Geek Forever

ด.ดล Blog

Open Your World with Technology. เปิดโลกใบใหม่ของคุณ ด้วยเรื่องราวของเทคโนโลยี ( Business x Technology x Inspirational Stories )

HOME

  • ABOUT ME
  • BECOME A SUPPORTER
  • CONTACT
  • EDITORS ‘ PICKS
  • PODCAST

Categories

  • Advertorial
  • AI & Robot
  • Bitcoin
  • Blockchain
  • Blog Series
  • Books
  • Business
  • Cars
  • Case Study
  • COVID-19
  • Deep Learning
  • Digital Music War
  • Documentary
  • Entertainment
  • Entrepreneurship
  • Failed Startup
  • Football Product
  • Games
  • Geek China
  • Geek Daily
  • Geek Life
  • Geek Monday
  • Geek Story
  • Geek Talk
  • Healthcare
  • Home & Garden
  • Investment
  • JT 8704
  • Life of Pine
  • Lifestyle
  • Machine Learning
  • Marketing
  • Movies
  • Paypal Mafia
  • PodCast
  • Political
  • Popular Blog
  • Products
  • Programming
  • Recommendations
  • Review
  • Sci & Tech
  • Search War
  • Self Help
  • Series
  • Smartphone War
  • Sport
  • Startup
  • Story
  • The Story
  • Tokyo in the Rain
  • Trading
  • Travel
  • World War III
  • ประวัติ Bill Gates
  • ประวัติ Bitcoin
  • ประวัติ Elon Musk
  • ประวัติ Google
  • ประวัติ iPod
  • ประวัติ Jack Ma
  • ประวัติ Jeff Bezos
  • ประวัติ Jho Low
  • ประวัติ mark zuckerberg
  • ประวัติ MBS
  • ประวัติ Netflix
  • ประวัติ Netscape
  • ประวัติ Reed Hastings
  • ประวัติ Reid Hoffman
  • ประวัติ Steve Jobs
  • ประวัติ Tim Cook
  • ประวัติ Twitter
  • ประวัติ Youtube
  • แบบบ้านสวย

Archives

  • February 2021
  • January 2021
  • December 2020
  • November 2020
  • October 2020
  • September 2020
  • August 2020
  • July 2020
  • June 2020
  • May 2020
  • April 2020
  • March 2020
  • February 2020
  • January 2020
  • December 2019
  • November 2019
  • October 2019
  • September 2019
  • August 2019
  • July 2019
  • June 2019
  • May 2019
  • April 2019
  • March 2019
  • February 2019
  • January 2019
  • December 2018
  • November 2018
  • October 2018
  • September 2018
  • August 2018
  • May 2018
  • January 2018
  • December 2017
  • November 2017
  • October 2017
  • September 2017
  • August 2017
  • July 2017
  • June 2017
  • May 2017
  • April 2017
  • March 2017
  • February 2017
  • September 2016
  • June 2016
  • April 2016
  • March 2016
  • February 2016
  • January 2016
  • December 2015
  • October 2015
  • September 2015
  • May 2015
  • April 2015
  • March 2015
  • February 2015
  • December 2014
  • November 2014
  • October 2014
  • September 2014
  • August 2014
  • April 2014
  • March 2014
  • February 2014
  • January 2014

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

Day: November 27, 2018

ประวัติ mark zuckerberg ตอนที่ 4 : Let’s expand

By tharadhol in Books, Business, Investment, Marketing, Programming, Sci & Tech, Startup, Story November 27, 2018

จากตอนที่แล้ว หลังจาก thefacebook online ไปได้ไม่นาน นักศึกษาทั่วทั้ง มหาลัย ก็แห่กันมาใช้ thefacebook กว่า 5,000 คน คำว่า “คุยกันต่อใน facebook”  กลายเป็นเรื่องปรกติของนักศึกษาในมหาลัย ฮาร์วาร์ด

สิ่งที่ thefacebook ทำและต่างจาก social network อื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วอย่าง friendster หรือ myspace นั่นคือ เวลาที่ใช้งานของ user ซึ่งใครที่ใช้ facebook ในช่วงแรก ๆ นั้น เรียกได้ว่าติดหนึบ เลยทีเดียว ต้องมาคอย refresh รอดู activity ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแทบทุกนาที นี่คือ พลังของ social network ที่เป็น เครือข่ายสังคมที่แท้จริง

หยุดการเผยแพร่ thefacebook เดี๋ยวนี้ !!!

อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนที่แล้ว ด้วยความดังของ thefacebook ทำให้หนังสือพิมพ์ เดอะ คริมสัน นั้นประโคมข่าว ความสำเร็จนี้ไปทั่ว มีการสัมภาษณ์ ผู้ก่อตั้งอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เพื่อเทิดทูนความสามารถของเขา ที่ทำให้ thefacebook กลายเป็นชุมชม online ของเหล่านักศึกษาอย่างแท้จริง

ชื่อมาร์ค ดังไปทั่วทั้งมหาลัยฮาร์วาร์ด มีแต่คนอยากรู้จัก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เป็นคนที่แทบจะอยู่ในหลืบมุมมืดของ ฮาร์วาร์ด ไม่มีใครเคยสนใจ สาว ๆ เริ่มถามหามาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อยากทำความรู้จัก จนไปถึงขั้น อยากออกเดทกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเลยด้วยซ้ำ

แต่อีกมุมหนึ่งนั้น คนที่โมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่สุด น่าจะเป็นสองพี่น้อง Winklevoss และ divya narendra พาร์ทเนอร์ธุรกิจ ที่หวังจะทำให้ harvard connection กลายเป็นธุรกิจเริ่มต้นของตัวเอง เพื่อสร้างตัว แต่กลับถูก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ขโมย ไอเดียไปสร้าง thefacebook เสียอย่างงั้น

แจ้งให้หยุด thefacebook เดี๋ยวนี้

แจ้งให้หยุด thefacebook เดี๋ยวนี้

ทั้งสามจึงต้องรีบทำอะไรซักอย่าง เพื่อหยุดยั้ง thefacebook โดยเริ่มจากปรึกษา พ่อ ของพี่น้อง winklevoss เป็นลำดับแรก และได้รับคำแนะนำจากทีมกฏหมายของพ่อ ให้ส่งหนังสือ notice ไปยัง มาร์ค เพื่อให้หยุดเผยแพร่ thefacebook เป็นอย่างแรก

หลังจากมาร์ค ได้รับหนังสือทางกฏหมายเพื่อให้หยุดเผยแพร่ แต่ดูเหมือนมาร์ค จะไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะคิดว่า thefacebook นั้นต่างกับ havard connection ของ winklevoss อยู่มาก และไม่มี code ส่วนใด ที่นำมาจากโครงสร้างเดิมของ harvard connection เดิมเลย

แต่คนที่สนใจเรื่องนี้กลับเป็น เอดูอาร์โด ซาเวริน  ผู้ร่วมก่อตั้ง thefacebook และควบตำแหน่ง CFO ที่ดูจะร้อนรน กับหนังสือแจ้งให้หยุดเผยแพร่ดังกล่าว เพราะอ่านดูแล้ว มันค่อนข้างซีเรียส และ ถูกเขียนมาด้วยทนายมืออาชีพ ที่เตรียมจะฟ้องร้อง มาร์ค หากไม่ทำการหยุดเผยแพร่

แต่แม้ เอดูอาร์โด ซาเวริน จะกระวนกระวายใจอย่างไรก็ตาม เค้าก็ยังเชื่อใจมาร์ค ว่าการสร้าง thefacebook นั้น แทบจะไม่เหมือน idea ของ harvard connection แต่ thefacebook นั้นเป็นการรังสรรค์ ใหม่ขึ้นมาของมาร์คแทบจะทั้งสิ้น

เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง ทางฝั่ง พี่น้อง winklevoss ก็พยายามตามตัวมาร์ค เพื่อมาคุย แต่มาร์คก็หลบหนีตลอด เลี่ยงการพูดคุยโดยตรงกับ winklevoss จน ต้องใช้วิธีสุดท้ายคือ เข้าพบอธิการฮาร์วาร์ด ซึ่งคือ แลร์รี่ ซัมเมอร์ อดีต รัฐมนตรีคลังของสหรัฐอเมริกา ที่มารับตำแหน่งเป็นอธิการของฮาร์วาร์ด

ฟ้องถึงอธิการบดี ก็ยังไม่เป็นผล

ฟ้องถึงอธิการบดี ก็ยังไม่เป็นผล

ซึ่งการได้พบกับ แลร์รี่ ซัมเมอร์ นั้นสองพี่น้องก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกระลอก เนื่องจาก แลร์รี่ ซัมเมอร์ นั้นมองว่า มันเป็นเรื่องของนักศึกษาทีมีปัญหากันเอง มหาลัย ไม่สามารถเข้าไปช่วยเรื่องนี้ได้ และได้พูดประโยคเด็ดคือ “นี่ไม่ใช่วิถีทางของฮาร์วาร์ด จิตวิญญาณของฮาร์วาร์ด คือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  พวกคุณควรไปสร้างสิ่งใหม่แทน อย่าไปยึดติดกับสิ่งเดิม”  ทำให้สองพี่น้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปไม่น้อย ที่ไม่สามารถทำอะไรมาร์คได้เลย หลังจากใช้หลายวิธีแล้ว

Let’s expand

มันเป็นความคิดตั้งแต่แรกของมาร์ค อยู่แล้ว ที่ไม่ได้สร้าง thefacebook ขึ้นมาเพื่อใช้เพียงแค่นักศึกษา ฮาร์วาร์ด แต่เค้าต้องการที่ให้นักศึกษา ทั่วสหรัฐ อเมริกาได้ใช้ platform นี้ ซึ่งมันพิสูจน์แล้วว่า work!! ที่ ฮาร์วาร์ด

การที่นักศึกษาทั่วฮาร์วาร์ด ติด thefacebook กันงอมแงม ขนาดนี้ นั้นเป็นการ design มาอย่างดีของ thefacebook ที่จะนำเอาชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยยัดมาลง online และ platform ที่เป็นเว๊บไซต์ขณะนั้น เป็นเรื่องไม่ยากเลยที่จะขยายไปยังมหาลัยอื่น  ๆ

แผนแรกคือ การกระจายไปที่มหาลัยท็อป ๆ ของอเมริกาก่อน เช่น เยล โคลัมเบีย สแตนฟอร์ด เป็นต้น ซึ่งการที่จะทำให้บรรลุแผนการดังกล่าว ดูเหมือนว่าการที่จะทำการสองคนกับ เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้นน่าจะเกินกำลังของทั้งคู่แล้ว จึงเป็นที่มาของการเพิ่มทีมงาน

ขยายกิจการเน้นไปที่มหาวิทยาลัยระดับท็อปก่อน

ขยายกิจการเน้นไปที่มหาวิทยาลัยระดับท็อปก่อน

โดยทีมงานชุดแรก ก็เอาคนใกล้ตัวก่อนเลยคือ ดัสติน มอสโกวิทซ์  และ คริส ฮิวจ์ เพื่อนร่วมห้อง หรือ roommate ของ มาร์ค นี่แหละโดย ดัสติน มอสโกวิทซ์ นั้นแม้จะเรียน แต่เศรษฐศาสตร์ แต่เป็นอัจฉริยะ ด้านคอมพิวเตอร์ จึงให้มาเป็น หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี และมาเขียนโค้ด ช่วยเหลือ มาร์ค

สี่ทีมงานชุดแรกของ thefacebook

สี่ทีมงานชุดแรกของ thefacebook

ส่วน คริส ฮิวจ์ นั้นดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือ PR เพื่อให้ facebook ดังกระฉูดกว่าเก่า โดยจะแบ่งหุ้นให้ โดยจะตัดจากส่วนแบ่งของมาร์ค ไปให้ ส่วน  เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้นจะดูและเรื่องการเงิน และเป็น CFO ของบริษัท และคงหุ้นไว้ที่ 30% ตามเดิม

เมื่อได้ทีมที่สมบูรณ์พร้อมขยายกิจการแล้วนั้น thefacebook ก็พร้อมแล้วที่จะกลายเป็น social network อันดับหนึ่งของอเมริกา แทน social network ปลอม ๆ อย่าง friendster หรือ myspace  และก้าวสำคัญที่สุดก้าวหนึ่ง คือการไปเปิดตลาดที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นการบุกเข้าใกล้ซิลิกอน วัลเลย์ครั้งแรก และยังเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพดัง ๆ อย่าง yahoo , google  จนกลายเป็นบริษัทหมื่นล้านเหรียญมาแล้ว

และยังเป็นที่มาของการไปเจอตัวละครที่สำคัญโครต ๆ อย่าง ฌอน ปาร์กเกอร์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง napster และเป็น แบดบอย แห่ง ซิลิกอน วัลเลย์ ผู้ซึ่งจะมาปลุก thefacebook จาก startup เล็ก ๆ ให้กลายเป็น บริษัทมูลค่าหมื่นล้านเหรียญ แล้วอะไรที่เป็นพรหมลิขิต ให้ทั้งคู่มาพบเจอระหว่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เด็กเนิร์ดจาก ฮาร์วาร์ด และ ฌอน ปาร์กเกอร์ แบดบอย แห่งซิลิกอน วัลเลย์ โปรดติดตามในตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 5 : The GodParker

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 : Facemash (The Beginning) *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol

ประวัติ mark zuckerberg ตอนที่ 3 : Welcome to The Facebook

By tharadhol in Books, Business, Investment, Programming, Sci & Tech, Startup, Story November 27, 2018

เราอาจจะเคยได้ยินข่าวเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับการลอก idea จาก snapchat ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก โดย นำมาพัฒนาของตัวเองในชื่อ Stories ที่ตอนนี้ มีทั้งใน facebook และ instragram โปรดักหลักทั้งสองตัว

ก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับ คนอย่าง มาร์ค ที่พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อจะให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ การ copy idea นั้นเป็นเรื่องปรกติของมาร์ค มีผลิตภัณฑ์ startup หลายตัวมากที่ มาร์ค ทำการลอกเลียนแบบ เพื่อหวังจะฆ่าทิ้ง หากไม่ยอมให้ซื้อกิจการแบบที่ snapchat ปฏิเสธการเข้าซื้อของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก

Idea ตั้งต้นของ The Facebook

จากตอนที่แล้ว ถ้าจำกันได้ มาร์ค นั้นไม่ได้มีแนวคิดที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ social network อะไรมาก่อนเลย ทำ facemash มาก็เละไม่เป็นท่า กลายเป็นสาว ๆ ยี้กันทั้งมหาลัย

เพราะฉะนั้น แนวคิด เริ่มต้นมีความชัดเจนว่ามาจากสองพี่น้อง winklevoss ที่ มาร์ค ไปพบเพื่อเข้าร่วม project harvard connection อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานมากมายในการส่ง email ระหว่าง มาร์ค กับ เหล่าสองพี่น้อง winklevoss เพื่ออัพเดทสถานะของ โปรเจค harvard connection

สองพี่น้อง winklevoss ยังไม่รู้วาถูก มาร์ค หลอก

สองพี่น้อง winklevoss ยังไม่รู้วาถูก มาร์ค หลอก

แต่สิ่งที่ สองพี่น้องไม่รู้ถึงความแสบของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็คือ มาร์ค นั้นได้สร้างโปรเจค social network ขึ้นมาอีกตัว โดยใช้ชื่อว่า thefacebook ซึ่งเป็นชื่อแรกก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็น facebook.com จนถึงทุกวันนี้

แม้ idea หลาย ๆ อย่างจะไม่เหมือนกันเลยซะทีเดียว เพราะทาง harvard connection นั้น จะมีส่วนของเว๊บที่เป็นการหาคู่ เดท แต่ key หลัก ๆ ที่เหมือนกันคือ ความเป็น exclusive network ซึ่งเป็น key features หลักของทั้ง thefacebook และ harvard connection

version แรก thefacebook เรียบหรู ดูดี ครบทุกฟังก์ชั่น social

version แรก thefacebook เรียบหรู ดูดี ครบทุกฟังก์ชั่น social

แต่หลาย ๆ features นั้นมาร์ค ก็ได้ใส่เพิ่มเข้าไปเองใน the facebook โดยเน้นให้เป็น social network แบบ exclusive จริง ๆ มีการสร้าง profile มีการ invite friend การ share รูปภาพ และความสนใจต่าง  ๆ  , class เรียน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของเหล่านักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น โดยยัดมาไว้ในระบบ online ทั้งหมด ซึ่งความเป็น social นั้น thefacebook ของ มาร์ค มี มากกว่า harvard connection ของ สองพี่น้อง winklevoss อย่างเห็นได้ชัด ที่มาร์ค มองเป็นแค่ เว๊บหาคู่เดท online เท่านั้น

สร้างธุรกิจกับเพื่อน Love เพียงคนเดียวของเขา

ต้องบอกว่าในมหาลัย นั้น มาร์ค ก็แทบจะมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน แต่ บุคคลที่มาร์ค สนิทที่สุด น่าจะเป็น เอดูอาร์โด ซาเวริน ดังที่ได้กล่าวไว้ในตอนที่ 1

ไม่มีใครรู้ว่า ทำไม มาร์ค ถึง ไม่ยอมสร้าง harvard connection กับทีมงานของ winklevoss ทั้งที่มีทั้งทุนทรัพย์ รวมถึง connection มากมาย เนื่องจากเป็นลูกของเศรษฐี ส่วนนี้ไม่มีใครที่รู้แน่จริงชัดเจน อาจจะเพราะไม่ได้ถูกชะตา หรือ มองว่าตัวเขาเองสามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า สองพี่น้องคู่นี้ได้ ด้วยตัวของเขาเอง

สำหรับ เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้น ในขณะนั้น ได้เข้าร่่วมกับชมรม ฟินิกซ์ ซึ่งเป็นชมรม ชื่อดังแห่งหนึ่งของ harvard เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในวันสุดท้ายของการคัดเลือกเข้าชมรมนั่นเอง ที่มาร์ค ได้มาคุยเรื่อง idea ของ thefacebook ให้ เอดูอาร์โด ซาเวริน ฟัง

ซึ่ง เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้นก็งง ว่าทำไมต้องเลือกเขา เพราะ เพื่อนร่วมห้องของมาร์ค อย่าง ดัสติน มอสโควิช นั้นก็เป็นโปรแกรมเมอร์มือดี ฝืมือไม่ต่างจากมาร์คมาก น่าจะช่วยเหลือได้ดีกว่า เอดูอาร์โด ซาเวริน ที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเขียนโปรแกรมเลย

เลือกเพื่อนรักอย่าง เอดูอาร์โด ซาเวริน มาร่วมลงทุนก้อนแรก

เลือกเพื่อนรักอย่าง เอดูอาร์โด ซาเวริน มาร่วมลงทุนก้อนแรก

แต่ทุกอย่างก็เฉลย ด้วยเรื่องของเงินทุนตั้งต้น นั่นเอง เอดูอาร์โด ซาเวริน เป็นเซียน เรื่องเกี่ยวกับ อุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ ราคาน้ำมันที่ผันผวน โดยเค้าสามารถทำนายพายุเฮอริเคน ที่จะพัดเข้าฝั่งได้ ส่วนนี้ทำให้ในช่วงปิดเทอม นั้นสามารถทำกำไรจากการซื้อขายน้ำมันได้กว่า 300,000 เหรียญ ซึ่งเรื่องนี้ดังพอสมควร และเป็นส่วนหนึ่งให้เค้าสามารถเข้าชมรมฟินิกซ์ ที่เข้ายากแสนยากชมรมหนึ่งได้

นอกจากเรื่องเงินแล้ว มาร์ค ซึ่ง เป็นคนที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใคร แทบจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ แล้วเค้าจะมาสร้าง social network โดยที่ไม่มีความรู้เรื่องการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมันก็แปลกประหลาดอยู่

การมี เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้น จะช่วยเหลือ ทั้งเรื่องเงิน รวมถึง คอยเป็นที่ปรึกษาใน features ต่าง ๆ ของ thefacebook ใน version แรกได้อย่างดี ว่าควรมี features อย่างไรบ้าง สังคมในมหาลัยนั้น ขับเคลื่อน ด้วยเรื่องเซ็กส์ การลุ้นที่จะหาคู่เดท ซึ่งเป็นสิ่งที่มาร์ค ไม่ถนัดเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งมีการตกลงกันชัดเจนตั้งแต่แรก โดยมาร์ค จะให้ส่วนแบ่ง 70:30 โดยจะให้ เอดูอาร์โด ซาเวริน 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงินทุนตั้งต้น 1,000 เหรียญ ไว้เป็นค่า server รวมถึง software ต่าง ๆ ให้ระบบสามารถ online ได้โดยไม่ทำให้ server พังเหมือนครั้งที่ทำ facemash อีก และ มองตำแหน่ง CFO ให้กับ เอดูอาร์โด ซาเวริน เพื่อดูแลส่วนของธุรกิจ ซึงเป็นงานที่ เอดูอาร์โด ซาเวริน นั้นถนัดอยู่แล้ว

Welcome to the facebook

ในระหว่างการตอบโต้ email กับ ทางฝั่ง พี่น้อง winklevoss มาร์ค ก็ใช้เวลาแทบจะทั้งหมด สร้าง thefacebook ขึ้นมา โดยไม่สนใจงานของ harvard connection อีกเลย โดยเค้าทำทั้งหมดอยู่คนเดียวต้องเขียนโค้ด กว่า หลายหมื่น บรรทัด ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของ มาร์ค เลย เพราะเป็นงานที่มาร์ค ถนัดอยู่แล้ว ในเรื่องการเขียนโปรแกรม

สุดท้าย ในช่วงต้น ปี 2004 มาร์คใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ในการเขียนโค้ด ทั้งวันทั้งคืน โดดเรียนแทบจะทุกวิชา เพื่อมุ่งพัฒนา thefacebook เพียงอย่างเดียว จนมันเสร็จสมบูรณ์พร้อม online

เขียน code แบบไม่หลับไม่นอน เพื่อสร้าง thefacebook version แรก

เขียน code แบบไม่หลับไม่นอน เพื่อสร้าง thefacebook version แรก

และ features ที่สำคัญสุดท้าย ที่ มาร์คได้ใส่ไปใน thefacebook นั่นคือ Relationship Status ฟังก์ชั่นนี้แหละ เป้น key ที่สำคัญ ที่จะทำให้คนแห่กันเข้ามาใช้ เพราะทำให้รู้ว่าใครโสด หรือ ไม่โสด หรือ ต้องการหาแฟน เหมือนป้ายห้อยติดคอบอกสถานะว่าเรามีแฟนแล้วหรือยังนั่นเอง

ในที่สุดวันที่รอคอย ก็มาถึง 4 กุมภาพันธ์ 2004 ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นวันแรกของการก่อกำเนิด เว๊บ social network ที่ยิ่งใหญ่ อย่าง facebook

มาร์ค ได้ทำการนัด เอดูอาร์โด ซาเวริน ไว้ที่หอพัก เพื่อเตรียมฉลอง การเปิดเว๊บ ซึ่ง เมื่อมาร์ค มาถึง ซึ่ง เอดูอาร์โด ซาเวริน รออยู่ ซึ่งเป็นเวลาก่อนนัด ถึง 20 นาที มาร์ค ก็ได้แก้ไข version สุดท้ายอีกนิดหน่อย และพร้อมที่จะทำให้มัน online แล้ว

แต่มันต้องมี mailing list แรกที่จะทำให้คนส่งต่อให้มากที่สุด ให้มาใช้งาน thefacebook ซึ่ง mailing list ของ เอดูอาร์โด ซาเวริน ที่อยู่ ชมรมฟินิกซ์ ชมรมชื่อดังของมหาลัย กลายเป็น key สำคัญอย่างแรก ที่ทำให้ thefacebook ดังกระฉูด จนฉุดไม่อยู่ในเวลาต่อมา เพราะหาก foward ไปให้ mailing list ของ มาร์ค มันก็วนอยู่แค่ เพื่อนที่คณะ computer science เท่านั้น ต่างจากของ ชมรมฟินิกซ์ ที่มีหนุ่ม ๆ ที่สาว ๆ ทั้งหลายหมายปอง การกระจายไปด้วย mailing list ดังกล่าว จะทำให้เกิดการส่งต่ออย่างรวดเร็ว จนฮิตติดลมบนทั่วมหาลัย

หลังจาก online หนังสือพิมพ์ เดอะ คริมสัน ประโคมข่าว มาร์ค จนกลายเป็นหนุ่ม hot

หลังจาก online หนังสือพิมพ์ เดอะ คริมสัน ประโคมข่าว มาร์ค จนกลายเป็นหนุ่ม hot

หลังจาก online เพียงไม่นาน นักศึกษาปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัย harvard เข้ามาใช้ facebook กันอย่างถล่มทลาย กลายเป็น web ที่ทุกคนใช้งาน มาร์ค ถูกยกย่องอย่างยิ่งใหญ่ในการสร้าง thefacebook ลบภาพที่ถูกสาวยี้ทั้งมหาลัย กลายเป็นหนุ่ม hot ไปในชั่วข้ามคืนเท่านั้น

ซึ่งเรื่องของ thefacebook นี้ก็ไปถึงหูของ พี่น้อง winklevoss ในที่สุด แล้ว ฝั่ง winklevoss จะทำการล้างแค้นมาร์ค ที่ทำให้เจ็บแสบมาก ๆ ครั้งนี้อย่างไร มันคือการขโมย idea harvard connection ไปสร้าง thefacebook ของตัวเองชัด ๆ  โปรดติดตามตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 4 : Let’s expand

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 : Facemash (The Beginning) *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol

Search

  • POSTS
  • TAGS

POSTS

  • Geek Monday EP81 : Real-Time Engagement กับเทคโนโลยีเบื้องหลังสตาร์ทอัพพันล้านอย่าง Clubhouse
  • รักแรก รักเดียว และรักแท้ ของชายที่ชื่อ Bill Gates
  • Geek Story EP85 : Digital Music War (ตอนที่ 6 – ตอนจบ)
  • Geek Story EP84 : Digital Music War (ตอนที่ 5)
  • Geek Story EP83 : Digital Music War (ตอนที่ 4)

TAGS

AI alibaba amazon android apple big data bill gates CoronaVirus Covid19 ebay elon musk facebook google huawei iphone ipod jack ma machine learning mark zuckerberg microsoft netscape paypal paypal mafia peter thiel Robot samsung SpaceX startup steve jobs Tesla ประวัติ alibaba ประวัติ alipay ประวัติ Elon Musk ประวัติ facebook ประวัติ google ประวัติ Jack Ma ประวัติ Larry Page ประวัติ mark zuckerberg ประวัติ paypal ประวัติ อีลอน มัสก์ ประวัติ แจ๊ค หม่า สตีฟ จ๊อบส์ หุ่นยนต์ แจ๊ค หม่า โคโรน่าไวรัส
November 2018
M T W T F S S
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930  
« Oct   Dec »
Proudly powered by WordPress. Theme: DW Minion by DesignWall.

อย่าลืมช่วยกด Like เพจกันด้วยนะคร้าบ!


This will close in 320 seconds