Toyota vs Nokia กับความเหมือนที่แตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมของตนเอง

“ธุรกิจของ Tesla ถ้าให้เทียบกับร้านอาหาร ตอนนี้ก็มีแค่เฉพาะ ‘ครัว’ กับ ‘เชฟ’ ซึ่งทั้งครัวและเชฟนั้นยังไม่ได้สร้างธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริงได้เลย สิ่งที่ Tesla ทำก็คือการนำเสนอสูตรอาหาร ส่วนตัวเชฟก็พยายามพูดว่า สูตรของเรานั้นจะกลายเป็นมาตรฐานของโลกในอนาคต ผมคิดว่านั่นคือภาพของธุรกิจที่ Tesla กำลังทำอยู่”

มันได้กลายเป็นสุดยอด quote จาก Akio Toyoda ประธานของโตโยต้า มอเตอร์ ที่ได้กล่าวออกมาหลังจากที่มูลค่าบริษัทของ Tesla แซงหน้ายักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานอย่าง Toyota ได้สำเร็จในปี 2020

เรียกได้ว่าเป็นสองธุรกิจที่มีความท้าทายในยุคเปลี่ยนผ่านที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากนะครับสำหรับทั้งบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และอดีตบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia

การเกิดขึ้นของ iPhone ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในวงการมือถือต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ตามมามากมาย หลังการเปิดตัวของ iPhone โดย Steve Jobs ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจมือถือนั้น ได้ให้ความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย

ตัวอย่างเช่น สตีฟ บอลเมอร์ CEO ของ Microsoft นั้น ถึงกับหัวเราะดังลั่น หลังจากสื่อได้เข้าไปถามหลังการเปิดตัว iPhone ซึ่ง บอลเมอร์ นั้นมองว่า iPhone จะไม่สามารถดึงดูดลูกค้าธุรกิจได้ เพราะมันไม่มีแป้นพิมพ์ และ Microsoft นั้นก็มีกลยุทธ์ของตัวเองสำหรับ Windows Mobile แล้วและกำลังไปได้สวยอยู่ในตลาด

สตีฟ บอลเมอร์ CEO ของ Microsoft นั้น ถึงกับหัวเราะดังลั่น หลังจากสื่อได้เข้าไปถามหลังการเปิดตัว iPhone (CR:Youtube)
สตีฟ บอลเมอร์ CEO ของ Microsoft นั้น ถึงกับหัวเราะดังลั่น หลังจากสื่อได้เข้าไปถามหลังการเปิดตัว iPhone (CR:Youtube)

ส่วนทางฝั่ง Nokia นั้น ภายในปี 2010 เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงของ iPhone รวมถึง Android ที่กำลังมากัดกินตลาดของ Nokia มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนแบ่งของ Nokia ในตลาด smartphone ตกลงอย่างฮวบฮาบ ขณะที่ของ Apple และ Android พุ่งขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

จนในที่สุด ประธานบริหาร Nokia อย่าง Olli Pekka Callasvuo ถูกไล่ออกไปในที่สุด มันเป็นการปรับตัวที่ช้ามาก ๆ ของ Nokia ซึ่งแผนธุรกิจที่ดูซับซ้อนเข้าใจยาก และเน้นไปที่การชาร์จค่าบริการต่าง ๆ กับลูกค้า ซึ่งเป็นแนวทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Apple และ Google ทำ

ฝั่งรถยนต์ไฟฟ้าที่นำโดย Tesla นั้นเรียกได้ว่าปฏิวัติวงการใหม่แทบจะหมด ทั้งเรื่องการขายที่ไม่ได้เน้นตัวแทนจำหน่ายอีกต่อไป หรือ การปรับบริษัทให้คล้ายกับสตาร์ทอัพทางด้านเทคโนโลยีที่เป็นงานถนัดของ elon musk อยู่แล้วทำให้พวกเขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก

การเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเรียกได้ว่าคล้ายกับวงการมือถือหลังการถือกำเนิดขึ้นของ iPhone และ Android ที่เปลี่ยนแทบจะทุกมิติของอุตสาหกรรม

มันทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ยากที่จะปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์คิดทำอะไรดูเหมือนช้าไปหมด แม้ภายหลังจะไปร่วมมือกับ Microsoft เพื่อสร้าง Windows Phone แต่ทุกอย่างมันก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว

ในแวดวงรถยนต์ไฟฟ้าก็ตกอยู่ในสถานการณ์คล้าย ๆ กัน เนื่องจากวัฒนธรรมองค์กร รวมถึงเหล่าผู้บริหารที่ยังคงควบคุมอยู่แน่นอนว่าพวกเขาโตมากับยุคเครื่องยนต์สันดาป การจะพลิกทุกอย่างในเวลาอันสั้นนั้นคงเป็นไปได้ยากมาก ๆ

บทเรียนเรื่องนี้มันเคยเกิดขึ้นกับบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในยุครุ่งเรืองของการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกไปยังดิจิทัล ซึ่งแบรนด์เกาหลีใต้เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล พวกเขาทำได้ดีกว่า ทำให้เราได้เห็นข่าวการขายกิจการหรือเลิกธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากแบรนด์ญี่ปุ่นหลายๆ ราย

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากแบรนด์ญี่ปุ่นหลายๆ  รายที่ไม่สามารถปรับตัวได้ (CR:Reuters)
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากแบรนด์ญี่ปุ่นหลายๆ รายที่ไม่สามารถปรับตัวได้ (CR:Reuters)

การมีองค์กรที่ใหญ่เทอะทะ ทำให้การปรับตัวยากลำบาก ซึ่งหลาย ๆ บริษัททางด้านรถยนต์กำลังประสบพบเจออยู่แถมยังต้องเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ หรือ การพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ ซึ่งมันแทบจะต้องเริ่มต้นจากศูนย์

ส่วนตัวผมเองมองว่าสถานการณ์ในแวดวงยานยนต์ในขณะนี้ไม่ต่างจากวงการมือถือเลย Tesla ก็เปรียบเสมือน iPhone ที่เป็นผู้เริ่มต้นพลิกอุตสาหกรรม ส่วนบริษัทอื่นๆ โดยเฉพาะแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนก็แทบไม่ต่างจาก Android ที่เน้นฟีเจอร์และราคาที่ถูกกว่า แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปพวกเขาก็จะปรับให้ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งเรียกได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ เราจะเห็นข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่จากรถยนต์สันดาปหลาย ๆ รายเริ่มปรับตัวกันแล้ว บางรายถึงกับโล๊ะพนักงานออกไปจำนวนมากเพื่อล้างองค์กรครั้งใหญ่

หรือ Toyota เองที่ข่าวล่าสุดมีแผนชัดเจนว่าจะไม่กั๊กอีกต่อไปแล้ว เพราะมันชัดเจนแล้วว่าทั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่พวกเขาพยายามผลักดัน หรือ เครื่องยนต์ไฮบริดที่พวกเขาเป็นผู้นำ ตอนนี้มันได้ถึงยุคเปลี่ยนผ่านเต็มตัวแล้ว ซึ่งถ้าพวกเขายังยึดติดกับความสำเร็จเดิม ๆ สุดท้ายพวกเขาอาจจะกลายเป็น Nokia เวอร์ชั่นอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เป็นได้นั่นเองครับผม

ปล. มีการถกเถียงกันเรื่องนี้พอสมควรในเว็บไซต์ถามตอบชื่อดังอย่าง quora ในประเด็นที่ว่า Toyota จะประสบชะตากรรมเดียวกับ Nokia หรือไม่ มีหลายมุมมองที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่น่าสนใจมาก ๆ

อ่านได้ที่ -> https://www.quora.com/Is-Toyota-making-the-same-mistake-as-Nokia-in-being-too-conservative-about-diversifying-into-electric-vehicles

References :
https://www.businessinsider.com/toyota-president-tesla-is-restaurant-without-real-chef-or-kitchen-2020-11
https://brandinside.asia/toyota-president-on-tesla/


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube