THESE ADS SUCK กับโน็ตเล็ก ๆ บนห้องครัวของ Larry Page ที่เปลี่ยนแปลง Google ไปตลอดกาล

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 มีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนโลกของการค้นหาข้อมูลไปตลอดกาล เป้าหมายคือการสร้างเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อการค้นหาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย

Overture เป็นหนึ่งในนั้นได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากนักธุรกิจชั้นยอด Bill Gross เป็นผู้บุกเบิกด้านการโฆษณาอินเทอร์เน็ตตัวจริงในวันที่โลกยังไม่รู้จักกับ Google

Gross เป็นคนแรกที่คิดค้นรูปแบบการโฆษณาแบบ Pay Per Click เขาได้เขียนโค้ด สร้าง Overture ให้เป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูซึ่งสร้างผลกำไรหลายร้อยล้านดอลลาร์ และสามารถทำ IPO จนธุรกิจมีมูลค่าเป็นพันล้านดอลลาร์

Bill Gross เป็นผู้บุกเบิกด้านการโฆษณาอินเทอร์เน็ตตัวจริง (CR:Wikipedia)
Bill Gross เป็นผู้บุกเบิกด้านการโฆษณาอินเทอร์เน็ตตัวจริง (CR:Wikipedia)

ไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Google จะถือกำเนิดขึ้นมาแข่งขันในธุรกิจที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลนี้ ในขณะนั้นนักศึกษาจาก stanford สองคนอย่าง Larry Page และ Sergey Brin กำลังสร้างเครื่องมือค้นหาขึ้นมาใหม่และต้องการท้าทายอำนาจของ Overture

แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องง่าย พวกเขาประสบกับปัญหามากมายกับการสร้าง Search Engine โดยเฉพาะโมเดลที่จะทำเงินจากธุรกิจนี้อย่าง AdsWord

วันที่ 24 พฤษภาคม 2002 ในห้องครัวของ Google ที่ 2400 Bayshore Parkway ในเมาน์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย Larry Page ได้ปักข้อความไว้ที่ผนังที่ประกอบด้วยคำสามคำ

“THESE ADS SUCK”

ต้องบอกว่าในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม มันไม่ใช่เรื่องปรกติที่จะทิ้งโน้ตแบบนี้ไว้ในห้องครัวของบริษัท แต่นั่นไม่ใช่กับบริษัทสตาร์ทอัพเล็ก ๆ อย่าง Google ที่กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา

ในวันที่ Page ปักโน้ตไว้ที่ผนังห้องครัว การแข่งขันของ Google กับ Overture เรียกได้ว่ายังห่างชั้นนัก Google ได้สร้างเครื่องมือที่เรียกว่า AdsWords แต่ตอนนั้นกำลังประสบปัญหาใใหญ่ในการทำงานพื้นฐานการจับคู่ข้อความค้นหากับโฆษณาที่เหมาะสม

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพิมพ์ค้นหารถจักรยานยนต์ Kawasaki H1B คุณจะได้รับโฆษณาจากนักกฎหมายที่เสนอความช่วยเหลือในการยื่นขอวีซ่าต่างประเทศ H-1B แทน

มันเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Google ซึ่งอาจจะทำลายทั้งบริษัทได้เลย หากไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น Page จึงพิมพ์ตัวอย่างความล้มเหลวนี้ เขียนเป็นคำสามคำด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ และปักหมุดไว้ที่กระดานข่าวในครัว จากนั้นเขาก็จากไป

Jeff Dean เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในออฟฟิสของ Google คนสุดท้ายในวันนั้น ซึ่งเขาก็มีงานส่วนตัวที่ยุ่งมากอยู่แล้ว แต่ในวันนั้น Dean ได้เดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำคาปูชิโน่ และเห็นโน้ตของเพจ เขาพลิกดูโน้ตที่แนบมา และในขณะที่กำลังมองไปที่โน้ตใบนั้น ความคิดก็แล่นเข้ามาในหัวเขา

เขาคุ้นว่านี่เป็นปัญหาที่เขาเพิ่งเจอมาไม่นาน Dean ได้เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา และเริ่มพยายามแก้ไขเครื่องมือ AdsWord เขาไม่ได้ขออนุญาตหรือบอกใครเลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่เห็นมัน และแก้ไขปัญหาทันที

แม้เขาจะมีงานกองดองมากมายอยู่เต็มโต๊ะ แต่เขาอยากที่จะแก้ไขปัญหายาก ๆ ที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะจัดการได้ โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์

Jeff Dean วิศวกรผู้ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาโดยแทบไม่ได้บอกใคร (CR:Quora)
Jeff Dean วิศวกรผู้ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาโดยแทบไม่ได้บอกใคร (CR:Quora)

ในคืนวันอาทิตย์เขามีนัดรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวและต้องพาลูกเล็ก ๆ ทั้งสองเข้านอน ประมาณ 21.00 น. เขาขับรถกลับไปที่สำนักงาน ทำคาปูชิโน่อีกแก้ว และหาโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาของ AdsWord ตลอดทั้งคืน

เวลา 05.05 น. ในเช้าวันจันทร์ เขาได้ส่งอีเมลสรุปข้อเสนอและวิธีการแก้ไข จากนั้นเขาก็ขับรถกลับบ้าน ขึ้นเตียงและนอน

มันได้ผล การแก้ไขของ Dean ช่วยปลดล็อกปัญหา โดยสามารถเพิ่มความแม่นยำของการค้นหาและจับคู่กับโฆษณา และมันได้ส่งผลต่อเนื่องในการปรับปรุงส่วนอื่น ๆ ที่ตามมาของ AdsWord

ไม่นานหลังจากนั้น Google ก็พลิกบริษัทเข้ามาครอบครองตลาดแบบ Pay Per Click ได้อย่างรวดเร็ว การแก้ไขเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Dean คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่เลย สร้างผลกำไรให้กับ Google เพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านดอลลาร์ เป็น 99 ล้านดอลลาร์

ภายในปี 2014 เครื่องมือ AdsWord สร้างรายได้ 160 ล้านดอลลารต่อวัน และโฆษณาถือเป็นเครื่องจักรทำเงินหลักกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมดของ Google

ในวันหนึ่งของปี 2013 Jonathan Rosenberg ที่ปรึกษาของ Google ได้ติดต่อ Dean เพื่อต้องการฟังเรื่องราวในเวอร์ชั่นของ Dean

แต่ Dean กลับจ้องไปที่ Rosenberg ด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า เขาแทบจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ใช่คำตอบที่ Rosenberg คาดหวังที่จะได้จาก Dean มันไม่ต่างอะไรกับการที่ Michael Jordan ลืมไปว่าเขาคว้าแชมป์ NBA ได้ 6 สมัย

“ผมหมายความว่า ผมจำได้ว่ามันเกิดขึ้น” Dean กล่าว “แต่พูดตามตรง มันไม่ได้อยู่ในความทรงจำของผมมากนัก เพราะมันไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น มันไม่ได้รู้สึกพิเศษหรือแตกต่าง มันเป็นเรื่องปรกติ เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลาที่ Google”

มันเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับของวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับ Google เรื่องเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ มันเปลี่ยนโลก สำหรับ Google มันเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ และสามารถนำเงินทุนของพวกเขาไปสร้างแนวคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้นั่นเองครับผม

References :
เรียบเรียงจากหนังสือ The Culture Code: The Secrets of Highly Successful Groups โดย Daniel Coyle


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube