รายงาน “Prime-Time for Real Time ฉบับที่สาม ประจำปี 2022” จัดทำโดย “เอซีไอ เวิลด์ไวด์” (ACI Worldwide) ภายใต้ความร่วมมือกับโกลบอลดาต้า (GlobalData) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ และศูนย์วิจัยทางเศรษฐกิจและธุรกิจ (Centre for Economics and Business Research – Cebr)
ประมาณสองทศวรรษที่แล้ว Toyota Motor กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผู้บริโภคในสหรัฐฯ ชื่นชอบด้วยรถยนต์ไฮบริด Prius ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่สะอาดและประหยัดน้ำมันที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แต่เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนไปใช้อนาคตที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้กลับไม่เห็นด้วยที่จะเดินหน้าเต็มตัวกับรถยนต์ไฟฟ้า Toyota ยังคงมีความลังเลที่จะลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดแบบ 100%
De Marco ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบแยกอุณหภูมิที่ซับซ้อนซึ่งรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับท็อปปิ้งและแป้ง ซึ่งสามารถสร้างสูตรของตนเองได้ และยังสามารถอัปโหลดสูตรใหม่เข้าไปได้อีกด้วย
“ธุรกิจของ Tesla ถ้าให้เทียบกับร้านอาหาร ตอนนี้ก็มีแค่เฉพาะ ‘ครัว’ กับ ‘เชฟ’ ซึ่งทั้งครัวและเชฟนั้นยังไม่ได้สร้างธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริงได้เลย สิ่งที่ Tesla ทำก็คือการนำเสนอสูตรอาหาร ส่วนตัวเชฟก็พยายามพูดว่า สูตรของเรานั้นจะกลายเป็นมาตรฐานของโลกในอนาคต ผมคิดว่านั่นคือภาพของธุรกิจที่ Tesla กำลังทำอยู่”
มันได้กลายเป็นสุดยอด quote จาก Akio Toyoda ประธานของโตโยต้า มอเตอร์ ที่ได้กล่าวออกมาหลังจากที่มูลค่าบริษัทของ Tesla แซงหน้ายักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานอย่าง Toyota ได้สำเร็จในปี 2020
เรียกได้ว่าเป็นสองธุรกิจที่มีความท้าทายในยุคเปลี่ยนผ่านที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากนะครับสำหรับทั้งบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และอดีตบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia
การเกิดขึ้นของ iPhone ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในวงการมือถือต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ตามมามากมาย หลังการเปิดตัวของ iPhone โดย Steve Jobs ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจมือถือนั้น ได้ให้ความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย
ตัวอย่างเช่น สตีฟ บอลเมอร์ CEO ของ Microsoft นั้น ถึงกับหัวเราะดังลั่น หลังจากสื่อได้เข้าไปถามหลังการเปิดตัว iPhone ซึ่ง บอลเมอร์ นั้นมองว่า iPhone จะไม่สามารถดึงดูดลูกค้าธุรกิจได้ เพราะมันไม่มีแป้นพิมพ์ และ Microsoft นั้นก็มีกลยุทธ์ของตัวเองสำหรับ Windows Mobile แล้วและกำลังไปได้สวยอยู่ในตลาด
ส่วนทางฝั่ง Nokia นั้น ภายในปี 2010 เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงของ iPhone รวมถึง Android ที่กำลังมากัดกินตลาดของ Nokia มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนแบ่งของ Nokia ในตลาด smartphone ตกลงอย่างฮวบฮาบ ขณะที่ของ Apple และ Android พุ่งขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
จนในที่สุด ประธานบริหาร Nokia อย่าง Olli Pekka Callasvuo ถูกไล่ออกไปในที่สุด มันเป็นการปรับตัวที่ช้ามาก ๆ ของ Nokia ซึ่งแผนธุรกิจที่ดูซับซ้อนเข้าใจยาก และเน้นไปที่การชาร์จค่าบริการต่าง ๆ กับลูกค้า ซึ่งเป็นแนวทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Apple และ Google ทำ
ฝั่งรถยนต์ไฟฟ้าที่นำโดย Tesla นั้นเรียกได้ว่าปฏิวัติวงการใหม่แทบจะหมด ทั้งเรื่องการขายที่ไม่ได้เน้นตัวแทนจำหน่ายอีกต่อไป หรือ การปรับบริษัทให้คล้ายกับสตาร์ทอัพทางด้านเทคโนโลยีที่เป็นงานถนัดของ elon musk อยู่แล้วทำให้พวกเขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก
มันทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ยากที่จะปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์คิดทำอะไรดูเหมือนช้าไปหมด แม้ภายหลังจะไปร่วมมือกับ Microsoft เพื่อสร้าง Windows Phone แต่ทุกอย่างมันก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
หรือ Toyota เองที่ข่าวล่าสุดมีแผนชัดเจนว่าจะไม่กั๊กอีกต่อไปแล้ว เพราะมันชัดเจนแล้วว่าทั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่พวกเขาพยายามผลักดัน หรือ เครื่องยนต์ไฮบริดที่พวกเขาเป็นผู้นำ ตอนนี้มันได้ถึงยุคเปลี่ยนผ่านเต็มตัวแล้ว ซึ่งถ้าพวกเขายังยึดติดกับความสำเร็จเดิม ๆ สุดท้ายพวกเขาอาจจะกลายเป็น Nokia เวอร์ชั่นอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เป็นได้นั่นเองครับผม
ปล. มีการถกเถียงกันเรื่องนี้พอสมควรในเว็บไซต์ถามตอบชื่อดังอย่าง quora ในประเด็นที่ว่า Toyota จะประสบชะตากรรมเดียวกับ Nokia หรือไม่ มีหลายมุมมองที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่น่าสนใจมาก ๆ