เมื่อไทยมีประสิทธิภาพในการจัดการการระบาดของ Coronavirus ได้ดีกว่า ญี่ปุ่น และ สิงค์โปร์

ผมมีข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจ และสามารถคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้แบบง่าย ๆ ว่าประสิทธิภาพในการจัดการการแพร่ระบาดของ Coronavirus ของประเทศไทยนั้นทำได้ดีกว่า ทั้งญี่ปุ่น และ สิงค์โปร์

ต้องบอกว่า สถานการณ์การระบาดของ Coronavirus ที่มีต้นตอมาจากเมือง อู่ฮั่น ของประเทศจีน ดูจะไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง และ ดูเหมือนว่า การแพร่กระจายนั้นจะทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ในหลาย ๆ ประเทศที่ต้องประสบพบเจอกับปัญหาดังกล่าว

แน่นอนว่า ประเทศที่จะต้องเจอปัญหามากกว่าใครก็คือ ประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวปลายทางอันดับหนึ่งของประเทศจีน รวมถึงชาวเมือง อู่ฮั่นเองก็ตาม ทำให้ประเทศเราต้องทำงานหนักกว่าใครในการแก้ปัญหาดังกล่าว

ที่มาภาพ : thestandard.co
ที่มาภาพ : thestandard.co

คราวนี้เรามาลองพิจารณาดูจากข้อมูล การเดินทางของชาว อู่ฮั่น ที่เป็นต้นตอของเชื้อ Coronavirus ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจนจากข้อมูลจาก thestandard.co ว่า พวกเขาเดินทางมายังกรุงเทพมหานครของเราสูงถึง 20,000 คน

ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขนี้ก็สัมพันธ์กับที่สื่อต่างชาติออกข่าวมาก่อนหน้านี้ ในเรื่องที่ว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงที่สุดสำหรับ coronavirus ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับความจริงว่ามันถูกต้องเพราะนักท่องเที่ยวจาก อู่ฮั่น เดินทางเข้ามากรุงเทพมากที่สุด มันก็สมเหตุสมผลกับคำว่าเสี่ยงที่สุดอย่างที่สื่อได้ประโคมข่าวกันไปก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่ได้หมายความว่าประสิทธิภาพการจัดการการแพร่ระบาดของ coronavirus ในประเทศเราต่ำสุดซะหน่อย

ข้อมูลจาก -  ลงทุนแมน
ข้อมูลจาก – ลงทุนแมน

คราวนี้มาดูตัวเลขล่าสุดอัพเดทวันที่ 2 ก.พ. 2020 นั้นจะพบว่า ญี่ปุ่นได้แซงไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อ ซึ่งทั้งสามประเทศนั้น มีจำนวนผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน คือ ญี่ปุ่น 20 ราย , ไทย 19 ราย และ สิงค์โปร์ 18 ราย

% การติดเชื้อเที่ยบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
% การติดเชื้อเที่ยบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา

เมื่อเอาข้อมูลมา plot กราฟแบบเบสิก สุด ๆ ก็พบว่า % การติดเชื้อของเรานั้นต่ำมากแค่ 0.095% เท่านั้น ส่วน สิงค์โปร์ 0.169% ตามมาด้วย ญี่ปุ่นที่ 0.220%

จากข้อมูลนี้ก็เป็นตัวเลขหนึ่งที่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่า ประเทศไทย มีการจัดการสำหรับการแพร่ระบาดของ coronavirus ได้ดีกว่า ทั้ง สิงค์โปร์ และ ญี่ปุ่น ซึ่งการจัดการที่มีประสิทธิภาพนั้น รวมถึงการติดตาม monitor เหล่านักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะจากเมืองอู่ฮั่น ที่หากมีเชื้ออยู่นั่น จะไม่กระจายไปสู่วงกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าต้องอาศัยระบบการจัดการในเรื่องดังกล่าวที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยไม่กระโดดสูงมาก ทั้งที่แบกรับภาระจำนวนนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นมากกว่าประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากในประเทศจีนนั่นเอง

แต่หลายคนอาจจะบอกว่า รัฐบาลไทย ไม่โชว์ตัวเลขที่แท้จริงหรือไม่ ซึ่งก็เป็นคำถามที่สามารถถามได้เช่นเดียวกันว่า ตัวเลขของรัฐบาล ญี่ปุ่น และ สิงค์โปร์นั้น มีการปกปิดข้อมูลหรือไม่ เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ออกมาประกาศแบบเปิดเผยเหล่านี้น่าจะเป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้มากที่สุด เท่าที่เราจะหาข้อมูลมาเปรียบเทียบได้นั่นเอง

แล้วทำไม? ไทยถึงมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการจัดการการแพร่ระบาด

ต้องบอกว่า ประเทศไทยนั้น ผ่านประสบการณ์เรื่องราวเหล่านี้มาแล้ว และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นจากโรคซาร์ หรือ ไข้หวัดนก และที่สำคัญประเทศไทย นั้นเป็นประเทศหนึ่งที่มีบุคลากรที่มีคุณภาพลำดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ทำงานอยู่ในวงการสาธารณสุขไทย

ลองจินตนาการง่าย ๆ ว่า เพื่อนเราระดับเทพ ๆ เรียนเก่ง ๆ สมัยตอนเรียนอยู่มัธยมนั้น ไปกระจุกตัวอยู่ที่อาชีพไหน แน่นอนหลาย ๆ คน ก็ต้องตอบว่าหนีไม่พ้นวงการสาธารณสุขนั่นเอง มันทำให้วงการสาธารณสุขของไทย ในหลาย ๆ เรื่องนั้น มีมาตรฐานในระดับโลก ทั้งเรื่องคุณภาพในการรักษา งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวงการสาธารณสุข อย่างข่าวล่าสุดที่โรงพยาบาลราชวิถีคิดค้นวิธีการรักษาผู้ป่วยติดไวรัสโคโรน่าที่มีอาการรุนแรงได้สำเร็จ ซึ่งรวมถึงเรื่องการจัดการการแพร่ระบาดอย่างที่เราได้เห็นจากข้อมูลดังกล่าว

บทความนี้เป็นการแสดงข้อมูลเบื้องต้นให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการการแพร่ระบาดของประเทศไทย ที่ผมก็ยังมองว่าไม่แพ้ชาติใด ๆ ในโลก และเป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกภาคส่วนที่ดูแลเรื่องนี้ ที่ต้องทำงานอย่างหนักมาก ๆ จนได้ผลงานอย่างที่เราได้เห็น

แต่ข้อมูลจากบทความนี้ไม่ได้หมายความว่าเรื่องอื่น ๆ ของประเทศไทย จะมีประสิทธิภาพเหมือนการควบคุมการแพร่ระบาดของ coronavirus ต้องมีการแยกเป็นประเด็น ๆ ออกไป เช่น เรื่องของการช่วยเหลือคนไทยในการอพยพมาจากแหล่งต้นตอของการแพร่ไวรัสในเมืองอู่ฮั่น ที่ดูจะเชื่องช้าและสามารถทำให้มีประสิทธิภาพได้มากกว่านี้

แต่อย่างไรก็ดี ถึงการจัดการกับการแพร่ระบาดจะมีประสิทธิภาพยังไง เราก็ยังคงต้องระวังตัวเองให้ดีที่สุด เพราะดูเหมือนจำนวนผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนสูงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขโดยง่าย เพราะฉะนั้นการสวมหน้ากากเมื่อออกไปยังสถานที่สาธารณะจึงเป็นสิ่งที่ปกป้องเราได้ดีที่สุดนั่นเองครับผม

*** ข้อมูลตัวเลขจากบทความนี้ อ้างอิงถึงวันที่ 2 ก.พ. 2020 ครับผม ***

*** เพิ่มเติม หลังจากได้รับ Feedback จากบทความนี้นะครับ ข้อมูลนี้อาจจะสรุปไม่ได้ชัดเจนในเรื่องนี้แบบ 100% เพราะสุดท้ายเราไม่รู้ว่า กลุ่มผู้ป่วยจริง ๆ จากอู่ฮั่นนั้น เดินทางไปที่ใดมากกว่ากัน ผมเพียงแค่นำข้อมูลที่มีการปล่อยออกมาเพื่อเทียบให้เห็นประสิทธิภาพของ การทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องน่ะครับ ว่าคนของเราก็ไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ สำหรับการจัดการเรื่องนี้ครับผม ผมแก้ไขคำเป็น -จากข้อมูลนี้ก็เป็นตัวเลขหนึ่งที่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่า- แทนนะครับ***

Referenes : ลงทุนแมน , thestandard.co


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube