวงมาลัยซึ่งสามารถควบคุมได้ทั้งหมดโดยใช้ทัชแพดและปุ่มแฮบติคบนพวงมาลัย คุณจะสามารถใช้การควบคุมเหล่านี้เพื่อสลับโหมดเครื่องยนต์สี่แบบที่แตกต่างกันของรถ  ซึ่งมีความสมดุลของความเร็วแบตเตอรี่และการใช้เชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน

เฟอร์รารียังไม่ได้ประกาศราคาสำหรับ SF90 Stradale แต่การเข้าสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกยานยนต์ในขณะนี้ ที่หลาย ๆ ประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรและจีนได้ประกาศแผนการห้ามขายรถยนต์เบนซินและดีเซลในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้านั่นเอง 

References : 
https://www.theverge.com/2019/5/30/18645508/ferrari-sf90-stradale-plug-in-hybrid-electric-car-range-specs-features