Geek Monday EP51 : Jaguar Land Rover กับเทคโนโลยี AI & Autonomous Cars

ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์และนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ในการวิจัยและพัฒนาในภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร  Jaguar Land Rover เป็นการรวมตัวกันของแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่มีชื่อเสียงสองแบรนด์คือ Jaguar ที่มีรถสปอร์ตหรูหราและรถเก๋งและ Land Rover ผู้ผลิตรถยนต์พรีเมี่ยม

แบรนด์เหล่านี้เริ่มขึ้นในกลางศตวรรษที่ 20 และได้รับชื่อเสียงด้านนวัตกรรม บริษัท วางแผนที่จะสานต่อประเพณีในด้านนวัตกรรมที่พวกเขากำลังปูทางสู่อนาคตผ่านเทคโนโลยี AI และ Autonomous Cars 

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2ztOjNM

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast : 
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/2B3TtRh

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2UIP64Q

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/iYAJaDEttGg

References : https://www.autotrader.co.uk/content/news/jaguar-land-rover-developing-off-road-self-driving-suvs
http://overdrive.in/news-cars-auto/jaguar-land-rover-to-offer-ai-and-autonomous-off-road-tech-in-its-vehicles-soon/
https://www.jaguarlandrover.com/2017/hello-my-name-sayer
https://www.jaguarlandrover.com/2019/research-and-innovation
https://www.jaguarlandrover.com/news/2020/01/jaguar-land-rovers-new-shape-shifting-seat-future-makes-you-think-youre-walking

Geek Daily EP2 : Tesla กับแบตเตอรี่ใหม่อายุนาน 16 ปีกับระยะทาง 1 ล้านไมล์

อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่หยุดยั้งการนำ EV มาใช้อย่างกว้างขวางและแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานสามารถเปลี่ยนรูปแบบสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ 

แบตเตอรี่เป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดของ EV ดังนั้น หากสามารถถ่ายโอนแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นไปสู่รถยนต์ใหม่ก็อาจทำให้ราคาลดลง ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้นกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ของ Tesla ที่อายุนาน 16 ปี กับระยะทาง 1 ล้านไมล์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2XOvm1z

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/2XPV0Dq

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2XQRQyY

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/Xva_y2aZrfY

References : https://www.businessinsider.com/catl-claims-battery-1-million-miles-2020-6

Tesla กับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญกับอนาคต Apple แห่งวงการยานยนต์

รายงานใหม่จากสำนักข่าวรอยเตอร์เผยให้เห็นว่า Telsa จะเปิดตัวแบตเตอรี่ รุ่นใหม่ ที่สามารถใช้งานได้ถึง “ล้านไมล์” เป็นการพัฒนาร่วมกันกับนักพัฒนาแบตเตอรี่จีน Amperex เทคโนโลยี จำกัด (CATL) ในประเทศจีน

สำหรับแบตเตอรี่หนึ่งล้านไมล์ ( 1.6 ล้านกิโลเมตร) จะต้องสามารถหมุนเวียนการชาร์จ อย่างมีนัยสำคัญได้มากกว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ li-ion ปัจจุบัน โดยทั่วไปเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นแบตเตอรี่จะเริ่มลดลงหลังจากชาร์จไปประมาณ 1,000 รอบ ในขณะที่ หากทำให้แบตเตอรี่สามารถมีอายุการใช้งานนานถึงหนึ่งล้านไมล์ จะต้องสามารถหมุนเวียนการชาร์จได้ประมาณ 4,000 ครั้ง

ตามที่รายงานจาก The Driven ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเว็บไซต์ได้ กล่าวถึงความคิดเห็นจากแหล่งข่าวจีนที่ใกล้ชิดกับเทสลาว่า “แบตเตอรี่ใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยเทสลานั้นเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห้งและซูเปอร์คาปาซิเตอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่คาดว่าจะอธิบายในการประชุมเรื่องแบตเตอรี่เทสลาในเดือนเมษายน”

การรวมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาตรฐานกับตัวเก็บประจุพิเศษ (เป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญพิเศษของแบตเตอรี่ Maxwell ที่ Tesla ซื้อมาในเดือนพฤษภาคม 2019) สามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้อย่างมาก

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการรวมกันของแบตเตอรี่ธรรมดาและซุปเปอร์แคปในรูปแบบที่เรียกว่าแบตเตอรี่ไฮบริด สิ่งเหล่านี้มักจะมีคุณสมบัติของอุปกรณ์ทั้งสองนี้ ข้อได้เปรียบที่สำคัญก็คคือ เทสลามีการปรับปรุงความสามารถรอบด้านของอุปกรณ์เป็นอย่างมาก (ซึ่งอาจทำให้ชาร์จได้ถึง 10,000 รอบ) ซึ่งแตกต่างจากแบตเตอรี่ LIBs แบบเดิม ๆ ที่เริ่มลดระดับลงในช่วง 1000 รอบ)

ต้องบอกว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่น่าสนใจมาก ๆ ที่ เทสลา กำลังซุ่มพัฒนาแบตเตอรี่ รุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานได้ถึง 1.6 ล้านกิโลเมตร มันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการยานยนต์โลก

เหมือนที่ในปี 2007 Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์มือถือใหม่ออกมา ที่ทุกคนต่างค่อนขอดว่าไม่มีทางแจ้งเกิดได้ การใช้งานจอสัมผัส หรือ การที่แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นานนั้น คนต่างมองข้าม Apple Iphone มาในช่วงแรก แต่สุดท้ายกาลเวลามันก็ได้พิสูจน์สิ่งที่ Apple ได้ทำว่ามัน Impact ต่อวงการมือถือโลกเพียงใด

ผมมองว่า Musk ก็กำลังทำสิ่งเดียวกันกับวงการยานยนต์โลกอยู่ เขาพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมา หลังจากที่วงการยานยต์โลกนั้น หยุดนิ่งในการพัฒนามานา เพราะความยิ่งใหญ่ของบริษัทยุคเก่า ไม่ว่าจะเป็น Toyota , Hoda , GM ,Ford บริษัทเหล่านี้นั้นไม่ต่างจากความยิ่งใหญ่ของ Nokia , Blackberry หรือ แม้กระทั่ง Microsoft ในวงการมือถือ

แต่ในอนาคต ทุกอย่างจะถูก Disruption โดยเฉพาะยิ่งมาเจอปัญหาการผลิตในช่วง COVID-19 ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่เก่า ๆ เริ่มมีปัญหามากยิ่งขึ้น และ นั่นจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Tesla ที่จะผงาดกลายมาเป็น Apple แห่งวงการยานยนต์ได้ในอนาคตนั่นเองครับ

–> อ่าน Blog Series : ประวัติ Elon Musk

References : https://thedriven.io/2020/05/15/tesla-battery-day-update-flags-launch-of-million-mile-battery-in-china-first/ https://electrek.co/2020/05/14/tesla-new-battery-china-catl-report/

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol

IBM ‘s cobalt-free กับแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุสกัดจากน้ำทะเล

แน่นอนว่ายานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังจะมีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำร้ายโลกของเรามาอย่างยาวนาน แต่มันก็ยังไม่ถือว่าเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบนัก โดยในปัจจุบัน พาหนะ EVs ส่วนใหญ่ทำงานบนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ทำด้วยโลหะหนัก เช่น โคบอลต์ ซึ่งก็เป็นผลเสียต่อโลกเราอยู่ดี

แต่ตอนนี้ IBM Research Battery Lab อาจกำลังมีวิธีแก้ไขครั้งใหม่: ด้วยแบตเตอรี่ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยไม่มีโลหะหนัก ซึ่งทำขึ้นมาแทนด้วยวัสดุที่สามารถสกัดได้จากน้ำทะเล

ตามการออกแบบครั้งใหม่ของ IBM ซึ่งพวกเขากล่าวว่า สามารถใช้งานได้ดีกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบปัจจุบันในราคาต้นทุนเพียงแค่ 80% ของแบตเตอรี่เดิม ๆ และสามารถทำเวลาในการชาร์จน้อยกว่าห้านาที รวมถึงเรื่องของประสิทธิภาพการใช้พลังงาน  แบตเตอรี่ยังติดไฟได้น้อยและสามารถใช้ในเครื่องบิน, รถยนต์ไฟฟ้าและรถบรรทุกได้อีกด้วย

ภาพจาก IBM Research
ภาพจาก IBM Research

แบตเตอรี่ใช้วัสดุใหม่สามชนิดรวมถึงวัสดุแคโทดที่ไม่มีโคบอลต์ , นิกเกิลและอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งรูปแบบการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครนี้สามารถยับยั้งปฏิกิริยา dendrites ในโลหะลิเธียมระหว่างการชาร์จซึ่งช่วยลดโอกาสที่แบตเตอรี่จะติดไฟขึ้นได้นั่นเองแ

และเพื่อที่จะนำแบตเตอรี่ใหม่นี้ไปใช้ IBM ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง เมอร์เซเดส – เบนซ์ ร่วมด้วย ผู้ผลิตแบตเตอรี่อิเลคโทรไลต์อย่างบริษัท Central Glass และ บริษัท Sidus ในขณะที่ทีมวิจัยจาก IBM Research จะมีการใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และค้นหาวัสดุที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต

ความเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

ถือเป็นหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ EV ที่เหล่ายานพาหนะในอนาคตต้องใช้ ซึ่งแน่นอนว่า แม้ตัวรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นจะใช้พลังงานสะอาดจากไฟฟ้าก็ตาม

แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเจอปัญหาในเรื่องของแบตเตอรี่ ที่ดูเหมือนยังเป็นสิ่งที่ยากในการทำให้เป็นผลดีต่อโลกเรา 100% แต่แนวคิดใหม่ของ IBM ที่มาวิจัยด้านนี้ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และถือเป็นอีกหนึ่งในตลาดที่ใหญ่มาก ๆ ในอนาคต หากสามารถที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เป็นวัสดุใหม่อย่างที่ IBM กำลังทำการวิจัยอยู่ได้

ซึ่งแทนที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง IBM จะ โฟกัสไปที่การวิจัยในเรื่องพาหนะแบบขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ เหมือน google , tesla หรือบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ทำ กลับเลือกหาโอกาสใหม่ ๆ จากเรื่องของแบตเตอรี่แทน ซึ่ง หากพวกเขาทำได้สำเร็จจริงก็สามารถสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้อย่างมหาศาลในอนาคตอย่างแน่นอน

และในท้ายที่สุด IBM ก็จะทำให้เทคโนโลยีทั้งหมดของยานพาหนะ EV ในอนาคตนั้นสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังสะอาดแบบ 100% ได้นั่นเองครับ

References : https://www.engadget.com/2019/12/18/ibm-research-ev-battery-cobalt-free/

General Motors กับอนาคตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้พวงมาลัย

General Motors ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศอเมริกา กำลังมีแผนใหม่ในการทดสอบรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยตนเอง: ด้วยการกำจัดพวงมาลัยออกไปจากรถยนต์ และปล่อยให้พวกมันขับเคลื่อนไปตามถนนสาธารณะได้แบบอิสระ

บริษัท กำลังร้อขอ ศูนย์บริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงของสหรัฐ (NHTSA) เพื่อขออนุญาตให้เริ่มต้นการทดสอบรถยนต์ไร้พวงมาลัยนี้ และในขณะที่ บริษัทดูเหมือนมั่นใจว่ารถยนต์จะสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยแม้จะไม่มีการควบคุมโดยมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่นั้นมองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ

ซึ่งหากแผนได้รับการอนุมัติ GM จะเป็นบริษัทแรกที่ทำให้รถยนต์ปราศจากการควบคุมของมนุษย์โดยสิ้นเชิงบนท้องถนน ในขณะที่ Waymo เพิ่งเลือกที่จะนำคนขับที่เป็นมนุษย์ออกไปจากรถแท็กซี่ของตนเอง แต่อย่างไรก็ตามยานพาหนะของพวกเขาก็ยังคงมีพวงมาลัยและคันเร่งอยู่

“ ผมคาดหวังว่าเราจะสามารถก้าวไปข้างหน้ากับการทดสอบในสิ่งเหล่านี้ได้ในไม่ช้า และเร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” รักษาการผู้บริหารของ NHTSA James Owens กล่าวกับรอยเตอร์ “ นี่จะเป็นเรื่องใหญ่เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่รถยนต์จะไม่มีพวงมาลัยอีกต่อไป”

Owens กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง NHTSA จะตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว อย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งภายในปี 2020

แต่ Elaine Chao รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ NHTSA ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคำร้องของ GM ซึ่ง Chao นั้นมองว่าเจ้าหน้าที่ของอุตสาหกรรมยานยนต์และนักวิเคราะห์บางคนมองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับเวลาในการปรับใช้ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเหล่านี้อย่างเต็มที่

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

ความน่าสนใจของ GM ในครั้งนี้ก็คือ การมองว่ารถยนต์ในอนาคตนั้นคงไม่จำเป็นต้องมีผู้ขับขี่ที่เป็นมนุษย์อีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการเดิมพันที่สูงมาก ๆ ครั้งหนึ่งของ GM ในการมองไปที่รถยนต์แบบไร้พวงมาลัย

ส่วนตัวหากมองในเรื่องเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกล้องความละเอียดสูง เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบคันรถ ซึ่งยังไงมันก็สามารถแทนที่ความสามารถของมนุษย์ในการขับขี่ได้ไม่ยาก และมีประสิทธิภาพกว่าอย่างแน่นอน

แต่ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องการยอมรับ และ ผู้ร่วมใช้ถนนนั้นจะสามารถยอมรับได้หรือเปล่า ถนนที่คุณกำลังขับขี่อยู่นั้น มีรถยนต์ที่ใช้ AI ขับเคลื่อนแบบ 100% มาเป็นเพื่อนร่วมทางเสียมากกว่า ซึ่งเหมือนในหลาย ๆ โดเมนที่ ตอนนี้ความสามารถของ AI นั้นพัฒนาเกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือเราจะยอมรับมันได้ขนาดไหนเท่านั้นเอง

References : https://in.reuters.com/article/uk-autos-autonomous-exclusive-idINKBN1YO2EE