Binance x FIFA กับจุดตัดสำคัญขององค์กรที่คิดว่าตัวเองมีความอิสระไร้ซึ่งการตรวจสอบ

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งสำหรับแพล็ตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance ที่ กำลังเจอมรสุมรุมเร้าอย่างหนักอึ้ง

ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Proof of Reserve ที่มีการตั้งข้อสงสัยจากการตรวจสอบบัญชีโดย Mazars มีการถูก FUD ข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินไหลออกจากแพล็ตฟอร์มจำนวนมหาศาลสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก

แต่ข่าวที่น่าสนใจที่สุดสำหรับประเด็นร้อนในตอนนี้ผมว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องข่าวที่สื่อใหญ่อย่าง Coindesk และ Reuters ลงข่าวว่า Binance และเหล่าผู้บริหารรวมถึงผู้ก่อตั้งอย่าง Changpeng Zhao (CZ) ที่อาจจะถูกจับกุมและถูกปรับในข้อหาฟอกเงิน

แล้วทำไมมันถึงน่าสนใจ ต้องบอกว่ามันมีหลายเคสที่เคยเกิดขึ้น ที่หน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ เคยจัดการองค์กรที่ตั้งตัวเองเป็นอิสระ ที่คิดว่าไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้อย่าง FIFA ก็ยังเคยโดนเล่นงานโดย FBI บุกจับเหล่าผู้บริหารในนประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาก่อนหน้านี้แล้ว

ประเด็นคือทำไมองค์กรที่เหมือนมีอำนาจล้นฟ้าอย่าง FIFA และแทบจะไม่ขึ้นตรงต่อหน่วยงานใด ๆ ในโลก ต้องถูกจับกุมล็อตใหญ่กลายเป็นประเด็นที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก

เพราะประเด็นสำคัญที่หน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะมันเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินนั่นเอง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับสหรัฐอเมริกา เพราะประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว (CR:The Mirror)
ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Blazer มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว (CR:The Mirror)

การสืบสวนสอบสวนในเชิงลับ มีมาก่อนหน้าหลายปี ก่อนที่จะมีการจับกุมกันจริง ๆ ในปี 2015 มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FIFA ถูกตั้งข้อกล่าวหาหลายคน โดยเกี่ยวข้องกับการรับสินบนและการฟอกเงิน

แต่ประเด็นก็คือมันมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากสาเหตุที่ว่าประเทศที่มีความพร้อมเป็นอย่างมากอย่างสหรัฐอเมริกา แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับกาตาร์ในการพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กำลังจัดกันอยู่ในตอนนี้

ตอนนั้นเรียกได้ว่าสหรัฐอเมริกามีความมั่นใจมาก ๆ ว่าจะได้เป็นเจ้าภาพแน่ ๆ ด้วยความพร้อมทุกอย่างทั้งเรื่องสนาม โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ระบบขนส่งมวลชนที่พร้อมมาก ๆ แต่กลายเป็นว่ากาตาร์ ประเทศที่แทบไม่มีความพร้อมใด ๆ จะจัดช่วงกลางปีเหมือนในทุก ๆ ครั้งพวกเขายังไม่สามารถทำได้เลยแต่กลับได้รับชัยชนะในการถูกคัดเลือกเป็นเจ้าภาพได้อย่างน่าประหลาดใจ

นั่นเองที่ไม่แปลกเมื่อ เริ่มมีมูลเกี่ยวกับทุจริต การฟอกเงิน และใช้สถาบันการเงินของสหรัฐในการกระทำการดังกล่าว พวกเขาก็จัดการทันทีและได้รับไฟเขียวจากทางการเมืองให้จัดการ FIFA ได้แบบช็อคชาวโลกกันเลยทีเดียว

เมื่อลองมาไล่ประเด็นที่เกิดขึ้นกับ Binance เรื่องการฟอกเงินไม่ต้องห่วง มันมีอยู่ 100% ในแพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหล่านี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักธุรกิจสีเทา ไม่ต้องดูตัวอย่างไกลในไทยก็ยังมี แถมกลายเป็นคนดังเสียด้วย ใช้การฟอกเงินผ่านคริปโตเหล่านี้ กลายเป็นคนที่ใสสะอาดได้หน้าตาเฉย

แพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่กลายเป็นแหล่งฟอกเงินที่สำคัญ (CR:Reuters)
แพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่กลายเป็นแหล่งฟอกเงินที่สำคัญ (CR:Reuters)

เพราะฉะนั้นข่าวการสอบสวนที่มีรายงานจาก Reuters ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2018 ที่มุ่งเน้นไปที่ Binance ที่เกี่ยวกับกฎหมายการต่อต้านการฟอกเงิน

โดยมีการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้หลายๆ คน รวมถึงเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงอดีตที่ปรึกษาของ Binance ซึ่งน่าจะมีการขุดคุ้ยเรื่องราวภายในของ Binance อยู่เบื้องหลังมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว

แถมประเด็นการล่มสลายของ FTX ที่มีเรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องแบบเต็ม ๆ เนื่องจาก sam bankman-fried (SBF) นั้นบริจาคเงินมหาศาลให้นักการเมืองเพื่อพยายามล็อบบี้เรื่องของหน่วยงานกำกับดูแล

เพราะฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ผมคิดว่าอยู่ที่การตัดสินใจของคนมีอำนาจของหน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ เพียงเท่านั้น ว่าจะเล่นงาน Binance เมื่อไหร่ เพราะยังไงอำนาจของพวกเขาก็ไปถึงและสามารถรจัดการได้แน่นอนถ้าจะเล่นงานจริงเหมือนเคสที่เคยเกิดขึ้นกับ FIFA นั่นเองครับผม

References :
https://www.reuters.com/markets/us/us-justice-dept-is-split-over-charging-binance-crypto-world-falters-sources-2022-12-12/
https://www.theguardian.com/football/2015/may/27/several-top-fifa-officials-arrested
https://www.theguardian.com/football/2017/nov/06/fifa-scandal-fbi-new-york-trial-chuck-blazer-sepp-blatter
https://cointelegraph.com/news/binance-s-proof-of-reserves-raises-red-flags-report
https://www.technopixel.org/billion-dollar-money-laundering-alleged-about-binance/

เมื่อฮาร์ดแวร์ถึงทางตัน กับกลยุทธ์ในการสร้างเครื่องจักรทำเงินใหม่ของ Apple ผ่านธุรกิจการเงิน

การปล่อยมือถือรุ่นเรือธงล่าสุดอย่าง iPhone 14 ที่ออกมานั้น เรียกได้ว่า อาจจะสร้างความผิดหวังไม่ใช่น้อยให้กับเหล่าสาวก Apple ที่มือถือรุ่นใหม่ที่ออกมาล่าสุด ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนมากมายอย่างที่หลาย ๆ คนคิด

แน่นอนว่ายังไงชื่อของ iPhone มันก็ยังขายได้ จากยอดจองถล่มทลาย คนต่อคิวกันเป็นว่าเล่นในช่วงเปิดตัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด

แต่ถ้ามองแบบโฟกัสในเรื่องฟีเจอร์ โดยเฉพาะความสามารถของฮาร์ดแวร์นั้น ก็ต้องบอกว่า Apple ทำได้อย่างดีเยี่ยมมาตั้งหลายปีแล้ว และมันแทบจะสุดทางของอุปกรณ์อย่างมือถือ ที่จะได้เห็นอะไรว้าว ๆ เหมือนในรุ่นก่อน ๆ หน้ามันเริ่มยากเต็มที

สอดรับกับข่าวหลังจากการจากลาของ Jony Ive ที่ชัดเจนว่าค่อนข้างมีปัญหากับแนวนโยบายของ Apple ยุคใหม่ที่เริ่มเปลี่ยนไป เพราะ Tim Cook เริ่มหันมาหาหนทางสร้างรายได้ใหม่กับธุรกิจบริการมากยิ่งขึ้น

และหนึ่งในนั้นก็มีการประกาศออกมาล่าสุดอย่างที่เป็นข่าวใหญ่ว่า Apple กำลังเปิดตัวบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมโดยร่วมมือกับ Goldman Sachs สำหรับลูกค้า Apple Card

Ecosystem สุด Exclusive ของ Apple นั้นยากที่คู่แข่งจะไล่ตามทัน การใช้ระบบแบบปิดตั้งแต่แรก มันทำให้ทุกอย่างมันสามารถ control ง่ายกว่า และสามารถเสกสรรค์บริการใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ใช้งานที่อยู่ใน Ecosystem ของพวกเขาได้ง่าย

Tim Cook เริ่มหันมาหาหนทางสร้างรายได้ใหม่กับธุรกิจบริการมากยิ่งขึ้น (CR:CNBC)
Tim Cook เริ่มหันมาหาหนทางสร้างรายได้ใหม่กับธุรกิจบริการมากยิ่งขึ้น (CR:CNBC)

มันคือกลยุทธ์ธุรกิจที่สุดยอดมาก ๆ ตั้งแต่ Steve Jobs ได้ออกแบบมันไว้แต่แรก แม้ในรอบแรกศึกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นจะพ่ายแพ้ไปให้กับ Microsoft อย่างราบคาบก็ตาม แต่ในยุคสมาร์ทโฟน พวกเขามีบทเรียนและไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแบบเดียวกับในศึกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

มันได้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่เพิ่มขึ้นของ Apple ในด้านการเงิน เนื่องจากพยายามนำบริการเข้าสู่กระเป๋าเงินดิจิทัลโดยตรง

กลุ่มลูกค้าที่มากมายมหาศาลใน Ecosystem ของ Apple นั้น แน่นอนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะเป็นเพียงแค่กระเป๋าเงินให้กับผู้บริโภค แต่ก้าวใหม่ในครั้งนี้ Apple ต้องการมอบประสบการณ์ใหม่ซึ่งอาจจะกลายเป็นธนาคารขนาดย่อมบนมือถือในอนาคต

สำหรับ Apple Card นั้นเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2019 และให้บริการในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งทาง Apple Card นั้นเสนอ cashback 1% ในขณะที่ Apple Pay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสเสนอให้ 2%

ซึ่ง Apple Pay นั้นถือเป็นหนึ่งของแผนกบริการของ Apple ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจบริการซึ่งมีอัตรากำไรที่สูง และสร้างเครื่องจักรทำเงินใหม่ให้กับ Apple ในช่วงเวลาที่การเติบโตของ iPhone เริ่มจำกัด

ที่น่าสนใจก็คือ ในไตรมาสที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจบริการซึ่งรวมถึง App Store และบริการ Subscription ทั้งหลายของ Apple เพิ่มขึ้น 12% เป็น 19.6 พันล้านดอลลาร์ โดยมีผู้ใช้ 860 ล้านคนทั่วโลกใช้บริการ subscription แบบประจำอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า Ecosystem หรือแพลตฟอร์ม Super App ขนาดใหญ่ ๆ ทั่วโลก กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่โมเดลเดียวกันนั่นก็คือธุรกิจทางด้านการเงิน อย่างที่เราได้เห็นในแพลตฟอร์มอย่าง shopee , grab หรือ Wechat ในประเทศจีน ซึ่งล้วนแล้วมีจุดหมายปลายทางเดียวกันนั่นคือธุรกิจการเงิน

การเดินเกมใหม่ของ Apple นั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเขาจะ balance ในเรื่องข้อมูล พฤติกรรมต่างๆ ของผู้บริโภคได้อย่างไร กับนโยบายปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา เพราะสุดท้ายหากจะมาลุยธุรกิจทางด้านการเงินแบบเต็มตัว อย่างไรเสียก็ต้องแลกกับการลุกล้ำข้อมูลส่วนตัวของกลุ่มสาวก Apple ในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม

References :
https://www.ft.com/content/f956de93-e505-4c84-a1ab-2bd23c041004
https://www.apple.com/newsroom/2022/10/apple-card-will-let-users-grow-daily-cash-rewards-while-saving-for-the-future/
https://www.cnbc.com/2022/10/13/apple-goldman-sachs-introduce-interest-bearing-savings-accounts.html

ประสบการณ์ Feed แบบใหม่ กับ profile เพจ ที่ไร้ซึ่งเรื่องราวของเพื่อนและโฆษณาแสนรกตา

เรียกได้ว่าหลังจากการปรับรูปแบบ profile ใหม่ ที่แยกระหว่าง feed ของส่วนตัวและเพจของ facebook นั้น ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการติดตาม feed ที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ

ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจเหรือเรื่องบังเอิญ เพราะ pain point นี้มันน่าจะมีมานานแล้ว ที่คนที่อยากข้อมูลจากเพจที่เราสนใจจริง ๆ ไม่ต้องมีเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องชาวบ้านชาวช่อง หรือเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเพื่อน ๆ เรา ซึ่งยุคหลังมานี่กลายเป็นสังคม toxic ไปเสียแล้ว โดยเฉพาะเรื่องประเด็นความขัดแย้งด้านการเมือง

นั่นเองที่ตอนนี้ (ย้ำว่าตอนนี้เพราะไม่รู้อนาคตพี่มาร์คจะปรับอะไรอีก) เราสามารถที่จะได้ข้อมูลจากเพจที่เราติดตามจริง ๆ แบบเต็ม ๆ ด้วย feed รูปแบบใหม่นี้

ซึ่งจากการเปิดใช้งานมาร่วม 2 สัปดาห์ หลังจากที่มีการเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้นั้น ส่วนตัวเองผมพบว่า เออ มันตอบโจทย์มาก ๆ กับการใช้ profile เพจไปติดตามสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ

และสิ่งที่มีแนะนำมาให้เรานั้นส่วนใหญ่ก็อ้างอิงจากเพจที่เราติดตาม เช่น ส่วนตัวผม ติดตามเกี่ยวกับ ธุรกิจ เทคโนโลยี หรือ การตลาด ก็จะมีเพจแนวนี้แนะนำมาให้เรา follow แบบต่อเนื่อง

และอีกสิ่งหนึ่งที่เหลือเชื่อมาก ๆ ก็คือ หลังจากทดลองมาสองสัปดาห์ ผมไม่เห็นโพสต์แบบ sponsor โพสต์ แม้แต่อันเดียวเรียกได้ว่า หน้าจอสะอาดตามาก ๆ มีแต่ข้อมูล และสิ่งที่เราสนใจจริง ๆ

สำหรับใครที่เบื่อประสบการ์ณ feed แบบเดิม ๆ ของ facebook ผมให้ลองแนะนำเปิดเพจแล้วสร้าง profile ใหม่แบบเพจ แล้วลองทดสอบดูได้ คุณอาจจะไม่อยากกลับไป feed เดิม ๆ ใน profile ส่วนตัวของคุณเลยก็เป็นได้ครับผม

ปล. ข้อมูลนี้อัพเดทวันที่ 9/10/2022 เพียงเท่านั้น เพราะอย่างที่เรารู้กัน facebook มีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มอยู่ตลอดเวลา

TikTok x TalkShopLive กับพันธมิตรใหม่ในการบุกตลาดการช้อปปิ้งแบบไลฟ์สดในสหรัฐอเมริกา

เรียกได้ว่า TikTok ได้กลายเป็นเครือข่ายโซเชียลมีเดียน้องใหม่ไฟแรง ที่บุกทะลวงไปได้ในทุกตลาดแม้กระทั่งในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้เจ้าพ่อโซเชียลอย่าง Facebook ถึงกับหนาว ๆ ร้อน ๆ เลยทีเดียว

เมื่อสามารถสร้างความแข็งแกร่งในโซเชียลมีเดียวรูปแบบวีดีโอสั้น ที่กำลังมาแรงได้สำเร็จ จากฐานผู้ใช้งานโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นไข่ในหินของโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม

ก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องหาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ อย่างเช่น Ecommerce ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในแถบเอเชีย โดยเฉพาะเรื่องการไลฟ์สด ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้

แต่ความท้าทายคือตลาดของตะวันตกทั้งยุโรป หรืออเมริกา เพราะก่อนหน้านี้ TikTok เคยได้ชิมลางผ่าน TikTok Shop และดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จในตลาดแถบยุโรปมาก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ดูเหมือนว่า TikTok จะไม่ยอมแพ้ในตลาดการชอปปิ้งแบบไลฟ์สดในสหรัฐฯ เมื่อพวกเขากำลังมองหาพันธมิตรอย่าง TalkShopLive เพื่อเปิดตัวฟีเจอร์การช็อปปิ้งไลฟ์สดในอเมริกาเหนือ

TalkShopLive เป็นแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งไลฟ์สดที่ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส แพลตฟอร์มดังกล่าาวถูกใช้โดยบริษัทต่างๆ เช่น Walmart และ MSN ของ Microsoft เพื่อจัดการสตรีมสดสำหรับการช็อปปิ้ง 

TalkShopLive ที่หลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่เลือกใช้ในตลาด USA (CR:Techcrunch)
TalkShopLive ที่หลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่เลือกใช้ในตลาด USA (CR:Techcrunch)

ซึ่งจากการเป็นพันธมิตรใหม่ TikTok สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ TalkShopLive เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างโฮสต์สำหรับการช็อปปิ้งแบบไลฟ์สดบน TikTok ในขณะเดียวกันก็ให้ตัวเลือกแก่แบรนด์ในการออกอากาศสตรีมไปยังเว็บไซต์ของตนเองพร้อมกันได้อีกด้วย

ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม TikTok กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สำหรับการช็อปปิ้งแบบไลฟ์สดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปหลังจากเห็นผลที่ไม่ค่อยดีนักจากการทดลองในสหราชอาณาจักร 

แต่หาก TikTok ประสบความสำเร็จในการจับมือเป็นพันธมิตรกับ TalkShopLive จะทำให้ฟีเจอร์การช็อปปิ้งแบบไลฟ์สดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนหน้ากับแบรนด์ใหญ่ ๆ ซึ่งจะทันช่วงเทศกาลวันหยุดซึ่งถือเป็นเทศกาลชอปปิ้งออนไลน์ครั้งใหญ่ของอเมริกา

ซึ่งเทรนด์ใหม่ของการชอปปิ้งนั้นการไลฟ์สดกำลังกลายเป็นที่นิยม ทำให้บริษัทอย่าง TikTok, YouTube , Pinterest และ Amazon กำลังทดสอบฟีเจอร์นี้กันอยู่เช่นเดียวกันในภูมิภาคต่าง ๆ  

แม้แต่ Facebook ก็ยังทดลองฟีเจอร์ชอปปิ้งแบบไลฟ์สด แต่บริษัทได้ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่ากำลังจะปิดฟีเจอร์นี้เพื่อมุ่งเน้นไปที่ Reels (แม้ว่าการช้อปปิ้งแบบไลฟ์สดยังคงมีอยู่ใน Instagram)

จะเห็นได้ว่า TikTok กำลังสำรวจทางเลือกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับวิธีที่พวกเขาจะสามารถให้บริการชุมชน ทั้งผู้สร้างคอนเทนต์ และผู้ค้าของพวกเขาในตลาดทั่วโลก ซึ่งแน่นนอนว่า Ecommerce คือหนึ่งในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่หลาย ๆ แพลตฟอร์มต่างหมายปอง

พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อสร้างประสบการณ์ Ecommerce ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับผู้ค้าทั่วโลกที่เป็นฐานลูกค้าในแพลตฟอร์มของพวกเขา และในท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นแหล่งรายได้ขนาดใหญ่ในอนาคตนั่นเองครับผม

References :
https://www.ft.com/content/479cd8da-c416-456d-a2a2-533af8a5b7bb
https://newsroom.tiktok.com/en-gb/introducing-on-trend-the-internets-most-entertaining-shopping-experience-from-tiktok
https://www.theverge.com/2022/10/1/23381828/tiktok-live-shopping-planning-talkshoplive-us-north-america
https://www.caixinglobal.com/2020-12-18/walmart-and-tiktok-to-import-chinese-style-livestreaming-e-commerce-stateside-101640904.html

สายลับจีน x GE Secret เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวหาปักกิ่งใช้หน่วยสืบราชการลับเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมของตน

คณะลูกขุนของรัฐบาลกลางสหรัฐ ตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของจีน ฐานพยายามขโมยความลับจากบริษัท General Electric ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาคดี

กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่าคณะลูกขุนของรัฐบาลกลางในรัฐโอไฮโอพบว่า Xu Yanjun เจ้าหน้าที่ MSS อาวุโสจากมณฑลเจียงซูมีความผิดใน 5 กระทง รวมถึงอีก 2 กระทงที่พยายามกระทำการจารกรรมทางเศรษฐกิจ

Xu ถูกจับในเบลเยียมในปี 2018 เขาถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐวางแผนจับที่นั่น ซึ่งมีการติดตามความพยายามของเขาในการขโมยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการบิน โดยเฉพาะพัดลมเครื่องยนต์อากาศยานที่ผลิตขึ้นโดย GE Aviation

โดยเฉพาะ“สำหรับผู้ที่สงสัยเป้าหมายที่แท้จริงของสาธารณรัฐประชาชนจีน นี่ควรเป็นการปลุกให้ตื่นขึ้น” Alan Kohler ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกต่อต้านข่าวกรองของเอฟบีไอ กล่าว 

“พวกเขากำลังขโมยเทคโนโลยีของอเมริกาเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการทหาร” 

Matthew Olsen หัวหน้าแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า มันแสดงให้เห็นว่าจีนใช้การจารกรรมเพื่อทำให้อุตสาหกรรมของตนทันสมัยได้อย่างไร“

ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา เราจะดำเนินการสอบสวน ดำเนินคดี และจัดการผู้ที่พยายามเอาผลงานการสร้างสรรค์ของอเมริกาอย่างผิดกฎหมายต่อไป”

เขากล่าวว่า การตัดสินลงโทษถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งพยายามอย่างหนักที่จะนำเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของจีนขึ้นศาล 

มันเกิดขึ้นในขณะที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพิ่มคำเตือนให้กับบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับความพยายามของจีนในการขโมยเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมไฮเทคที่สำคัญ เช่น AI และ เทคโนโลยีอย่าง quantum computer

Xu ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการเชิญพนักงานของบริษัทการบินชั้นนำและพาพวกเขาไปจีนเพื่อนำเสนอผลงานที่มหาวิทยาลัยต่างๆ เขาถามพนักงานของ GE Aviation ที่เดินทางไปจีนเพื่อช่วยให้เขาได้รับข้อมูลที่เป็น กรรมสิทธิ์ของ GE

แต่เขาถูกจับกุมในวันที่เขามาถึงยุโรปในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือกับทางการเบลเยี่ยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

การจับกุมของเขาถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ MSS ถูกไล่ออกจากจีนและส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ และมันเป็นมากกว่าชัยชนะเชิงสัญลักษณ์

การจับกุม Xu ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ MSS ถูกไล่ออกจากจีนและส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ (CR:Twitter)
การจับกุม Xu ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ MSS ถูกไล่ออกจากจีนและส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ (CR:Twitter)

มีหลักฐานมากมายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งเอกสารข่าวกรองอย่างเป็นทางการของจีน แม้แต่บันทึกส่วนตัว เมื่อ Xu ถูกจับ เขามี iPhone อยู่กับเขาซึ่งมีเนื้อหาที่เขาสำรองข้อมูลไว้บนคลาวด์ นั่นทำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนของ FBI สามารถกู้คืนข้อมูลทั้งหมดจาก Apple ได้

ซึ่งมีเนื้อหาในอีเมล ทั้ง สไลด์ PowerPoint ที่มีข้อมูลทางเทคนิค รวมถึงอัลกอริธึมและข้อมูลการออกแบบที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ สำหรับเครื่องบินที่ทางฝั่งอเมริกาผลิตขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีนี้ กระทรวงการต่างประเทศของจีนตอบกลับว่า “ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ เราเรียกร้องให้สหรัฐฯ จัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรมและรับรองสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายของพลเมืองจีน”

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและเอฟบีไอได้ยกระดับปฏิบัติการปราบปรามการจารกรรมของจีน ท่ามกลางความกังวลว่าจีนกำลังจัดหาเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับบริษัททางการทหารและรัฐวิสาหกิจของจีน

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Economic Club of New York เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Chris Wray ผู้อำนวยการ FBI ที่มักจะออกมาพูดเกี่ยวกับการสอดแนมของจีน ได้กระตุ้นให้บริษัทในสหรัฐฯ ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการจารกรรมทางไซเบอร์จากประเทศจีน

“โดยส่วนใหญ่ ภัยคุกคามนั้นมาจากรัฐบาลจีนหรือบริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเขา” เขากล่าว “และพวกเขามักอ้างว่าจะขโมยไปทำไมในเมื่อพวกเขามีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีอยู่แล้วในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้” 

References :
https://www.ft.com/content/9181a2d2-ae0e-43f7-8ee4-a162f4b701c1
https://www.bloomberg.com/news/features/2022-09-15/china-wanted-ge-s-secrets-but-then-their-spy-got-caught
https://www.economist.com/china/2022/06/01/chinas-spies-are-not-always-as-good-as-advertised