วันนี้ เราจะมาย้อนรอยเรื่องราวของ Hutch ในประเทศไทย ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ท้าชิงที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ จนถึงวันที่ต้องอำลาจากตลาดไป แต่กลับทิ้งมรดกชิ้นสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการโทรคมนาคมไทยไปตลอดกาล
เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่ได้เริ่มต้นที่ประเทศไทย แต่ต้องย้อนกลับไปไกลถึงฮ่องกง ที่นั่นมีบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่า Hutchison Whampoa ซึ่งถือเป็น “พี่ใหญ่” ในวงการธุรกิจระดับโลก
บริษัทนี้มีประวัติศาสตร์ที่โชกโชนมาก เริ่มต้นจากบริษัทสัญชาติอังกฤษสองแห่งที่ก่อตั้งตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1860s-1870s ก่อนที่โชคชะตาจะพลิกผันครั้งใหญ่
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1979 เมื่อนักธุรกิจระดับตำนานชาวฮ่องกงนามว่า Li Ka-shing ได้เข้าซื้อกิจการของ Hutchison Whampoa จากธนาคาร HSBC
ชายผู้นี้คือบุคคลที่น่าสนใจมาก ชีวิตของเขาเริ่มต้นจากศูนย์อย่างแท้จริง Li Ka-shing เกิดในปี 1928 และต้องลี้ภัยสงครามจากจีนมายังฮ่องกงตั้งแต่อายุ 12
โชคชะตาเล่นตลกซ้ำสอง เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรควัณโรค ทำให้เขาต้องลาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 และไปทำงานในโรงงานพลาสติกวันละ 16 ชั่วโมง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มที่เคยขายดอกไม้พลาสติกข้างถนน จะสามารถก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาได้ จากการก่อตั้งบริษัทของตัวเองในปี 1950 เขาก็ได้สยายปีกกลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก
ความเทพของ Li Ka-shing คือการปลุกปั้นจักรวรรดิธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่ท่าเรือ อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ค้าปลีก และที่สำคัญคือ “โทรคมนาคม”
Hutchison Whampoa ขยายธุรกิจโทรคมนาคมไปทั่วโลกอย่างบ้าคลั่ง ภายใต้แบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อ “Hutch” ซึ่งได้เข้าไปปักธงในหลายประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย ศรีลังกา เวียดนาม และแน่นอนว่าจุดหมายที่หลายคนหมายปองก็คือ ประเทศไทย
ปี 2000 คือปีที่เรื่องราวของ Hutch ในประเทศไทยได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ Hutchison Telecom ได้จับมือกับ CAT Telecom รัฐวิสาหกิจของไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า Hutchison CAT Wireless MultiMedia
เป้าหมายของพวกเขาชัดเจนมาก นั่นคือการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า CDMA เข้ามาให้บริการในพื้นที่ 25 จังหวัดสำคัญของไทย รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล
ต้องบอกว่าในยุคนั้น เทคโนโลยี CDMA ถือเป็นของใหม่ที่โครตเจ๋ง เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งเสียงและการส่งข้อมูลความเร็วสูง ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยี GSM ที่ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ในไทยใช้อยู่
นี่คือการเดิมพันครั้งสำคัญของ Hutchison พวกเขาหวังว่าเทคโนโลยีที่เหนือกว่า จะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดโทรคมนาคมไทยที่กำลังบูมสุดขีดได้
ปี 2003 Hutchison CAT ได้เปิดตัวแบรนด์ Hutch อย่างเป็นทางการ พร้อมชูจุดเด่นเรื่องบริการเสียงและอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง โครงสร้างการถือหุ้นก็ชัดเจน Hutchison ถือ 74% ส่วน CAT Telecom ถือ 26%
การมาถึงของ Hutch ในตอนนั้นเปรียบเสมือนการเข้าถ้ำเสือ ที่มีเจ้าตลาดอย่าง AIS และ DTAC ครองบัลลังก์อยู่แล้ว แต่ Hutch ก็มาพร้อมกับความมั่นใจเต็มเปี่ยม ด้วยอาวุธลับที่ชื่อว่า CDMA
พวกเขาเชื่อว่าความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี จะสามารถเอาชนะในตลาดที่การแข่งขันดุเดือดแห่งนี้ได้
แม้ว่าการเริ่มต้นของ Hutch จะดูสวยหรูราวกับโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความเป็นจริงในสนามแข่งขันนั้นโหดเหี้ยมกว่าที่คิดไว้มาก
Hutch ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ตลาดมือถือไทยในตอนนั้นถูกครอบงำโดยเทคโนโลยี GSM อย่างสิ้นเชิง ซึ่งหมายความว่าฐานลูกค้าส่วนใหญ่คุ้นเคยและใช้เครื่องที่รองรับ GSM กันหมดแล้ว
ปัญหาแรกที่ Hutch เจอก็คือเรื่อง “เครื่องมือถือ” การที่พวกเขาใช้เทคโนโลยี CDMA ทำให้ลูกค้าที่อยากจะย้ายค่าย ต้องไปหาซื้อเครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับระบบนี้โดยเฉพาะ ซึ่งในตลาดมีตัวเลือกน้อยมาก แถมยังมีราคาแพงกว่าเครื่อง GSM ทั่วไปอีกด้วย
เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ลูกค้าจำนวนมากต้องคิดหนัก หลายคนถึงกับออกอาการยี้ แค่คิดว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อมือถือใหม่ก็รู้สึกไม่เข้าท่าแล้ว
นอกจากนี้ เครือข่ายของ Hutch ยังมีข้อจำกัดอย่างมาก เพราะครอบคลุมพื้นที่แค่ 25 จังหวัดในภาคกลางเท่านั้น ต่างจากคู่แข่งที่สัญญาณไปไกลทั่วประเทศ
แน่นอนว่าสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย หรือมีบ้านอยู่ต่างจังหวัด การเลือกใช้ Hutch อาจทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้นไปอีก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจึงเริ่มสั่นคลอน
แต่ท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้า สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับในความเจ๋งของ Hutch ก็คือการสร้างแบรนด์และการตลาดที่ต้องบอกว่ามีประสิทธิภาพมาก ๆ
Hutch สร้างตัวตนของแบรนด์ได้โดดเด่นมาก พวกเขาเลือกใช้ “สีส้ม” เป็นสีประจำแบรนด์ ซึ่งสื่อถึงความสดใส ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ
ในแง่กลยุทธ์ Hutch พยายามเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ทั้งลูกค้ารายเดือน (Postpaid) และลูกค้าองค์กร เพื่อสร้างรายได้เฉลี่ยต่อหัว หรือ ARPU ให้สูงที่สุด
กลยุทธ์นี้ถือว่าเข้าท่า เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงสงครามราคาที่ดุเดือดในตลาดเติมเงิน (Prepaid) และมุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ แม้จะมีจำนวนไม่มากก็ตาม
อย่างไรก็ตาม กำแพงที่ชื่อว่า “เจ้าตลาด” ก็ยังคงสูงเกินไป การแข่งขันในตลาดมือถือไทยนั้นโหดมาก คู่แข่งอย่าง AIS และ DTAC มีความได้เปรียบจากฐานลูกค้าขนาดมหึมา ทำให้พวกเขามีต้นทุนที่ต่ำกว่า และสามารถทำโปรโมชั่นลดสะบั้นหั่นแหลกเพื่อดึงดูดลูกค้าได้
แม้ Hutch จะอัดฉีดเงินลงทุนไปกับการตลาดและเทคโนโลยีอย่างหนัก แต่ส่วนแบ่งตลาดของพวกเขาก็ยังคงร่อยหรออย่างน่าใจหาย
ในช่วงปี 2010 มีข้อมูลว่า Hutch มีลูกค้าในมือเพียงแค่ 600,000 ราย จากตลาดรวมที่มีผู้ใช้งานกว่า 69 ล้านราย คิดเป็นส่วนแบ่งแค่ 0.8% เท่านั้น
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามของ Hutch ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ความฝันที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการ เริ่มดูเหมือนจะเริ่มไกลเกินเอื้อม
ความยากลำบากในการแข่งขันที่นับวันยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้น ทำให้ Hutchison ที่ฮ่องกงเริ่มมองหาทางออก ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้น
และแล้วในปี 2010 เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยครั้งใหญ่ก็ได้อุบัติขึ้น
True Corporation ผู้ให้บริการมือถืออันดับ 3 ของตลาดในขณะนั้น ได้ประกาศข่าวใหญ่ นั่นคือการเข้าซื้อกิจการมือถือระบบ CDMA ของ Hutchison ในประเทศไทย
ดีลนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การเจรจานั้นลึกลับซับซ้อนและเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทั้ง Hutchison, True และที่ขาดไม่ได้คือ CAT Telecom ในฐานะเจ้าของคลื่นความถี่
True Move มองเห็นโอกาส การซื้อ Hutch ไม่ได้หมายถึงการได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เป็นการได้ “สิทธิ์” ในการใช้คลื่นความถี่ 850 MHz ที่เป็นของดีและเป็นที่หมายปองอย่างยิ่ง
คลื่น 850 MHz นี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ เพราะเป็นคลื่นความถี่ต่ำที่เหมาะกับการนำไปพัฒนาบริการ 3G ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างไกล
ในที่สุดเดือนพฤศจิกายน 2010 True ก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาจะเข้าซื้อธุรกิจ CDMA ของ Hutchison ด้วยมูลค่า 4.35 พันล้านบาท
เบื้องหลังดีลนี้ True ได้ตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Real Move เพื่อเข้าซื้อหุ้นใน Hutchison โดยเฉพาะ และยังต้องให้เงินกู้แก่บริษัทลูกของ Hutch อีกกว่า 6.3 พันล้านบาทเพื่อเคลียร์หนี้สินเดิม ทำให้มูลค่ารวมของดีลนี้พุ่งไปถึงกว่าหมื่นล้านบาท
การซื้อขายครั้งนี้ถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย สำหรับ Hutchison มันคือการถอนตัวออกจากตลาดสุดโหดในไทยอย่างสง่างาม และหันไปโฟกัสตลาดอื่นที่มีอนาคตสดใสกว่า
ส่วนสำหรับ True พวกเขาได้ทั้งโครงข่ายและคลื่นความถี่ 850 MHz ที่พร้อมใช้งานมาต่อยอดธุรกิจได้ทันที โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
หลังจากดีลนี้จบลงอย่างสมบูรณ์ Real Move ซึ่งอยู่ภายใต้ชายคาของ True ก็ได้เข้ามาสานต่อเครือข่าย CDMA ของ CAT และได้สร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาในชื่อ “TrueMove H”
และสิ่งที่ตามมาก็คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ TrueMove H ได้ใช้ขุมทรัพย์ที่ได้จาก Hutch มาปลุกปั้นจนกลายเป็นผู้ให้บริการ 4G LTE รายแรกของประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2013
นี่คือจุดเปลี่ยนที่แท้จริง เป็นการผลักดันให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด ส่วนแบรนด์ Hutch ก็ค่อยๆ เลือนหายไป และยุติการให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการในปี 2013 เป็นการปิดฉากตำนานค่ายมือถือสีส้มลงอย่างสิ้นเชิง
เรื่องราวของ Hutch ในประเทศไทยได้จบลง แต่เรื่องราวของ True ที่ได้มรดกตกทอดไปนั้นยังไม่จบ ในปี 2023 True ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการควบรวมกิจการกับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง DTAC ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ให้บริการที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในประเทศ
ใครจะไปเชื่อว่า จากผู้เล่นรายเล็กในตลาดอย่าง Hutch จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิ๊กซอว์ที่ทำให้ True กลายเป็นพี่ใหญ่ในวงการได้ในวันนี้
เรื่องราวของ Hutch สอนบทเรียนทางธุรกิจที่น่าสนใจให้เรามากมาย
บทเรียนแรกคือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถการันตีความสำเร็จได้ Hutch มาพร้อมกับ CDMA ที่เหนือกว่า แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับระบบนิเวศของ GSM ที่แข็งแกร่งกว่า ทั้งในแง่ของเครื่องมือถือและความครอบคลุมของเครือข่าย
บทเรียนที่สอง คือพลังของการสร้างแบรนด์ที่ไม่อาจมองข้าม แม้ Hutch จะมีส่วนแบ่งตลาดน้อยนิด แต่พวกเขาสร้างการจดจำได้อย่างมหาศาล แม้ตัวแบรนด์จะจากไปแล้ว แต่ภาพจำยังคงอยู่
บทเรียนที่สาม คือการรู้จักเวลาที่ควรจะ “ถอย” การตัดสินใจขายกิจการของ Hutchison อาจดูเหมือนเป็นการยอมแพ้ แต่ในมุมมองธุรกิจ มันคือการตัดสินใจที่ฉลาดมาก เพราะสามารถเปลี่ยนสินทรัพย์ที่กำลังจะด้อยค่า ให้กลายเป็นเงินสดก้อนโต และนำไปลงทุนในที่ที่มีโอกาสมากกว่า
และบทเรียนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ การสิ้นสุดของธุรกิจหนึ่ง อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
มรดกที่ Hutch ทิ้งไว้ ไม่ใช่แค่ลูกค้าไม่กี่แสนราย แต่คือคลื่นความถี่ 850 MHz ที่กลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ True สามารถพุ่งทะยานสู่การเป็นผู้นำ 4G และต่อยอดมาถึง 5G ในปัจจุบัน
ทุกวันนี้ เวลาที่เราหยิบมือถือขึ้นมาใช้ 4G หรือ 5G อย่างรวดเร็ว อาจไม่มีใครนึกถึงชื่อ Hutch อีกแล้ว แต่ความจริงก็คือ เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่พวกเขาเคยนำเข้ามาฝ่าฟันต่อสู้ในอดีต ได้ถูกหลอมรวมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบโทรคมนาคมไทยที่ทันสมัยในทุกวันนี้
เรื่องราวของ Hutch จึงไม่ใช่แค่ตำนานของผู้พ่ายแพ้ที่ถูกลืม แต่มันคือเรื่องราวของ “ผู้บุกเบิก” ที่การจากไปของเขา ได้ปูทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการอย่างแท้จริง
References: [en.wikipedia, rcrwireless, telecomasia, thailandnews]
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ