The rise of 3D-printed houses เมื่อเทรนด์ใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์กำลังมุ่งหน้าสู่เทคโนโลยี 3D-Printing

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อบ้านใหม่จำนวนหนึ่งทั่วทั้งแคลิฟอร์เนียขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และมีลูกค้ารอใน list กว่าอีก 1,000 ราย ที่อยากเป็นเจ้าของบ้านของบริษัทที่มีชื่อว่า Palari Homes

ในขณะที่บ้านที่ใช้เทคโนโลยีเก่า ๆ อย่างการก่อสร้างด้วยอิฐและปูน นั้นอาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะสร้างบ้านขึ้นมาได้ซัก 1 หลัง

แต่ Palari Homes สามารถสามารถสร้างบ้าน 1 หลังได้ภายใน 24 ชม.เพียงเท่านั้น พวกเขาสามารถทำมันได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของพวกเขาประกอบขึ้นโดยการพิมพ์มันออกมา ผ่านเทคโนโลยี 3D Printing

ต้องบอกว่าเทคโนโลยี 3D Printing ในการนำมาสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้านนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้นเพียงเท่านั้น แต่มันยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Palari Homes กับโฆษณา 3D Printed Homes บนโซเชียลมีเดีย (CR: facebook/palarigroup)
Palari Homes กับโฆษณา 3D Printed Homes บนโซเชียลมีเดีย (CR: facebook/palarigroup)

ซึ่งนั่นเป็นคำตอบที่เป็นประโยชน์ สำหรับความท้าทายสองประการที่โลกเรากำลังเผชิญอยู่ : ทั้งเรื่องการขาดแคลนที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังวิกฤติอย่างหนักในปัจจุบัน

มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้คนประมาณ 1.6 พันล้านคนทั่วโลก หรือ มากกว่า 20% ของประชากรโลกเรา ไม่มีแม้กระทั่งที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง

ที่สำคัญอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีส่วนสำคัญต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่มนุษย์สร้างขึ้นสูงถึง 11% ของทั้งหมด และมันก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งระบบอัตโนมัติที่ Palari Homes ใช้นั้น สามารถประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก การใช้เทคโนโลยี 3D Printing ใน 80% ของกระบวนการพิมพ์ทั้งหมด หมายความว่าบริษัทต้องการเพียงแค่ 5% ของแรงงานเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังเพิ่มความเร็วในการผลิตเป็นสองเท่าได้อีกด้วย

ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นสำเร็จรูปของ Palari Homes นั้น บริษัทสามารถลดปริมาณการขนส่งด้วยรถบรรทุกที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน ซึ่งสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาได้ถึงสองตันเลยทีเดียว

อีกข้อมูลที่น่าสนใจจาก McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ได้กล่าวถึงอุตสาหกรรมก่อสร้างว่า เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่การ transform ไปสู่ยุคดิจิทัลนั้นยังช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นอย่างมาก

อุตสาหกรรมนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะในหลายพื้นที่ และคาดว่าสถานการณ์จะแย่ลงไปอีก ตัวอย่างเช่นในอเมริกา ราว 40% ของผู้ที่ทำงานด้านก่อสร้าง คาดว่าจะเกษียณอายุภายในหนึ่งทศวรรษข้างหน้า

ซึ่งโครงการที่คล้าย ๆ กับ Palari Homes นั้นตอนนี้เริ่มกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก 14Trees ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Holcim ผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกและ CDC Group ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการเงินเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลของอังกฤษ ที่ดำเนินการในประเทศมาลาวี

Holcim ผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกร่วมโปรเจ็คดังกล่าว (CR:Holcim.com)
Holcim ผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกร่วมโปรเจ็คดังกล่าว (CR:Holcim.com)

โดย 14Trees สามารถพิมพ์บ้านได้ภายในเวลาเพียงแค่ 12 ชั่วโมง โดยมีราคาขายไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ นอกจากราคาถูกและสร้างได้รวดเร็วแล้วนั้น ยังช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นในการก่อสร้างไปได้มากอีกด้วย

ด้วยเทคโนโลยี 3D Printing การเติมซีเมนต์ในปริมาณที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถลดของเสียลง ซึ่ง 3D Printing จะสร้างคาร์บอนไดออไซต์เพียงแค่ 30% เมื่อเทียบกับการใช้อิฐดินเผา ซึ่งเป็นเทคนิคทั่วไปที่ใช้กันอยู่ในประเทศมาลาวี

และดูเหมือนอนาคตของวงการนี้จะดูสดใส ในปีที่แล้ว แผนสำหรับอาคารอพาร์ตเมนต์ที่ใช้เทคโนโลยี 3D Printing ได้รับการอนุมัติในประเทศเยอรมนี

โครงสร้างอพาร์ตเมนต์ 3 ชั้น ซึ่งประกอบโดย Peri บริษัทก่อสร้างสัญชาติเยอรมนี จากชิ้นส่วนที่ผลิตโดยใช้เครื่องพิมพ์ที่พัฒนาโดย Cobod บริษัทสัญชาติเดนมาร์ก

การใช้เทคโนโลยีนี้ ยังขยายตัวไปในตะวันออกกลางและเอเชีย รัฐบาลดูไบ ต้องการให้อาคารใหม่ในประเทศใช้เทคโนโลยี 3D Printing ภายในปี 2030

ซาอุดิอาระเบีย ต้องการใช้ 3D Printing เพื่อสร้างบ้าน 1.5 ล้านหลังในทศวรรษหน้า และกระทรวงการเคหะและกิจการเมืองของอินเดียวต้องการใช้เทคโนโลยีเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยของประเทศ

โดยเทคโนโลยี 3D Printing มีแนวโน้มที่จะขยายไปไกลกว่าที่อยู่อาศัย ทั้งในคลังสินค้า สำนักงาน และอาคารพาณิชย์อื่น ๆ หรือแม้กระทั่ง NASA เอง ก็มีแผนใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อสร้างแผ่นลงจอด ที่พัก และถนนบนดาวอังคารและดวงจันทร์

ซึ่งแน่นอนว่า เทรนด์ของโลกเรากำลังดำเนินไปในทิศทางดังกล่าว เนื่องจากหลาย ๆ ปัญหาอย่างที่กล่าวมา ทั้งการขาดแคลนแรงงาน ปัญหามลพิษ ต้นทุน ความล่าช้าของการผลิต ทุกสิ่งทุกอย่าง มันกำลังก้าวไปถึงจุด Disrupt ธุรกิจเดิม ที่คล้าย ๆ กับที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอื่นที่ได้ transform ไปสู่ยุคดิจิทัลได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยนั่นเองครับผม

References :
https://www.cdcgroup.com/en/news-insight/news/14trees-pioneers-3d-printing-technology-in-africa-for-affordable-housing-and-schools/
https://www.economist.com/science-and-technology/the-rise-of-3d-printed-houses/21803667


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube