ประวัติ Steve Jobs ผู้สร้าง iPod ตอนที่ 2 : From Rival to Respect

มันเป็นความสัมพันธ์ที่มีความซับซ้อน อย่างแปลกประหลาด ระหว่าง บิล เกตส์ และ สตีฟ จ๊อบส์ ยุคแรกของการปฏิวัติ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งคู่ เป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักมาก ๆ แทบจะเป็นศัตรู คู่อาฆาต กันเลยด้วยซ้ำ แถม บิล เกตส์ ยังมาลอกระบบปฏิบัติการ macintosh ที่เป็น User Interface แบบใหม่ในสมัยนั้น ไปทำแข่งกลายเป็น ระบบปฏิบัติการ Windows ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก อย่าง Windows 1.x – 3.x

ต้นแบบของ windows ที่คนใช้กันทั่วโลกคือ macintosh ของ apple นั่นเอง
ต้นแบบของ windows ที่คนใช้กันทั่วโลกคือ macintosh ของ apple นั่นเอง

แต่เวลาเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน จ๊อบส์ ได้เติบโตขึ้นอีกระดับ วุฒิภาวะทางอารมณ์ ของเขาก็ดีขึ้นกว่าเก่าเป็นอย่างมาก การกลับมาคุมบังเหียน apple ในรอบที่ 2 ด้วยสถานะของบริษัท apple ที่ไม่เหมือนเดิม ตอนนี้ apple ไม่ได้เป็นผู้นำระดับต้น ๆ ในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกต่อไป สถานะทางการเงินก็ง่อนแง่น ใกล้เข้าสู่ภาวะล้มละลายเต็มที มันคงถึงเวลาที่เขาต้องหันกลับมาพึ่งพา บิล เกตส์ ศัตรู คู่อาฆาต ในอดีตเสียแล้ว

Macworld Boston , สิงหาคม 1997

หลังจากการประกาศตัวรับตำแหน่ง CEO อย่างเป็นทางการของ จ๊อบส์ ก็ทำให้มูลค่าหุ้นของ apple นั้นพุ่งจาก 13$ ขึ้นไปถึง 20$ ภายในเดือนเดียวเพียงเท่านั้น

งานเปิดตัวครั้งแรกต่อหน้าสาวกตัวจริงของ apple คือ งาน Macworld Boston ในเดือนสิงหาคมปี 1997 เหล่าสาวกกว่า 5,000 ต่างรอคอยการกลับมาของ ฮีโร่ ของเขา เพียงแค่เริ่มการปรากฏตัวบนเวที  เหล่าสาวก ต่าง ตะโกนเรียกร้อง แห่เชียร์ เสียงร้อง สตีฟ สตีฟ สตีฟ ๆๆๆ  ดังสนั่นฮอล์ที่ใช้ในการจัดงานประชุม

สตีฟ จ๊อบส์ เปิดตัวต่อหน้าแฟน ๆ ในฐานะ CEO apple คำรบสอง
สตีฟ จ๊อบส์ เปิดตัวต่อหน้าแฟน ๆ ในฐานะ CEO apple คำรบสอง

มันเป็นการนำเสนอวิสัยทัศน์ ใหม่ของ apple หลังจากก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างของ apple กำลังแย่ลงไปเรื่อย ๆ ยอดขายตกไปกว่า 30% ภายในเพียงแค่ 2 ปี 

สิ่งที่ทำก่อนหน้าในช่วงที่เขาไม่อยู่นั้น เป็นการเดินทางที่ผิดพลาดของ apple มันไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาจาก apple เลย มันเปรียบเหมือนบริษัทที่เน้นจะขาย ๆ ๆ  และยัดเยียดให้กับลูกค้าเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่า เหล่าสาวกของ apple ต้องการอะไร

ลูกค้าของ apple ไม่เหมือนลูกค้าบริษัทอื่น ๆ พวกเขาต้องการความแตกต่าง ที่จะซื้อสินค้าของ apple แต่ทิศทางของบริษัทในอดีตก่อนหน้านี้ กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ทำให้ลูกค้าค่อย ๆ หายไปจาก apple 

จ๊อบกล่าวในเวทีดังกล่าว ว่า apple ในยุคใหม่นั้นจะต้องสร้างสิ่งที่เหล่าสาวก apple ต้องการ มันต้องเป็นสิ่งที่พิเศษ กว่าที่มีอยู่ในตลาด และต้องคิดแบบแตกต่างแบบเริ่มตั้งแต่ต้นใหม่ทั้งหมด

แม้คำกล่าวของ จ๊อบส์ ในงานดังกล่าว มันเป็นเพียงการปลุกขวัญกำลังใจให้กับเหล่าสาวก apple ว่า ตอนนี้ ถึงเวลาที่ apple กำลังจะกลับมาแล้ว ซึ่งมันเป็นคำพูดง่าย ๆ แบบเดิมที่จ๊อบส์ใช้พูดเป็นประจำ แต่มันมีความหมายต่อเหล่าสาวก apple เป็นอย่างมาก ระหว่างที่กำลังฟังจ๊อบส์พูดในงาน นั้น เหล่าสาวกต่างมองหน้ากัน จับมือกัน หลาย ๆ คนถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะ ฮีโร่ ของเขา พร้อมที่จะกลับมาปลุก apple ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแล้ว

From Rival to Respect

สำหรับ จุด climax ของงาน Macworld Boston ครั้งนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากการปรากฏภาพของ Microsoft มาเป็น พาร์ทเนอร์ ทางธุรกิจใหม่ของ apple ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน ๆ สาวก apple ถึงกับอึ้งกันเลยทีเดียวเมื่อเห็นภาพนี้ครั้งแรก

ประกาศความร่วมมือกับ microsoft เพื่ออนาคตของ apple ยุคใหม่
ประกาศความร่วมมือกับ microsoft เพื่ออนาคตของ apple ยุคใหม่

apple และ microsoft นั้นเป็นศัตรูกันมากว่า ทศวรรษ มีการต่อสู้ทั้งผลิตภัณฑ์ รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มากมาย ที่อยู่ในชั้นศาล แม้ว่าในสมัย จอห์น สคัลลีย์ นั้นจะมีการเจรจายอมความ ให้ microsoft ชดใช้ค่าเสียหายจากการ copy User Interface แต่ก็ดูเหมือนท่าทีของสงครามระหว่างบริษัททั้งสองก็ยังคงไม่จบกันง่าย ๆ 

ไม่ต้องคิดถึงความเป็น พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ที่ทั้งสองบริษัท ไม่มีทางจะร่วมมือกันได้ในอดีต microsoft นั้นแทบจะไม่พัฒนา product หลักอย่าง microsoft word หรือ Excel ให้กับ ระบบปฏิบัติการ macintosh ของ apple เลย

แม้จะมีความพยายามเจรจากันในยุคของ เอเมลิโอ บ้าง แต่ด้วยเงื่อนไขทางธุรกิจที่ซับซ้อน ทำให้การเจรจาล่าช้าออกไปมาก จนถึงการกลับมาของ จ๊อบส์ ในรอบที่สอง

จ๊อบส์ ต้องการให้ deal ทุกอย่างกับ microsoft ง่ายขึ้น โดยมีการนัดคุยกันที่บ้านของจ๊อบส์ เพื่อตัดปัญหา เรื่องความยุ่งยากทั้งหมด โดยคุยกันแบบง่าย ๆ กับ เกตส์ และสุดท้าย ทั้งคู่ก็ได้ตกลงเป็น พาร์ทเนอร์ธุรกิจกันในที่สุด

ในงาน Macworld นั้น สิ่งที่ เซอร์ไพรซ์แฟน ๆ มากที่สุดคงจะเป็น การขึ้น projector หน้าจอขนาดใหญ่ และ บิลล์ เกตส์ ได้ทำการ วีดีโอ คอลผ่านระบบดาวเทียม (ในสมัยนั้น)  เข้ามายังงานดังกล่าวด้วย

เกตส์ โผล่หน้าผ่าน วีดีโอคอลเข้ามาในงาน macworld เป็นสิ่ง เซอร์ไพรซ์สุด ๆ
เกตส์ โผล่หน้าผ่าน วีดีโอคอลเข้ามาในงาน macworld เป็นสิ่ง เซอร์ไพรซ์สุด ๆ

มันเป็นการ deal กันทางธุรกิจ ล้วน ๆ เพื่อ apple สามารถที่จะก้าวต่อไปได้ จ๊อบส์ ต้องลดทิฐิ ตัวเองลง และหันไปจับมือกับ microsoft โดย microsoft นั้นจะนำผลิตภัณฑ์ หลักของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น word , excel มาลงในระบบปฏิบัติการ macintosh ตัวใหม่

จ๊อบส์ต้องการให้ software ชื่อดังอย่างตระกูล microsoft office มาลงน macintosh
จ๊อบส์ต้องการให้ software ชื่อดังอย่างตระกูล microsoft office มาลงน macintosh

และที่สำคัญนั้น microsoft ยังได้เข้ามาลงทุนใน apple ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ๆ ว่าศัตรูเก่า คู่อาฆาต อย่าง microsoft จะเข้ามาลงทุนใน apple โดยลงเงินมูลค่า 150 ล้านเหรียญ ในบริษัท apple โดยเป็นหุ้นแบบไม่มีเสียงโหวตในคณะกรรมการบริษัท

ถึงตอนนี้ สถานะของ apple ก็เริ่มที่จะกลับมาอยู่ในเส้นทางที่จะก้าวเข้าไปข้างหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง ตอนนี้ จ๊อบส์เข้ามาเคลียร์สถานการณ์ ทุกอย่างของ apple ให้กลับมาปรกติเรียบร้อยแล้ว เรื่องสถานะทางการเงิน หลังจากได้ microsoft เข้ามาเป็นผู้ลงทุนรายใหม่ apple ก็พร้อมแล้วสำหรับอนาคตใหม่ที่จะเกิดขึ้น แล้วอนาคตใหม่ของ apple จะเดินไปทางไหนต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 3 : Ive Mac

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The Second Coming  *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

How Microsoft Kill Netscape

โดยส่วนตัวนั้นเป็นคนชอบดู Documentary ของทางเมืองนอก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวงการ IT และ Series หนึ่งที่ชอบติดตามดูเป็นพิเศษคือ Game Change : ของทางฝั่ง Bloomberg ที่ได้สร้าง Documentary ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา case study ทางธุรกิจ ที่น่าสนใจในหลาย ๆ ประเด็น

สำหรับตอนที่จะกล่าวใน blog นี้คือ How Microsoft Attacked the Beast who created Netscape, Mozilla Firefox & invested Skype เป็นเรื่องราวในยุคต้นกำเนิดของ Internet ซึ่งเราคงมองภาพไม่ออกในยุคแรก ๆ  ที่ยังไม่มี internet ใช้ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับการสร้าง Web Browser มาซัวในยุคปลาย 1990

Mosaic เว๊บ Browser ตัวแรกของโลก

สำหรับ Browser ตัวแรกของโลกนั้นต้องยกให้กับ Mosaic ที่พัฒนาโดย Lab ของ University of Illinois of Urbana Chanpaign ที่ผู้ที่ได้ว่าเป็นผู้ถือกำเนิดมันก็คือ Marc Andreessen ซึ่งต้องถือเป็นเจ้าพ่อ internet ในยุคแรก ๆ เลยก็ว่าที่ทำให้ internet เป็น Graphic ที่สวยงามให้คนทั่วไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นรูปแบบของ text mode อยู่ หลังจากปล่อยให้ Download Free และเป็นที่นิยมอย่างมากแล้วนั้น Marc ก็ถูกนายทุน โดย Jim Clark ที่ชักชวน Marc ให้มาเปิดบริษัทเพื่อพัฒนา Web Browser เพื่อขายเป็น commercial โดยได้ร่วมตั้ง Netscape ขึ้นมา ต้องถือว่าโชคดีผมก็มีโอกาสได้ใช้ Netscape กับเค้าเหมือนกัน ๆ กันยุคแรก ๆ  ก่อนที่ Microsoft จะใช้ IE ตีตลาดจนไม่เหลือที่ว่างให้ Netscape และก็ได้มีโอกาสได้สร้าง HTML Web ในช่วงแรก ๆ เหมือนกันซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เบนเข็มมาเรียนทางด้าน Computer Engineer

หลาย ๆ คนอาจจะเคยใช้ netscape ซึ่งเป็น browser ตัวแรก ๆ ก่อนที่ IE ของ microsoft จะออกมา
หลาย ๆ คนอาจจะเคยใช้ netscape ซึ่งเป็น browser ตัวแรก ๆ ก่อนที่ IE ของ microsoft จะออกมา

ในช่วงปลาย 1990 นั้น Marc ถือว่าเป็นบุคคลที่โด่งดังมาก เนื่องจากหลังจากสร้าง NetScape และปล่อยออกสู่ตลาดนั้น ก็ได้นำบริษัททำ IPO เพื่อเข้าตลาดหุ้นโดยแทบจะทันที ซึ่งตอนนั้นก็ทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนอยู่พอสมควร

เนื่องจากมูลค่าหุ้นขึ้นไปสูงถึงระดับ 171$  ในช่วงเปิดตัวแรก ๆ  ทำให้บริษัทมีมูลค่าทันทีถึง  2 พันล้านเหรียญในยุคนั้น ซึ่งถือว่ามากพอตัว   และทำให้เค้ากลายเป็นเศรษฐีหนุ่มทันทีจากมูลค่าหุ้น และนักลงทุน ที่ร่วมก็รวย ๆ กันไปตาม ๆ กันจากมูลค่าหุ้นที่พุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงดังกล่าว

Marc Andreessen บิดาแห่ง Browser
Marc Andreessen บิดาแห่ง Browser

แต่การเกิดขึ้นของ NetScape นั้นเหมือนเป็นการปลุกยักษ์ให้ตื่น Microsoft ในสมัยนั้นเป็นบริษัทที่มูลค่าแทบจะสูงที่สุดในโลกของ Technology Company ซึ่ง Gate ก็ไม่รอช้า ในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ Microsoft ต้องออก OS ใหม่พอดีซึ่งก็คือ Microsoft Windows 95  

โดยทาง Microsoft นั้นใช้แผนที่เหนือเมฆ คือนำ Internet Exproler ออกสู่ตลาดโดยแถมมากับระบบปฏิบัติการ Windows 95 เลยแทบจะทันที โดย microsoft นั้นก็ได้พัฒนาตัว IE โดยใช้พื้นฐานมาจาก Mosaic ที่ Marc เป็นคนพัฒนาขึ้นในตอนอยู่  University of illinois of Urbana Chanpaign นั่นเอง

ซึ่ง Microsoft นั้นเป็นบริษัทที่ทุนหนาอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแต่อย่างใด ในการแถม Browser ไปกับระบบปฏิบัติการ และเป็นยิ่งส่งเสริมให้คนหันมาใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 95 มากยิ่งขึ้นเสียไปอีก ซึ่งเป็นความโหดมากของ microsoft ในการแทบจะ ฆ่า Netscape ออกไปจากตลาด และ เพิ่มยอดขายของ Windows 95 เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว

Microsoft ออก Internet Exproler มาแถมกับระบบปฏิบัติการ เพื่อฆ่า Netscape
Microsoft ออก Internet Explorer มาแถมกับระบบปฏิบัติการ เพื่อฆ่า Netscape

สุดท้ายก็มีการฟ้องร้องกันหาว่า Microsoft ผูกขาดการตลาดของระบบปฏิบัติการ ทางฝั่ง microsoft นั้นก็ไม่แยแสในเรื่องที่เกิดขึ้นเดินหน้าแถม Browser ต่อไปจนครองส่วนแบ่งแทบจะทั้งหมดของ Browser ในขณะนั้น

และ ทำให้ Netscape ต้องถูกขายให้กับ AOL ในภายหลังก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น Moziila Firefox อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนคดีความฟ้องร้องนั้น ถึงแม้สุดท้าย ศาลจะพิพากษาให้ Microsoft เป็นฝ่ายผิด แต่ microsoft ก็ยินยอมจ่ายค่าปรับเพียงร้อยกว่าล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเปรียบเหมือนในสงครามนี้ microsoft ยอมแพ้ในศาลแต่ ในเชิงธุรกิจนั้น Netscape ได้ตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

Life Story of Bill Gates

ถือว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการ it โลกคนหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับ Bill Gates ผู้ซึ่งได้สร้างอาณาจักร microsoft ให้ยิ่งใหญ่ได้จนถึงปัจจุบันนี้

Bill Gates นั้นเป็นผู้ที่ถือได้ว่ามีความอัจฉริยะ มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เนื่องจากในยุคนั้นเป็นยุคแรก ๆ ของ computer ซึ่งไม่ค่อยมีโรงเรียนไหนได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ซักเท่าไหร่ แม้กระทั่งในอเมริกา แต่ถือเป็นโชคดีของ gates ที่โรงเรียนมัธยมที่เค้าได้เข้าศึกษาในเมือง Seattle  ซึ่งถือว่า computer ก็เป็นสิ่งที่ bill gates หลงรักมาตั้งแต่นั้น

ในช่วงชีวิตมหาลัยในรั้ว harvard นั้น gates หมกมุ่นอยู่กับ computer แทบจะ 24 hrs ทำให้แทบจะไม่ค่อยได้เรียนซักเท่าไหร่ และเขาก็ได้เล็งเห็นโอกาสสำคัญของ Personal Computer ที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคนั้น โดยเริ่มต้นนั้นเขาได้พัฒนาตัว software ให้กับเครื่อง computer altair 8080  ซึ่งก็คือ Basic 1.0 นั่นเอง ซึ่งในตอนนั้น ๆ ยังไม่มีการซื้อ software กันเป็นที่แพร่หลาย คนทั่วไปจะมองค่าแค่ตัว hardware แต่ gates ก็ทำให้วงการยอมรับว่าต้องมี license ในส่วนของ software

หลังจากพัฒนา Basic ให้ Altair Gates ก็เห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ และทำให้ได้ออกจากการเรียนที่ harvard และมาตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อนของเค้าอย่าง Paul Allen ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับ microsoft ในยุคแรก ๆ และในช่วงนั้น IBM ยักษ์ใหญ่ของตลาดในขณะนั้นกำลังเข้ามาทำตลาดในส่วนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเตรียมที่กำลังจะออก IBM PC  แต่ตอนนั้นยังไม่มี software เป็นของตัวเอง Gates จึงได้ไปนำเสนอระบบปฏิบัติการเพื่อให้รันได้กับ IBM PC โดยขายเป็น license fee ตามจำนวนเครื่องที่ IBM ขายได้

ในตอนนั้น gates ก็ยังไม่มีตัว software ระบบปฏบัติการใด ๆ และได้ทำการไปซื้อ MS-DOS มาโดยใช้เงินเพียงแค่ 50,000 เหรียญ แล้วนำมาขายให้กับ IBM ซึ่งเป็นช่วงเปิดตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลพอดีจึงทำให้ Gates กลายเป็นเศรษฐีไปในแทบจะทันที

และเนื่องจากช่วงนั้นในปลายปี 1990-1990 เป็นช่วงที่มีกระแสบูมสุดขีดของ personal computer ทำให้ยอดขายระบบ MS-DOS นั้นเป็นจำนวนเงินมหาศาล รวมทั้ง Gates ไม่ได้ขายให้กับ IBM เพียงเจ้าเดียว ซึ่งเจ้าไหนที่ทำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นก็จะมีการขายระบบปฏิบัติการของ Bill Gates เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีการแข่งขันกับบริษัท apple ของ Steve Jobs ซึ่งทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่แข่งกันอย่างยาวนาน ก่อนที่ลังจากนั้นถัดมาไม่นาน microsoft จะกินรวบตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกว่า 90% หลังจากได้ทำการออก windows 95, 98 และ XP ที่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลกในช่วงนึงเลยก็ว่าได้

นั่งเองก็ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอย่างอย่างนานเนื่องจากครองถือหุ้น microsoft ไว้กว่า 40%  และถึงแม้จะมีการฟ้องร้องด้านการผูกขาดตามมาภายหลังก็ตาม แต่ได้ถือว่าเค้าได้ทำลายคู่แข่งในตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งตลาดระบบปฏิบัติการที่มีคู่แข่งอย่าง Mac OS ที่แทบจะล้มละลายปิดบริษัทไปในช่วงนั้น และ ตลาดของ Browser ที่มีคู่แข่งในตอนนั้นอย่าง Netscape ก็ได้ล้มหายตายไปจากวงการไปเป็นที่เรียบร้อย

ถ้ามองดูตัว bill gates จริง ๆ นั้นถือว่าเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก การใช้กลวิธีต่างๆ  ในการต่อสู้กับคู่แข่งนั้น microsoft สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ตามมาด้วยการถูกตราหน้าว่าเป็นยักษ์ใหญ่ผู้เหี้ยมโหด มีการทำลายบริษัทคู่แข่งไปเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองยึดครองตลาดอยู่เพียงฝ่ายเดียว  อย่างไรก็ตามหลังจากสงครามในยุคแรกจบ  และมาซึ่งสงครามครั้งใหม่ของบริษัท technology ด้าน internet กับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง google นั้น เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง microsoft จะสามารถโค่น google ลงได้เหมือนที่เคยทำกับบริษัทอื่นๆ  ในอดีตได้หรือไม่

 

Bloomberg Game Changer : How Microsoft Attacked the Beast who created Netscape, Mozilla Firefox & invested Skype

โดยส่วนตัวนั้นเป็นคนชอบดู Documentary ของทางเมืองนอก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวงการ IT และ Series หนึ่งที่ชอบติดตามดูเป็นพิเศษคือ Game Change : ของทางฝั่ง Bloomberg ที่ได้สร้าง Documentary ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาที่น่าสนใจในหลาย ๆ ประเด็น

สำหรับตอนที่จะกล่าวใน blog นี้คือ How Microsoft Attacked the Beast who created Netscape, Mozilla Firefox & invested Skype เป็นเรื่องราวในยุคต้นกำเนิดของ Internet ซึ่งเราคงมองภาพไม่ออกในยุคแรก ๆ  ที่ยังไม่มี internet ใช้ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับการสร้าง Web Browser มาซัวในยุคปลาย 1990

สำหรับ Browser ตัวแรกของโลกนั้นต้องยกให้กับ Mosaic ที่พัฒนาโดย Lab ของ University of Illinois of Urbana Chanpaign ที่ผู้ที่ได้ว่าเป็นผู้ถือกำเนิดมันก็คือ Marc Andreessen ซึ่งต้องถือเป็นเจ้าพ่อ internet ในยุคแรก ๆ เลยก็ว่าที่ทำให้ internet เป็น Graphic ที่สวยงามให้คนทั่วไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นรูปแบบของ text mode อยู่ หลังจากปล่อยให้ Download Free และเป็นที่นิยมอย่างมากแล้วนั้น Marc ก็ถูกนายทุน โดย  Jim Clark ที่ชักชวน Marc ให้มาเปิดบริษัทเพื่อพัฒนา Web Browser เพื่อขายเป็น commercial โดยได้ร่วมตั้ง Netscape ขึ้นมา ต้องถือว่าโชคดีผมก็มีโอกาสได้ใช้ Netscape กับเค้าเหมือนกัน ๆ กันยุคแรก ๆ  ก่อนที่ Microsoft จะใช้ IE ตีตลาดจนไม่เหลือที่ว่างให้ Netscape และก็ได้มีโอกาสได้สร้าง HTML Web ในช่วงแรก ๆ เหมือนกันซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เบนเข็มมาเรียนทางด้าน Computer Engineer

ในช่วงปลาย 1990 นั้น Marc ถือว่าเป็นบุคคลที่โด่งดังมาก เนื่องจากหลังจากสร้าง NetScape และปล่อยออกสู่ตลาดนั้น ก็ได้นำบริษัททำ IPO เพื่อเข้าตลาดหุ้นโดยแทบจะทันที ซึ่งตอนนั้นก็ทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนอยู่พอสมควร เนื่องจากมูลค่าหุ้นขึ้นไปสูงถึงระดับ 171$  ในช่วงเปิดตัวแรก ๆ  ทำให้บริษัทมีมูลค่าทันทีถึง  2 พันล้านเหรียญในยุคนั้น ซึ่งถือว่ามากพอตัว   และทำให้เค้ากลายเป็นเศรษฐีหนุ่มทันทีจากมูลค่าหุ้น และนักลงทุน ที่ร่วมก็รวย ๆ กันไปตาม ๆ กันจากมูลค่าหุ้นที่พุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงดังกล่าว

แต่การเกิดขึ้นของ NetScape นั้นเหมือนเป็นการปลุกยักษ์ให้ตื่น Microsoft ในสมัยนั้นเป็นบริษัทที่มูลค่าแทบจะสูงที่สุดในโลกของ Technology Company ซึ่ง Gate ก็ไม่รอช้า ในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ Microsoft ต้องออก OS ใหม่พอดีซึ่งก็คือ Microsoft Windows 95  โดยทาง Microsoft นั้นใช้แผนที่เหนือเมฆ คือนำ Internet Exproler ออกสู่ตลาดโดยแถมมากับระบบปฏิบัติการ Windows 95 เลยแทบจะทันที โดย microsoft นั้นก็ได้พัฒนาตัว IE โดยใช้พื้นฐานมาจาก Mosaic ที่ Marc เป็นคนพัฒนาขึ้นในตอนอยู่  University of illinois of Urbana Chanpaign นั่นเอง ซึ่ง Microsoft นั้นเป็นบริษัทที่ทุนหนาอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแต่อย่างใด ในการแถม Browser ไปกับระบบปฏิบัติการ และเป็นยิ่งส่งเสริมให้คนหันมาใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 95 มากยิ่งขึ้นเสียไปอีก ซึ่งเป็นความโหดมากของ microsoft ในการแทบจะ ฆ่า Netscape ออกไปจากตลาด และ เพิ่มยอดขายของ Windows 95 เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว

สุดท้ายก็มีการฟ้องร้องกันหาว่า Microsoft ผูกขาดการตลาดของระบบปฏิบัติการ ทางฝั่ง microsoft นั้นก็ไม่แยแสในเรื่องที่เกิดขึ้นเดินหน้าแถม Browser ต่อไปจนครองส่วนแบ่งแทบจะทั้งหมดของ Browser ในขณะนั้น และ ทำให้ Netscape ต้องถูกขายให้กับ AOL ในภายหลังก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น Moziila Firefox อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนคดีความฟ้องร้องนั้น ถึงแม้สุดท้าย ศาลจะพิพากษาให้ Microsoft เป็นฝ่ายผิด แต่ microsoft ก็ยินยอมจ่ายค่าปรับเพียงร้อยกว่าล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเปรียบเหมือนในสงครามนี้ microsoft ยอมแพ้ในศาลแต่ ในเชิงธุรกิจนั้น Netscape ได้ตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง