Movie Review : Sweet & Sour รักหวานอมเปรี้ยว | กับพล็อตหักมุมสุดเซอร์ไพรส์

วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพยายามควานหาหนังใน Netflix ก็ได้ไปเจอกับเรื่อง Sweet & Sour รักหวานอมเปรี้ยว ที่ติดขึ้นเทรนด์ แนะนำใน Netflix จึงอยากลองเข้าไปดูหน่อยว่าหนังเรื่องนี้มีดียังไง

ต้องบอกว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพราะดูจากชื่อเรื่องและ trailer แล้ว เหมือนจะเป็นหนังรัก ซีรีส์ เกาหลี ธรรมดา ๆ เรื่องนึง

แต่ต้องบอกว่า หลังเรื่องนี้จบความคิดเปลี่ยนไป มันเป็นหนังที่ให้อารมณ์ประมาณ My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม หนังดัง ที่หลาย ๆ คนน่าจะจดจำกันได้ดีที่เปิดตลาดหนังเกาหลี ในไทยได้อย่างประสบความสำเร็จ

หนังว่าด้วย เรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งกับหญิงสาวอีกสองคน ชายหนุ่มคนนี้ คือ จางฮยอก (Jang Ki Yong/จางกียง จากซีรีส์เรื่อง My Roommate Is A Gumiho, Search: WWW และ My Mister) ผู้ชายที่มีความสัมพันธ์รักกับพยาบาลสาว ดาอึน (Chae Soo Bin/แชซูบิน จากซีรีส์เรื่อง I am Not a Robot, Love in the Moonlight และ A Piece of Your Mind) ซึ่งแรกคบกันก็ดูจะหวานดีอยู่หรอก

แต่วันหนึ่ง ชีวิตหน้าที่การงานของเขาก็ดันมีจุดเปลี่ยน อยู่ดีๆ เขาก็ต้องย้ายตัวเองมาทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวในบริษัทอีกแห่งหนึ่ง ในวันที่เขาเข้าไปทำงานองค์กรใหญ่ กลับกลายเป็นว่ามันไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว

เพราะว่าในวันเดียวกันนั้น ก็มีพนักงานชั่วคราวอีกคนนึงเข้ามาด้วยพร้อมกัน เป็นหญิงสาวสวย เธอชื่อ โบยอง (Krystal/คริสตัล จากซีรีส์เรื่อง The Heirs, Prison Playbook และ The Bride of Habaek)

เนื่องด้วยมันเป็นบริษัทใหญ่ พวกเขาทั้งสองก็ต้องทำงานเต็มที่ ซึ่งตอนแรกนั้น จางฮยอกและโบยองก็เป็นคู่แข่งคนละทีมกัน แต่จู่ๆ ด้วยสถานการณ์บังคับของบริษัท ก็ได้ถูกจับมาทำงานร่วมกัน แล้วทั้งคู่ก็ใกล้ชิดกันและนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรักหวานอมเปรี้ยว ตามชื่อเรื่อง!

Netflix ได้สรุปเนื้อเรื่องของ Sweet & Sour รักหวานอมเปรี้ยวไว้ได้อย่างน่าสนใจคือ : ท่ามกลางโอกาสและอุปสรรคต่าง ๆ นานา คู่รักพยายามก้าวผ่านประสบการณ์ทั้งร้ายและดี และประคับประคงความสัมพันธ์ระยะไกล ให้อยู่รอดในโลกแห่งความเป็นจริง

ต้องบอกว่า หนังเรื่องนี้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในสังคมยุคปัจจุบัน ที่มักเกิดขึ้นกับคู่รักหลายคู่ รักแท้ จะแพ้ ระยะทางหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย โดยเฉพาะในสังคมยุค Social ในปัจจุบัน

เอาจริง ๆ มันเป็นหนังที่พล็อตเรื่องเรียบง่ายมาก ๆ แต่ดูสนุกแบบเหลือเชื่อ การแสดงจากนักแสดงนำทั้งหมดนั้นทำได้ดีมาก ๆ จนเราหลงเข้าไปในโลกแห่งรักสามเศร้าครั้งนี้ แต่ สิ่งที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ ก็คือ ตอนจบของหนัง ที่เรียกได้ว่า หลอกแกงคนดูได้อย่างแนบเนียน

ที่ต้องบอกว่า มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องรักสามเศร้าแบบธรรมดา แต่มันเป็นหนังที่หลอกคนดูจนเราแทบจะไม่เชื่อสายตาว่า ตอนจบไหงมันกลายเป็นแบบนี้ แนะนำให้ไปลองรับชมกันได้เลยครับ รับรองเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน