ข้อดีและข้อเสียสำหรับเอลซัลวาดอร์ ในการเป็นประเทศแรกที่ก้าวสู่ Bitcoin Nation

เอลซัลวาดอร์ได้กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ยอมรับ bitcoin เป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย การสร้างวิสัยทัศน์ของประเทศใหม่จากประธานาธิบดี Nayib Bukele ที่หวังว่า bitcoin จะช่วยชาวซัลวาดอร์ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศด้วยค่าคอมมิชชั่นจากเงินที่พวกเขาส่งกลับบ้านที่ถูกลง

แม้จะได้รับความนิยมแต่นโยบายดังกล่าวได้รับการตอบรับด้วยความสงสัยของชาวซัลวาดอร์หลายคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลและรูปแบบการทำงานของมันจะเป็นอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นข้อดีและข้อเสียบางประการที่เกิดขึ้นกับแผนการของเอลซัลวาดอร์ ในการก้าวสู่ Bitcoin Nation ซึ่งเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2021

การโอนเงิน

ชาวเอลซัลวาดอร์ในปีที่แล้วส่งเงินกลับบ้านเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์จากต่างประเทศ ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 23% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศ

Bukele กล่าวว่า bitcoin จะช่วยให้ชาวเอลซัลวาดอร์สามารถประหยัดเงินค่าคอมมิชชั่นสำหรับการโอนเงินได้ 400 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี

แต่ผู้คนจำนวนมากที่ส่งหรือรับดอลลาร์ไปยังเอลซัลวาดอร์ ไม่ไว้วางใจ bitcoin ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่าต้นทุนการโอนเงินในสหรัฐฯ ของประเทศในอเมริกากลางที่มีค่าเงินดอลลาร์นั้นต่ำที่สุดในโลกอยู่แล้ว

มีเพียง 30% ของชาวซัลวาดอร์ที่มีบัญชีธนาคารในปี 2017 ตามรายงานของ World Bank ซึ่งมีความหวังว่า bitcoin จะสามารถส่งเสริมบริการทางการเงินในประเทศได้ อย่างไรก็ตามผลการศึกษาในปี 2020 สรุปว่า เอลซัลวาดอร์มีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตต่ำเป็นอันดับสองในละตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งอาจกลายเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการใช้สกุลเงินดิจิทัลออนไลน์

Carbon Footprint

แผน bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ cryptocurrencies โดยที่ธนาคารโลกระบุถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าวท่ามกลางข้อกังวลมากมาย

การขุดเหมือนในสกุุลเงินดิจิทัลต้องใช้พลังงานจำนวนมาก และการปล่อย CO2 ทั่วโลกของอุตสาหกรรม bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านตัน เท่ากับไอเสียจากรถยนต์ประมาณ 9 ล้านคัน

Bukele พยายามที่จะตอบโต้ข้อกังวลด้านความยั่งยืนในเรื่องพลังงานโดยกล่าวว่าในเดือนมิถุนายนเขาได้สั่งให้ LaGeo บริษัท ไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เป็นของรัฐพัฒนาแผนการที่จะเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำเหมือง bitcoin โดยใช้พลังงานหมุนเวียนจากภูเขาไฟของประเทศ

การปฏิบัติตามกฎระเบียบ

แม้ว่าจะใช้ Bitcoin ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ถูกควบคุมจากรัฐบาลกลาง แต่ก็มีคำเตือนว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ การเงิน และการดำเนินงานสำหรับสถาบันการเงิน รวมถึงกฎการต่อต้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย

ในเดือนมิถุนายน 2021 หน่วยงานจัดอันดับ Fitch Ratings กล่าวว่า “กำไรจากการลงทุนจะไม่ถูกเก็บภาษีและสามารถจ่ายภาษีเป็น bitcoin ได้ ซึ่งสามารถดึงดูดกระแสเงินให้ไหลเข้าจากต่างประเทศของ bitcoin แต่ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นเงินจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่จะผ่านระบบการเงินของซัลวาดอร์ “

กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้อ้างถึงข้อกังวลทางกฎหมายเกี่ยวกับการยอมรับ bitcoin ท่ามกลางการเจรจากับเอลซัลวาดอร์เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเงินเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ซึ่งยังคงค้างอยู่

หลังจากที่กฎหมาย bitcoin ของ Bukele ได้รับการอนุมัติ หน่วยงานจัดอันดับ Moody’s ก็ปรับลดอันดับประเทศเอลซัลวาดอร์ พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ของประเทศ ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน เช่นกัน

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

Bukele ได้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์เพื่อให้สามารถแปลงเป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ แต่ความสงสัยยังคงมีอยู่ว่าประเทศจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับความผันผวนอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมูลค่าอาจแตกต่างกันไปหลายร้อยดอลลาร์ในหนึ่งวัน

Fitch แย้งว่า bitcoin จะส่งผลต่อบริษัทประกันภัยในเอลซัลวาดอร์ที่ต้องเผชิญกับสกุลเงินอันเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นและความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้

“บริษัทประกันที่ถือ bitcoin ในงบดุลเป็นระยะเวลานานจะต้องเผชิญกับความผันผวนของราคาอย่างรุนแรง และเพิ่มความเสี่ยงด้านสินทรัพย์” Fitch กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ถือ bitcoin นั้น ได้มีทดลองใช้วิธีการชำระเงินแบบใหม่นี้ใน El Zonte เมืองชายทะเลที่เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นสำหรับสกุลเงินดิจิทัลในเอลซัลวาดอร์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บทสรุป

ผมว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจ กับประเทศอย่างเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเมื่อก่อนหลายคนอาจจะแทบไม่รู้ว่าอยู่ในส่วนไหนของโลก แต่การเกาะกระแสไปกับสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ทำให้พวกเขากลายเป็นข่าวไปทั่วโลก เป็นการ PR ประเทศฟรี ๆ ซึ่งตอนนี้ประเทศของพวกเขาคงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว

ถือเป็นการเดิมพันกับประเทศครั้งสำคัญ สร้างจุดเด่นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล และทุ่มหมดหน้าตักให้กับเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ ก็ถืออว่าเป็น case study ที่น่าสนใจมาก ๆ

ซึ่งแน่นอนว่า ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไรเรายังไม่รู้ อาจจะพาประเทศติดดอย หรือ อาจจะพุ่ง To the Moon แต่แนวคิดของ ประธานาธิบดี Nayib Bukele ที่ถือเป็นคนรุ่นใหม่ น่าจะเป็น Case Study ในการเลือกยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่น่าสนใจเลยทีเดียวครับผม

References :
https://datatopics.worldbank.org/g20fidata/country/el-salvador
https://www.reuters.com/world/americas/migrant-families-wary-el-salvador-becomes-first-adopt-bitcoin-2021-09-06/
https://www.reuters.com/technology/pros-cons-el-salvador-first-bitcoin-nation-2021-09-06/
https://d1softballnews.com/el-salvador-and-bitcoin-the-non-fungible-currency-race-continues/

Electronic Skin กับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ควบคุมหุ่นยนต์ด้วยการตอบสนองแบบสัมผัสเสมือนจริง

ความสามารถในการสร้างตัวเองให้กลายเป็นหุ่นยนต์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การใช้งานจริงไปจนถึงเรื่องในจินตนาการจากนิยาย Sci-Fi อินเทอร์เฟซที่มีอยู่ซึ่งอาจทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้มักจะมีขนาดใหญ่ แต่ electronic skin ไร้สายที่สร้างโดยนักวิจัยชาวจีนทำให้การควบคุมมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า

แม้ว่าวันหนึ่งหุ่นยนต์อัจฉริยะอาจจะสามารถเชื่อมต่อกับส่วนประสานต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ได้ แต่พวกมันก็ยังพยายามทำงานหลายอย่างที่เราอยากให้พวกมันทำ ในระหว่างนี้ หลายคนเชื่อว่าการสร้างวิธีที่มนุษย์จะใช้หุ่นยนต์ควบคุมจากทางไกล อาจเป็นวิธีการที่มีประโยชน์ที่สุด

วิธีการนี้อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ยังเกินความสามารถของหุ่นยนต์อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การกำจัดระเบิดหรือการกำจัดของเสียกัมมันตภาพรังสี หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ

แม้ว่าหุ่นยนต์ควบคุมจากระยะไกลจะมีอยู่แล้ว แต่ความสามารถในการควบคุมพวกมันผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายตามธรรมชาติอาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานง่ายขึ้นมาก 

นอกจากนี้ยังอาจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงกระดูกภายนอกของหุ่นยนต์ที่ใช้งานได้จริงหรือแม้แต่อวัยวะเทียมที่ดีขึ้น และทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่สมจริงซึ่งผู้ใช้ควบคุมร่างกายของหุ่นยนต์ได้

แม้ว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาสำหรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของมนุษย์ให้กลายเป็นสัญญาณสำหรับหุ่นยนต์ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ยุ่งยากซึ่งผู้ใช้ต้องสวมใส่หรือระบบคอมพิวเตอร์วิชันซิสเต็มที่มีความซับซ้อนสูง

ตอนนี้ ทีมนักวิจัยจากประเทศจีนได้สร้าง electronic skin ที่ยืดหยุ่นซึ่งเต็มไปด้วยเซ็นเซอร์ เครื่องส่งสัญญาณไร้สาย และแม่เหล็กแบบสั่นขนาดเล็กที่สามารถให้การตอบสนองแบบสัมผัสแก่ผู้ใช้ได้ ด้วยการติดแผ่นแปะเหล่านี้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มือ ปลายแขน หรือเข่า ระบบสามารถบันทึกการเคลื่อนไหวของผู้ใช้และส่งไปยังหุ่นยนต์

งานวิจัยที่ได้อธิบายไว้ในบทความที่ตีพิมพ์ใน Science Advances สร้างขึ้นจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยืดหยุ่นได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผลงานหลักๆ ของงานวิจัยนี้คือทำให้ส่วนประกอบต่างๆ เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด ทรงพลัง และใช้งานง่าย

เซ็นเซอร์ของระบบใช้วัสดุแบบ piezoresistive ซึ่งความต้านทานไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงเมื่ออยู่ภายใต้ความเค้น (Stress) ซึ่งช่วยให้พวกมันทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ในการดัดงอส่วนต่าง ๆ ของหุ่นยนต์ ดังนั้นเมื่อแผ่นปะติดเข้ากับข้อต่อของผู้ใช้ การเปลี่ยนแปลงของแรงต้านจะสอดคล้องกับมุมที่มันโค้งงอจริง

เซ็นเซอร์เหล่านี้เชื่อมต่อกับไมโครคอนโทรลเลอร์ส่วนกลางผ่านสายทองแดงที่แกว่งไปมาในลักษณะคล้ายงู ซึ่งรูปแบบซิกแซกนี้ช่วยให้สายไฟขยายออกได้ง่ายเมื่อมีการยืดหรืองอ และยังป้องกันไม่ให้สายไฟขาดจากแรงกด 

โดยสัญญาณแรงดันไฟจากเซ็นเซอร์จะถูกประมวลผลและส่งผ่าน Bluetooth โดยตรงไปยังอุปกรณ์หุ่นยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงหรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถส่งต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน

เซ็นเซอร์บนผิวหนังส่งต่อผ่าน  Bluetooth ทำให้มีความละเอียดสูงสมจริงขึ้น (CR:Tech Gaming Report)
เซ็นเซอร์บนผิวหนังส่งต่อผ่าน Bluetooth ทำให้มีความละเอียดสูงสมจริงขึ้น (CR:Tech Gaming Report)

นักวิจัยได้สร้างระบบป้อนข้อมูลกลับด้วยเซ็นเซอร์แบบ piezoresistive แบบเดียวกันที่สามารถติดเข้ากับส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์หุ่นยนต์ได้ เช่น ที่ปลายนิ้วซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์แรงดัน

สัญญาณจากเซ็นเซอร์เหล่านี้จะถูกส่งไปยังผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใช้เพื่อควบคุมแม่เหล็กขนาดเล็กที่สั่นสะเทือนที่ความถี่ต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่ามีการใช้แรงกดมากเพียงใด นักวิจัยแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ที่ควบคุมมือหุ่นยนต์สามารถใช้รับแรงสะท้อนเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างลูกบาศก์ของยางที่มีระดับความแข็งที่ต่างกันได้

ที่สำคัญ เวลาตอบสนองของสัญญาณนั้นต่ำเพียง 4 ไมโครวินาทีในขณะที่ทำงานโดยตรงผ่านบลูทูธ และใช้เพียง 350 ไมโครวินาทีหากทำงานบนเครือข่าย Wi-Fi ในพื้นที่ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 550 ไมโครวินาทีที่มนุษย์ใช้ในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่สัมผัสจริงได้ การส่งสัญญาณทางอินเทอร์เน็ตทำให้เวลาตอบสนองเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วงระหว่าง 30 ถึง 50 มิลลิวินาที

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่าการผสมผสานรูปแบบต่างๆ จากอินพุทด้วยภาพจากแว่นตา VR ผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์สามารถควบคุมรถจากระยะไกลด้วยนิ้วมือ ใช้แขนหุ่นยนต์เพื่อตรวจไวรัสโควิด-19 หรือแม้แต่สร้างหุ่นจำลองมนุษย์ หุ่นยนต์เดิน หมอบ ทำความสะอาดห้อง และหุ่นยนต์ที่ช่วยพยาบาลผู้ป่วย

ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในตัวซึ่งให้พลังงานเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อทำงานอย่างต่อเนื่องได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในโหมดสแตนด์บายสามารถอยู่ได้เกือบสองสัปดาห์ และสายทองแดงของอุปกรณ์ยังสามารถทำหน้าที่เป็นเสาอากาศเพื่อชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายได้อีกด้วย

ทั้งนี้ระบบดังกล่าวต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจึงจะนำไปใช้ในงานจริง แต่ความสามารถที่น่าประทับใจและการออกแบบที่ประณีตของมันบ่งบอกว่าเซ็นเซอร์ที่ยืดหยุ่นได้ตัวนี้ จะช่วยให้เราควบคุมหุ่นยนต์จากระยะไกลเหมือนในนวนิยาย Sci-Fi ได้ในอนาคตอันใกล้นั่นเองครับผม

References : https://www.science.org/doi/10.1126/sciadv.abl6700
http://www.taghribnews.com/en/news/535230/scientists-develop-electronic-skin
https://singularityhub.com/2022/01/17/sensor-packed-electronic-skin-controls-robots-with-haptic-feedback

Geek Daily EP103 : Instagram x NFTs จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เตรียมลุยตลาด NFTs

รายงาน จากสำนักข่าว Financial Times ระบุว่า Meta และบริษัทในเครือ Instagram กำลังสำรวจเทคโนโลยี NFT  โดยอ้างว่า Meta และ Instagram กำลังสร้างแนวคิดเกี่ยวกับตลาดสำหรับผู้ใช้ในการซื้อและขาย NFT อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำพูดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี NFT จากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติของอเมริกาที่ตั้งอยู่ใน Menlo Park

แหล่งข่าวกล่าวว่าทั้งสองบริษัทมีฟีเจอร์ NFT ที่พร้อมแล้ว แต่แนวคิดสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป Meta อยู่ในระดับแนวหน้าในการพยายามเป็นผู้นำในเทรนด์ metaverse และเป็นเจ้าของ Oculus ที่พัฒนาเทคโนโลยี VR อย่างไรก็ตาม Meta ไม่ได้กล่าวถึงอะไรเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี NFT ในอนาคต อย่างไรก็ตาม Instagram ได้บอกใบ้ถึงการใช้ NFTs บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3nKPDBQ

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/32lKqcd

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3qQG9qU

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3AnKftn

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/FZtIQu5_EGg

ผู้สนับสนุน..

Fillgoods ผู้ช่วยมืออาชีพของธุรกิจออนไลน์ ที่จะทำให้ชีวิตง่ายและสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตการทำงานของธุรกิจออนไลน์อย่างแท้จริง

ให้ทุกธุรกิจสามารถทำกำไรและสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้ตามที่ต้องการอย่างไร้กังวล ร้านค้าที่ยังประสบปัญหาที่คอยฉุดยอดขายและโอกาสเติบโตให้ดิ่งเหว

สามารถติดต่อให้ Fillgoods เข้าไปเป็นผู้ช่วยธุรกิจคุณได้ที่สมัครใช้งานและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://fillgoods.co/  สมัครตอนนี้มีโปรโมชันพิเศษมากมาย อัปเดตกิจกรรมและข่าวสารที่ https://www.facebook.com/fillgoods.co/ หรือโทร 021146800 กด 1

Swarm Hive Mind กับเทคโนโลยีทางการทหารใหม่ที่ควบคุมฝูงบินโดรน 130 ลำด้วยทหาร 1 นาย

ผมเป็นหนึ่งในคนที่สนใจเทคโนโลยีทางการทหาร หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจริง ๆ เราคงจินตนาการไม่ออกเลยว่าความล้ำสมัยของเทคโนโลยีทางด้านการทหารในตอนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากเกิดสงครามเต็มรูปแบบขึ้นมาจริง ๆ

ตัวอย่างที่น่าสยดสยองของความสามารถในการทำสงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้น  ซึ่งเพนตากอนได้ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีที่อนุญาตให้ทหารเพียงคนเดียวควบคุมโดรน 130 ลำสำหรับการปฏิบัติการทางทหาร

เบื้องหลังโครงการคือบริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศ Raytheon ซึ่งทำงานร่วมกับ Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) ทีมงานประสบความสำเร็จในการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ในสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกเมือง ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของบริษัท 

โครงการดังกล่าวได้รับการขนานนามว่า “OFFensive Swarm-Enabled Tactics” (OFFSET) ผู้ปฏิบัติงานเพียงคนเดียวสามารถควบคุมฝูงบินโดรน ฝูงนี้ประกอบด้วยโดรน 130 ลำและโดรนจำลอง 30 ลำ ซึ่งทาง Raytheon อ้างว่าซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในฝูงบินโดรนช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสั่งงานฝูงบินได้อย่างง่ายดายทั้งในร่มและกลางแจ้งในเขตเมือง 

“การควบคุมฝูงโดรนเปลี่ยนวิธีที่ผู้ปฏิบัติงานคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดรน” Shane Clark ผู้นำของโครงการ OFFSET ที่ Raytheon กล่าว

องค์ประกอบสำคัญของโปรแกรมนี้คือการใช้ฮาร์ดแวร์ราคาไม่แพง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการคำนวณและการตรวจจับที่มีประสิทธิภาพสูงในฮาร์ดแวร์ขนาดใหญ่ที่มีราคาแพง

โดย Raytheon ได้ทำการสร้างคลังข้อมูลกว้างๆ ของการสร้างกลยุทธ์อย่างง่ายที่ใช้ในการสร้างแผนเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของภารกิจ 

Raytheon ได้ออกแบบและกำหนดค่าวิธีการปรับแต่ง แยกส่วน และทำการกระจายการควบคุมในส่วนของการจัดการแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจในปัจจุบันและในอนาคตที่มีความหลากหลายได้

โดยเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ โดรนทั้งฝูงจะร่วมมือกันเพื่อตัดสินใจว่าจะทำภารกิจใดภารกิจหนึ่งให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร

ซึ่งผู้ควบคุมฝูงบินโดรนจะไม่ทำอย่างนั้นที่โต๊ะและจอยสติ๊กเหมือนเก่าอีกต่อไป แต่พวกเขาจะใช้อินเทอร์เฟซเสมือนจริงอย่างเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถมองผ่านโดรนแต่ละตัวได้ สิ่งนี้สร้าง “มุมมองเสมือนจริงที่สามารถโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ของสภาพแวดล้อมในขณะที่มีการรบ” Clark กล่าว

“คุณสามารถมองไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าถึงมุมมองของสถานที่ที่โดรนเข้าถึง และใช้สภาพแวดล้อมเสมือนจริงเพื่อทดสอบและดูว่าภารกิจของคุณเป็นไปได้หรือไม่” Clark อธิบาย 

ทีมงานยังได้สร้างอินเทอร์เฟซเสียงพูดที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสั่งงานด้วยเสียงกับฝูงบินได้ Clark เสริมว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการได้อย่างรวดเร็วในขณะที่ยังคงตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภารกิจนั้น ๆ

ต้องบอกว่าฝูงโดรนที่บินเข้าสู่สงครามเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีด้านสงครามที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับ ลองนึกภาพที่คนๆ เดียวกำลังควบคุมฝูงโดรนขนาดใหญ่โดยใช้ VR และคำสั่งเสียงนั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ และมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว 

References : https://www.raytheonintelligenceandspace.com/news/advisories/raytheon-intelligence-space-drone-swarm-control-solution-shines-darpa-field
https://futurism.com/the-byte/terrifying-robot-swarm-smarter
https://www.techeblog.com/darpa-offset-drones/

Jack Dorsey x Block เมื่ออดีตซีอีโอ twitter กำลังสร้างระบบใหม่สำหรับนักขุด bitcoin

Block บริษัทชำระเงินของ Jack Dorsey (เดิมชื่อ Square) กำลังจะเข้าสู่วงการขุด bitcoin ซึ่ง Thomas Templeton ผู้จัดการทั่วไปด้านฮาร์ดแวร์ของ Block ทวีตข้อความซึ่งได้ระบุแผนของบริษัทสำหรับขั้นตอนต่อไป

Templeton กล่าวว่าเป้าหมายคือการทำเหมือง bitcoin ซึ่งเป็นกระบวนการสร้าง bitcoin ใหม่โดยการแก้ปัญหาการคำนวณที่ซับซ้อนมากขึ้น มีการกระจายอำนาจและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน “ตั้งแต่การซื้อ การตั้งค่า การบำรุงรักษา ไปจนถึงการขุด”

แนวคิดในการทำให้กระบวนการทำเหมืองเข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั้น ไม่ใช่แค่การสร้าง bitcoin ใหม่ Templeton กล่าวว่าบริษัทมองว่าเป็นความต้องการระยะยาวสำหรับอนาคตที่มีการกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์

“การขุดจำเป็นต้องมีการกระจายมากขึ้น” Dorsey ทวีตเมื่อเดือนตุลาคมเมื่อเขาเสนอแนวคิดนี้ เป็นครั้งแรก “ยิ่งมีการกระจายอำนาจมากเท่าไร เครือข่าย bitcoin จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเท่านั้น”

ในตอนท้ายนั้น บริษัทกำลังแก้ไขอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งในการเข้าสู่วงการขุดของคนทั่วไป : แท่นขุดเจาะหายาก มีราคาแพง Block กล่าวว่าพวกเขาจะเปิดให้มีการสร้าง ASIC ใหม่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการขุด bitcoin

โปรเจ็กต์นี้อยู่ในทีมฮาร์ดแวร์ของ Block ซึ่งกำลังเริ่มสร้างทีมวิศวกรรมหลักของระบบ ASIC และนักออกแบบซอฟต์แวร์ที่นำโดย Afshin Rezayee

ในแง่ของฮาร์ดแวร์ Dorsey ทวีตก่อนหน้านี้  ว่าบริษัทกำลังพิจารณา “ระบบการขุด bitcoin ที่ใช้ชิปของตัวเอง”  Dorsey ได้แบ่งปันความคิดของเขาเกี่ยวกับความจำเป็นในการมุ่งเน้นที่การบูรณาการในแนวดิ่งมากขึ้น เช่นเดียวกับการออกแบบชิป ซึ่งเขากล่าวว่าในตอนนี้มีเพียงไม่กี่บริษัทที่ทำอยู่และมีการผูกขาดมากจนเกินไป

Templeton เขียนว่า Block ยังต้องการปรับปรุงความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ผู้ใช้ในการขุด

“ปัญหาทั่วไปที่เราได้ยินเกี่ยวกับระบบปัจจุบันคือเรื่องการกระจายความร้อนและฝุ่นละออง นอกจากนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ทุกวันซึ่งต้องมีการรีบูตเป็นเวลานาน เราต้องการสร้างบางสิ่งที่ใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ” Templeton กล่าว “เครื่องขุดในตอนนี้มันยังมีเสียงดังมาก ซึ่งทำให้เสียงดังเกินไปสำหรับใช้ในบ้าน”

การทำให้ทุกคนเข้าถึงการขุด bitcoin ได้เป็นส่วนสำคัญของพันธกิจของโครงการนี้

“ทุกคนเข้าถึงการขุดไม่ได้” Dorsey เขียนเมื่อเดือนตุลาคม “การขุด Bitcoin ควรจะง่ายพอๆ กับการเสียบอุปกรณ์เข้ากับแหล่งพลังงาน วันนี้มีแรงจูงใจไม่เพียงพอสำหรับบุคคลทั่วไปที่จะเอาชนะความซับซ้อนของการขุดด้วยตนเอง”

การประกาศจาก Block เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่สหรัฐฯ เอาชนะประเทศจีนได้เป็นครั้งแรกในฐานะจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของโลกสำหรับนักขุด Bitcoin สหรัฐอเมริกายังมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนมากมายอีกด้วย

รัฐวอชิงตันเป็นเมืองใหญ่สำหรับฟาร์มทำเหมืองพลังน้ำ นิวยอร์กผลิตไฟฟ้าพลังน้ำมากกว่ารัฐอื่นๆ และยังรวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จะนำไปสู่เป้าหมายการผลิตไฟฟ้าที่ปราศจากคาร์บอน 100% 

ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของพลังงานหมุนเวียนของเท็กซัสก็เพิ่มขึ้น โดย 20% ของพลังงานมาจากพลังงานลม  และเท็กซัสยังคงเพิ่มแหล่งผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์อีกมาก

เท็กซัสยังมีโครงข่ายไฟฟ้าที่สามารถกำหนดราคาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกระหว่างผู้ให้บริการพลังงาน และที่สำคัญคือ เท็กซัสยังมีผู้นำทางการเมืองที่เป็นมืออาชีพในวงการ crypto นี่เป็นเงื่อนไขในฝันสำหรับนักขุดที่ต้องการการต้อนรับที่ดีและแหล่งพลังงานที่มีราคาถูก

“หากคุณต้องการย้ายนักขุดออกจากจีน คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีความมั่นคงทางภูมิศาสตร์ การเมือง และเขตอำนาจศาล คุณต้องการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนตัวสำหรับทรัพย์สินที่คุณกำลังย้ายเข้ามา” Darin Feinstein ผู้ร่วมก่อตั้งของ Core Scientific ผู้ดำเนินการขุดคริปโตเคอเรนซีกล่าว

บทสรุป 

ย้อนกลับไปที่แนวคิดตั้งต้น Bitcoin ได้สัญญาว่าจะกระจายผลประโยชน์ให้กับผู้ใช้ทุกคน แต่ในปัจจุบัน มูลค่าของเศรษฐกิจใน Bitcoin เป็นของคนไม่กี่คนที่ร่ำรวยขึ้นมา

การเกิดขึ้นของเหรียญใหม่ส่วนใหญ่ที่ออกในแต่ละวันถูกรวบรวมโดยกลุ่มเหมืองขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง ซึ่งแนวคิดของ Jack Dorsey นั้นถือว่าน่าสนใจมาก ๆ ที่จะทำให้การขุดสามารถกระจายไปยังคนทั่วไปได้ และ block จะมาช่วยเหลือปัญหาส่วนนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นมาตั้งแต่ก่อตั้ง bitcoin ซึ่งมันได้บิดเบือนแนวคิดตั้งต้นไปอย่างมากนั่นเองครับผม

References : https://www.theinformation.com/articles/square-goes-full-crypto-with-its-name-change-to-block-more-crypto-ads-coming-to-facebook
https://www.cnbc.com/2022/01/13/block-formerly-square-is-building-a-system-for-bitcoin-miners.html
https://www.theblockcrypto.com/linked/130439/jack-dorseys-block-commits-to-build-an-open-bitcoin-mining-ecosystem
https://www.theverge.com/2022/1/14/22883500/jack-dorsey-block-bitcoin-mining-system-open-source-mainstream