Ruja Ignatova กับเส้นทางจาก Crypto Queen สู่อาชญากรที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของ FBI

ในปี 2016 ณ สนามกีฬาเวมบลีย์ใจกลางกรุงลอนดอน ไฟบนเวทีที่กำลังสาดส่องระยิบระยับ เสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องทั้งสนามในขณะที่เพลง “Girl on Fire” ของ Alicia keys ดังขึ้นผ่านลำโพงยักษ์

นั่นคือตอนที่ Ruja Ignatova ซึ่งถูกขนานนามว่า “Crypto Queen” เดินขึ้นไปบนเวทีในชุดเดรสยาวสีแดงสุดเพอร์เฟ็ค เธอได้ขึ้นมาบนเวทีและประกาศก้องว่า OneCoin สกุลเงิน Cryptocurrency ของเธอจะกลายเป็น ผู้ฆ่า Bitcoin

ผู้ที่เข้ามาชมต่างกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนฝันว่าจะหลุดพ้นชีวิตที่ต้องตรากตรำทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบากด้วยความฝันว่า OneCoin จะปลดล็อกชีวิตของพวกเขาได้

ท่ามกลางความร้อนแรงสุดขีดของ crypto ในช่วงปี 2016 OneCoin ได้เผยแพร่ลัทธินี้ไปยังทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาก็ไม่รอดพ้นลัทธิคลั่งนี้

เพียงหนึ่งปีต่อมา Ignatova ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และเจ้าหน้าที่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้พยายามตามจับตัวเธอนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา FBI ได้เพิ่ม รายชื่อของ Ignatova เข้าเป็นหนึ่งในอาชญากรที่ต้องการตัวมากที่สุดใน 10 อันดับแรก

เธอได้เปลี่ยนตัวเองจากผู้นำลัทธิ OneCoin ที่สุดเพ้อฝันกลายมาเป็นอาชญากรในระดับเดียวกับ กลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือแม้กระทั่งฆาตรกรต่อเนื่องที่ FBI นั้นต้องการตัวเป็นอย่างยิ่ง

Ignatova ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหอกในการฉ้อโกงครั้งใหญ่ ซึ่งหลอกนักลงทุนให้สูญเสียเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในความสูญเสียระดับต้น ๆ ในประวัติศาสตร์การฉ้อโกงของโลก

ก่อนที่ใบหน้าของ Ignatova จะถูกประกาศจับไปทั่วทุกมุมโลก Ignatova เป็นสาวเก่งจบปริญญาทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และเข้าทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังอย่าง McKinsey & Company

แนวคิดของ OneCoin นั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2014 ที่มันเป็นจุดเริ่มต้นของกลยุทธ์ลวงโลกนี้

ด้วยแนวคิดที่ดูอลังการ เกาะไปกับกระแสของ crypto ที่กำลังบูมขึ้นอย่างสุดขีด รวมถึงการทำการตลาดชั้นเซียนของเธอ

เธอได้กล่าวที่ เวมบลีย์ ไว้ว่า OneCoin จะกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลและจะมาเป็นผู้ที่ถีบ Bitcoin ให้ตกจากบัลลังก์

OneCoin สกุลเงิน Cryptocurrency ของเธอจะกลายเป็น ผู้ฆ่า Bitcoin (CR:Bitcoin.com)
OneCoin สกุลเงิน Cryptocurrency ของเธอจะกลายเป็น ผู้ฆ่า Bitcoin (CR:Bitcoin.com)

ที่สำคัญเธอได้สัญญาว่า OneCoin จะให้ผลตอบแทนสูงในระดับ 5 ถึง 10 เท่า ทำให้ได้รับความสนใจจากเหล่านักลงทุนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก

แต่แม้ว่า OneCoin นั้นจะอ้างว่าเป็นสกุลเงินที่มีการเข้ารหัสเหมือน cryptocurrency อื่น ๆ แต่เบื้องหลังของ OneCoin แท้จริงนั้น แทบจะไม่มีเทคโนโลยีอย่าง blockchain อยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด นั่นทำให้โทเค็นของ OneCoin เป็นสิ่งไร้ค่า

OneCoin นั้นใช้รูปแบบเดียวกับแชร์ลูกโซ่ โดยอาศัยผู้ใช้ให้พยายามหาสมาชิกเพิ่มเข้ามาให้ได้มากที่สุด โดยจะให้รางวัลตอบแทนในรูปแบบค่าคอมมิชชั่น และมีรูปแบบ แพ็คเกจให้เลือกสรรมากมายในราคาที่แตกต่างกัน

มันแทบจะเป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่แบบคลาสสิก ที่ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยด้วยซ้ำ แต่หลอกผู้คนไปเป็นจำนวนมาก แนวคิดในการให้นักลงทุนรายแรก ๆ หาเหยื่อรายต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้จ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนที่อยู่ระดับบน ๆ ได้

ในที่สุดเครือข่ายดังกล่าวก็ได้ขยายออกไปกว่าร้อยประเทศทั่วทุกมุมโลก และมีผู้คนมากกว่า 3 ล้านคนที่ถูกหลอกเข้าสู่เครือข่ายนรกนี้

Ignatova ใช้ความโลภของมนุษย์เป็นเครื่องมือ ผูกกับแนวคิดของโลกการเงินใหม่ ๆ อย่าง crypto ซึ่งกำลังเป็น Buzzword ในยุคนั้น

OneCoin เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้นในปี 2016 เมื่อประเทศสวีเดน ลัตเวีย นอร์เวย์ โครเอเชีย อิตาลี และ บัลแกเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ OneCoin เริ่มออกคำเตือนเกี่ยวกับการดำเนินการที่เป็นการฉ้อโกง

เมื่อเรื่องเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2017 Ignatova ได้บินหนีออกไปอย่างเร่งด่วน โดยเดินทางจากบัลแกเรียไปกรีซพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว จากนั้นก็ไม่มีใครพบเจอเธออีกเลย

แม้ว่าเธอจะหายตัวไปในเดือนตุลาคมปี 2017 แต่ Ignatova ถูกตัดสินโดยคณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางในเดือนนั้นทันที

มีการออกหมายจับเธอ และตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง สมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน ซึ่งแต่ละคดีมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี

ในปี 2019 FBI ได้เข้าจับกุม Konstantin Ignatov น้องชายของเธอ เขาได้สารภาพผิดและตอบรับข้อตกลงที่จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ FBI

Konstantin Ignatov น้องชายของ Ruja ถูก FBI จับตัวในปี 2019 (CR:Nau.ch)
Konstantin Ignatov น้องชายของ Ruja ถูก FBI จับตัวในปี 2019 (CR:Nau.ch)

Sebastian Greenwood หุ้นส่วนอีกรายถูกควบคุมตัวในประเทศไทยในปี 2018 แล้วถูกส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขายังอยู่ถูกจองจำในคุกเพื่อรอการพิจารณคดี

ขณะนี้ FBI กำลังยื่นคำร้องต่อสาธารณชนเพื่อช่วยในการตรวจสอบและเสนอรางวัล 100,000 ดอลลาร์ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุม Ignatova

บทสรุป

ต้องบอกว่า Ignatova ได้มองเห็นจุดอ่อนของสังคมหลายอย่างและสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนเหล่านี้ เธอรู้ว่าในโลกนี้มีผู้คนมากพอที่อยู่ในสภาวะสิ้นหวังหรือมีความโลภ

คนเหล่านี้พร้อมที่จะเดิมพันกับ OneCoin โดยใช้กลลวงว่ามันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาเปลี่ยนโลก และในวันที่ข้อมูลในโลกออนไลน์นั้นยากที่จะแยกแยะว่าข้อมูลไหนจริงและข้อมูลไหนเป็นเท็จ ทำให้เธอสามารถฉกฉวยโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากผู้ที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีนี้จริง ๆ

มันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นคล้ายกันทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศไทยเองที่มีรูปแบบการฉ้อโกงเหล่านี้ที่ไม่มีวันหมดสิ้น เพราะความเปราะบางของทั้งหน่วยงานกำกับดูแล ผู้ร่างกฎหมาย หรือแม้กระทั่งตำรวจ

และท้ายที่สุด Ignatova เดาได้อย่างถูกต้องว่าเมื่อทุกคนค้นพบความจริง เธอก็จะหายตัวไปพร้อมกับเงิน เหมือนที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ เคสในประเทศไทยของเรานั่นเองครับผม

References :
https://www.bbc.com/news/stories-50435014
https://www.washingtonpost.com/business/2022/06/03/crypto-scams-ftc/
https://www.washingtonpost.com/nation/2022/07/01/cryptoqueen-ruja-ignatova-fugitive/
https://www.livemint.com/news/world/who-is-ruja-ignatova-the-cryptoqueen-behind-4-billion-scam-11657001932849.html

Geek Daily EP132 : เหตุผลสำคัญที่ Elon Musk ยกเลิก Deal ในการเข้าซื้อ Twitter

การเข้าซื้อกิจการ Twitter ของ Elon Musk ถือเป็นหนึ่งในการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์องค์กรธุรกิจ แต่ตอนนี้กลับถูกขู่ว่าจะกลายเป็นหนึ่งในข้อพิพาทที่น่าเกลียดที่สุด Twitter คาดว่าจะยื่นฟ้อง Musk ในสัปดาห์นี้ในศาลเดลาแวร์ โดยฟ้องเขาในข้อหาถอนข้อตกลงมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม แม้ Deal ของ Elon Musk จะประสบความสำเร็จหรือว่าล้มเหลว Twitter จะต้องเผชิญกับปริศนาเดียวกันกับที่พวกเขาต่อสู้มานานหลายปี นั่นคือวิธีเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่มีอิทธิพลให้ทำกำไรมากขึ้น ส่วนหนึ่งของปัญหาคือความล้มเหลวในการดึงดูดผู้ใช้ใหม่

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3yzRBK7

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3aBHT1B

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3awHCgD

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3O3fhMD

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/VzEoq6q56y8

Credit Image : Business Today

Bitcoin มีแนวโน้มที่จะแตะ 10,000 ดอลลาร์มากกว่า 30,000 ดอลลาร์จากการสำรวจ MLIV Survey

Bitcoin มีแนวโน้มที่จะร่วงลงสู่ 10,000 ดอลลาร์ โดยลดมูลค่าลงประมาณครึ่งหนึ่ง มากกว่าที่จะกลับมาที่ 30,000 ดอลลาร์ ตามผลสำรวจ 60% ของนักลงทุน 950 คนที่ตอบแบบสำรวจ MLIV Pulse ล่าสุด  ส่วนอีก 40% เห็นว่ามันไปในทิศทางอื่น

ต้องบอกว่าอุตสาหกรรม crypto ได้รับผลกระทบจาก สกุลเงินบางตัวที่ล่มสลาย และจุดจบของนโยบายการเงินในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดความคลั่งไคล้ในการเก็งกำไรในตลาดการเงิน

สินทรัพย์มูลค่าถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้อันตรธานหายไปจากตลาดของ cryptocurrencies ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย CoinGecko

นักลงทุนรายย่อยมีความวิตกเกี่ยวกับ cryptocurrencies มากกว่านักลงทุนสถาบัน โดยเกือบหนึ่งในสี่มองว่าว่าสินทรัพย์เหล่านี้เป็นขยะ ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพเปิดใจกว้างต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

แต่โดยรวมแล้ว ก็ยังมีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจนในมุมมองที่แตกต่างกันแบบสิ้นเชิง ในขณะที่ 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามโดยรวมแสดงความมั่นใจอย่างยิ่งว่า cryptocurrencies เป็นอนาคตของการเงิน และอีก 20% กล่าวว่ามันแทบเป็นสิ่งไร้ค่า

Bitcoin ได้สูญเสียมูลค่าไปแล้วมากกว่าสองในสามนับตั้งแต่แตะระดับเกือบ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

Jared Madfes หุ้นส่วนของ Tribe Capital ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกล่าวว่า “มันง่ายมากที่จะกลัวในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ในคริปโตเท่านั้น แต่แทบจะทุกการลงทุนในขณะนี้ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน” เขากล่าวว่าความคาดหวังสำหรับ Bitcoin ที่ลดลงอีกสะท้อนให้เห็นถึง “ความกลัวโดยธรรมชาติของผู้คนในตลาด”

ความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ crypto มีแนวโน้มที่จะกดดันรัฐบาลให้เพิ่มกฎระเบียบที่มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเชิงบวกในเรื่องการกำกับดูแล เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและนำไปสู่การยอมรับในวงกว้างทั้งกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย

การเข้ามาแทรกแซงของรัฐบาลอาจจะได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภคที่เสียหายจากการล่มสลายของ Stablecoin อย่าง TerraUSD รวมถึงกลุ่มแพลตฟอร์มตัวกลางที่มีปัญหา เช่น Celsius Network และ Voyager Digital Ltd

กลุ่มผู้บริโภคที่เสียหายจากการล่มสลายของ Stablecoin อย่าง TerraUSD (CR:CoinQuora)
กลุ่มผู้บริโภคที่เสียหายจากการล่มสลายของ Stablecoin อย่าง TerraUSD (CR:CoinQuora)

ในขณะเดียวกันธนาคารกลางทั่วโลกกำลังพิจารณาที่จะพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตนเองเพื่อใช้ในการชำระเงินทางดิจิทัลมากขึ้น

ซึ่งความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากธนาคารกลางนั้น คงไม่ได้ทำให้อุตสาหกรรมนี้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นการเข้ามาลดทอนอิทธิพลของโทเคนที่มีผลกระทบต่อตลาดสูงทั้ง Bitcoin และ Ether

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าหนึ่งในสองสกุลเงินดังกล่าวจะยังคงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้กับตลาดในอีกห้าปี แม้ว่าจะมีสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นก็ตามที

“Bitcoin ยังคงขับเคลื่อนส่วนใหญ่ของโลก crypto ในขณะที่ Ethereum กำลังสูญเสียความเป็นผู้นำ” Ed Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda Corp นายหน้าซื้อขายเงินตราต่างประเทศกล่าว

มีความเห็นที่ค่อนข้างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับมุมหนึ่งของตลาด: NFT ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในด้านการประเมินมูลค่า ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีการซื้อขายมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สำหรับรูปภาพลิง (Bored Ape)

มีการซื้อขายมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สำหรับรูปภาพลิง (Bored Ape)  (CR: MARCA)
มีการซื้อขายมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สำหรับรูปภาพลิง (Bored Ape) (CR: MARCA)

แต่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มองว่า NFT เป็นเพียงแค่โครงการศิลปะหรือสัญลักษณ์เพื่อแสดงสถานะเท่านั้น โดยมีเพียง 9% เท่านั้นที่มองว่ามันเป็นโอกาสในการลงทุน

ยิ่งไปกว่านั้น การไล่ล่าเพื่อมองหาฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ครั้งต่อไปอาจต้องมองหาที่อื่น เนื่องจากการเก็งกำไรมักไม่ค่อยเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ประเภทเดียวกันถึงสองครั้ง

ในท้ายที่สุด ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดว่าการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ครั้งใหญ่ครั้งต่อไปจะไม่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrencies โดย NFT หรือ อินเทอร์เน็ตรุ่นต่อไปที่รู้จักกันในชื่อ web3 และการพัฒนาบล็อคเชนอื่น ๆ ถูกมองว่ามีโอกาสน้อยที่จะทำให้สินทรัพย์เหล่านี้กลับมาพุ่งทะยานได้อีกครั้ง

References :
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-10/bitcoin-faces-another-50-drop-wall-street-says-mliv-pulse
https://finance.yahoo.com/news/bitcoin-more-likely-hit-10-233000830.html
https://nypost.com/2022/01/21/bitcoin-drops-to-six-month-low-as-selloff-continues/

Geek Monday EP139 : เมื่อโอกาสสำหรับ metaverse เริ่มปรากฏ บริษัทต่าง ๆ ควรเริ่มก้าวแรกสู่โลกใหม่นี้อย่างไร

“ทุกบริษัทจำเป็นต้องหาสถานที่ใน metaverse ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างขีดความสามารถด้านความเป็นจริงที่เพิ่มขึ้น หากบริษัทไม่พร้อมสำหรับเรื่องใหม่นี้ พวกเขาจำเป็นต้องพิจารณาอนาคตของพวกเขาอย่างจริงจัง  เพราะทุกอย่างกำลังเคลื่อนไปในทิศทางนี้” Julie Smithson ผู้ร่วมก่อตั้ง MetaVRse กล่าว

แม้จะมีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่วิธีการเชิงรุกและความอยากรู้อยากเห็นสามารถช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จาก metaverse ซึ่งกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการมอบผลประโยชน์และการสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของโลกทั้งสองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3NQyVeJ

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3Is2LVz

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3uDVY5s

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3IHBG13

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/Sdfq8mFayrI

Credit Image : www.technologyreview.com

Geek Daily EP131 : เมื่อ Uber ผลาญเงินจนใกล้หมด แต่เส้นทางสู่ชัยชนะในระยะยาวยังคงริบหรี่

นับตั้งแต่ Uber ก่อตั้งบริษัทในปี 2008 ด้วยโมเดลที่โครตง่ายต่อการ copy คู่แข่งจำนวนมากก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Lyft ในการเรียกรถ, DoorDash ในการจัดส่งอาหาร หรือ Convoy ในการขนส่งสินค้าและรถบรรทุก

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ การไล่ออกที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนวัฒนธรรมในที่ทำงาน ความกดดันทางการเมือง และการต่อสู้กับหน่วยงานกำกับดูแล เป็นต้น และดูเหมือนตอนนี้เส้นทางในการเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรได้จริง ๆ ของพวกเขายังคงริบหรี่

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3IseW52

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3ySqT0H

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3yjOky8

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3Iqcb4b

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/kKyfjWHQ3Pg

Credit Image : washingtonpost.com