Series Review : The Woods (พราง) มินิซีรีส์จากนวนิยายของ Harlan Coben

ต้องบอกว่าส่วนตัวติดใจผลงาน Gone for Good ที่ได้ทำการรีวิวไปก่อนหน้านี้ จึงได้มาดูอีกหนึ่งซีรีส์ของ Harlan Coben อย่าง The Woods โดยมีชื่อไทยว่า พราง และลงในแพล็ตฟอร์มเดิมคือ Netflix

แม้จะเป็นซีรี่ส์ ชุดสั้น ๆ เพียงแค่ 6 ตอน ตอนละราว ๆ 50 นาที แต่ก็คงเอกลักษณ์ผลงานของ Harlan Coben ไว้อย่างน่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

โดยเรื่องนี้ถูกทำมาสร้างเป็นภาษาโปแลนด์ ชื่อตัวละคร ถูกเปลี่ยนไปจากในหนังสือนวนิยาย อย่าง พอล โคปแลนด์ เปลี่ยนเป็น ปาเวล โปกัลสกี ลูซี่ โกลด์ เปลี่ยนเป็น เลาร่า โกลด์ตังด์

ปาเวล ทำงานเป็นอัยการประจำอยู่ที่วอร์ซอ เขามีอดีตบางอย่างที่ปกปิดไว้ซึ่งมันเกี่ยวกับคืนที่เกิดเหตุการณ์การหายตัวไปของน้องสาวของเขาเองเมื่อ 25 ปีก่อน

และเหตุการณ์เมื่อ 25 ปีก่อน ที่ค่ายฤดูร้อน เด็กวัยรุ่นสี่คนหายเข้าไปในป่าและพวกเขาไม่กลับออกมาอีกเลย หนึ่งในนั้นคือเด็กสาวชื่อ คามิลร่า (น้องสาวของปาเวล) ต่อมาได้พบศพ 2 ศพและฆาตกรถูกจับเข้าคุก

แต่อีก 2 คนที่หายไปกลับไม่พบร่องรอยใด ๆ ของพวกเขาเลย พวกเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ เป็นปริศนามากว่า 25 ปี

หลังจากนั้น 25 ปีให้หลัง ปาเวล พี่ชายของคามิลร่า ได้เข้ามาทำงานเป็นอัยการประจำอยู่ที่วอร์ซอเขาได้รับโทรศัพท์จากตำรวจสืบสวน ทางตำรวจเชื่อว่าปาเวลสามารถช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการสืบคดีฆาตกรรมชายปริศนาได้

ซึ่งทางตำรวจเองยังหาตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ และนี่อาจเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคามิลร่าน้องสาวของเขาในอดีตอีกด้วย

โดยเล่าเรื่องราวจะมีการตัดสลับระหว่างปี 2019 กับปี 1994 แม้ว่าการดำเนินเรื่องนั้นค่อนข้างช้า เนิบ ๆ อยู่บ้าง แต่เรื่องราวที่ค่อย ๆ ปล่อยออกมานั้น ก็ถือว่าทำได้ดีในสไตล์ของ Harlan Coben

ถ้าเทียบกับ Gone for Good ผมมองว่า The Woods นั้นทำผลงานดร็อปลงไปพอสมควร แต่การผูกเรื่องที่มีความซับซ้อน ซ่อนเงื่อนของเรื่องนี้ก็ถือว่า ทำให้หลอกผู้ชมได้บ้าง แม้อาจจะพอเดาตอนจบของเรื่องได้อยู่ก็ตาม

เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ของ Coben ที่ชอบเขียนนวนิยายแนวคนหาย และหายแบบแปลก ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา แต่เรื่องนี้จะมีจุดเด่นตรงที่ มีการเล่าเรื่องราวสองยุคไปแทบจะพร้อม ๆ กัน

ส่วนทีมงานนักแสดงจากโปแลนด์ ก็เรียกได้ว่า คัดสรรมาอย่างดี ทั้งในช่วงวัยรุ่นที่แสดงในช่วงปี 1994 และ นักแสดงในรุ่นปัจจุบัน โดยเฉพาะพระเอก ที่ถือว่าฝีมือการแสดงสุดยอดมาก

โดยเฉพาะสีหน้า ท่าทางของ ปาเวล ในเวอร์ชั่นยุคปัจจุบันนั้น เรียกได้ว่า มันสื่อถึงอารมณ์ต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ และแทบจะแบกซีรีส์ทัังเรื่องไว้กว่าครึ่งด้วยการแสดงหลักของเขาเพียงคนเดียว

ซึ่งเนื้อเรื่องก็ทำให้เราสงสัยไปตลอดทางว่า ในคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในป่า? คนที่หายไปตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่? แล้วน้องสาวปาเวลยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แล้วมันมีความเกี่ยวข้องกับคดีปัจจุบันด้วยหรือไม่?

คำถามเหล่านี้นี่เองที่ผู้ชมจะได้สัมผัสตลอดเรื่อง มันทำให้เรื่องน่าติดตาม และที่สำคัญมันไม่ได้ทิ้งสไตล์แนวทาง Harlan Coben ที่มักเริ่มจากคดีเดียวก่อนต่อยอดขยายเป็นคดีฆาตกรรมหลายศพเรื่อย ๆ มีปมหลอกล่อผู้ชมให้รู้สึกสับสน เดาทางไม่ถูก ซึ่งเรื่องนี้ก็ใส่มาเต็มที่เช่นเดียวกัน

แต่คิดว่าแฟน ๆ ของ Harlan Coben ตัวจริง น่าจะเดาเรื่องได้ไม่ยากนัก แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ การที่มีความพยายามใส่รายละเอียดที่เป็นนอกเส้นเรื่องหลักเข้าไปมากพอสมควร

ซึ่งบางอย่างมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเลยด้วยซ้ำ ซึ่งปมทั้งหมดมันไปกระจุกอยู่ตอนท้าย ๆ ของซีรีส์แทบจะทั้งหมด ทำให้เนื่อเรื่องช่วงแรก ๆ อาจจะดูน่าเบื่อหน่อย

แต่ก็ต้องบอกว่าหากใครเป็นแฟนนิยายของ Harlan Coben  ตัวจริง ก็ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ สามารถไปรับชมได้ทาง Netflix รับรองคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน