เทคนิคสร้างทีมให้ปัง : ทีมแย่ เพราะไม่รู้จัก Working Genius เปิดกลยุทธ์จัดทีมรูปแบบใหม่

ในโลกของการทำงานยุคใหม่ การเข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของตนเองและทีมถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ Patrick Lencioni นักเขียนและที่ปรึกษาด้านการบริหารชื่อดัง ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจผ่านหนังสือ “The Six Types of Working Genius” ที่จะช่วยให้ผู้นำและสมาชิกในทีมค้นพบความเป็นอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ในตัวตน

เส้นทางสู่การค้นพบความเป็นอัจฉริยะ

การทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาทักษะเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการค้นหาและเข้าใจรูปแบบการทำงานที่เป็นธรรมชาติของแต่ละคน Lencioni ได้ค้นพบว่า มนุษย์ทุกคนมีรูปแบบความเป็นอัจฉริยะในการทำงานที่แตกต่างกัน โดยแต่ละคนจะ:

  • โดดเด่นใน 2 รูปแบบของความเป็นอัจฉริยะในการทำงาน
  • มีความสามารถในระดับใช้ได้อีก 2 รูปแบบ
  • รู้สึกยากลำบากและเหนื่อยล้ากับอีก 2 รูปแบบที่เหลือ

WIDGET: 6 รูปแบบความเป็นอัจฉริยะในการทำงาน

Wonder – ผู้มองเห็นโอกาส

ผู้ที่มีความเป็นอัจฉริยะด้านนี้มักมีสัญชาตญาณในการมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ พวกเขาสามารถเชื่อมโยงจุดต่างๆ และมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คนอื่นมองข้าม เปรียบเสมือนนักสำรวจที่มองเห็นเส้นทางใหม่บนแผนที่เปล่า

Invention – ผู้สร้างสรรค์แผนงาน

เมื่อโอกาสถูกค้นพบ ผู้ที่มีความเป็นอัจฉริยะด้าน Invention จะเป็นผู้แปลงโอกาสนั้นให้กลายเป็นแผนงานที่เป็นรูปธรรม พวกเขาเป็นสถาปนิกแห่งความคิดที่สามารถออกแบบโครงสร้างและกลยุทธ์ที่จับต้องได้

Discernment – ผู้วินิจฉัยอย่างแม่นยำ

บุคคลกลุ่มนี้มีพรสวรรค์ในการมองเห็นจุดอ่อนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พวกเขาสามารถประเมินสถานการณ์และให้คำแนะนำที่มีคุณค่าเพื่อปรับปรุงแผนงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

Galvanizing – ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

ผู้ที่มีความเป็นอัจฉริยะด้านนี้สามารถสร้างความกระตือรือร้นและแรงจูงใจให้กับทีม พวกเขามีความสามารถพิเศษในการสื่อสารวิสัยทัศน์และดึงดูดผู้อื่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ

Enablement – ผู้สนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง

บุคคลเหล่านี้มีความสามารถในการมองเห็นและแก้ไขอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จของทีม พวกเขาเป็นผู้อำนวยความสะดวกที่ช่วยให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

Tenacity – ผู้มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย

ผู้ที่มีความเป็นอัจฉริยะด้านนี้จะเติบโตจากความท้าทายและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พวกเขามีแรงขับเคลื่อนภายในที่จะทำงานให้สำเร็จลุล่วง แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบาก

การสร้างแผนที่ความเป็นอัจฉริยะสำหรับทีม (Working Genius Team Map)

ในการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้นำจำเป็นต้องเข้าใจและจัดวางบุคลากรให้สอดคล้องกับความเป็นอัจฉริยะของแต่ละคน การสร้างแผนที่ความเป็นอัจฉริยะจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของทีมได้ชัดเจนขึ้น

วิธีทำแผนที่ความเป็นอัจฉริยะสำหรับทีม:

  1. สร้างกล่องความเป็นอัจฉริยะ 6 กล่อง (Wonder, Invention, Discernment, Galvanizing, Enablement, Tenacity)
  2. ระบุรายชื่อสมาชิกทีมในคอลัมน์ “ความเป็นอัจฉริยะ” หรือ “ความคับข้องใจ” ในแต่ละกล่อง
  3. หากใครมีความสามารถในระดับใช้ได้ในด้านใด ไม่ต้องใส่ชื่อในกล่องนั้น

เมื่อทำแผนที่เสร็จ คุณจะ:

  1. สังเกตเห็นว่าใครกำลังทำงานที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นอัจฉริยะของตนและกำลังจะเผชิญภาวะหมดไฟ
  2. เห็นช่องว่างของความเป็นอัจฉริยะในทีมและสามารถจ้างคนอื่นมาเติมเต็มความสามารถของทีมได้

วิธีค้นหาประเภทความเป็นอัจฉริยะของสมาชิกในทีม

ให้สมาชิกแต่ละคนพิจารณาคำถามต่อไปนี้:

  1. คุณอยากอยู่ในช่วงใดโครงการ (Project) มากที่สุด?
  • ช่วงที่ 1: มองหาโอกาสใหม่ๆ
  • ช่วงที่ 2: การวางแผน
  • ช่วงที่ 3: ตรวจสอบแผนหาข้อผิดพลาด
  • ช่วงที่ 4: ขายแผนให้กับคนที่คุณทำงานด้วย
  • ช่วงที่ 5: สนับสนุนคนที่กำลังทำโครงการ
  • ช่วงที่ 6: การทำให้สำเร็จ
  1. คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาในช่วงใดของโครงการมากที่สุด? โดยโครงการมี 3 ช่วงหลัก:
  • ช่วงความคิด (Ideation): หากชอบช่วงนี้ มักเป็นประเภท Wonder หรือ Invention
  • ช่วงกระตุ้น (Activation): หากชอบช่วงนี้ มักเป็นประเภท Discernment หรือ Galvanizing
  • ช่วงลงมือทำ (Execution): หากชอบช่วงนี้ มักเป็นประเภท Enablement หรือ Tenacity
  1. ความอัจฉริยะของคุณถูกกระตุ้นเมื่อใด?

ประเภทที่ตอบสนอง (Responsive Genius) ต้องการข้อมูลและตัวเลือกมากพอก่อนที่ความเป็นอัจฉริยะจะถูกกระตุ้น ได้แก่:

  • Wonder: ต้องเห็นตัวเลือกมากพอก่อนจะมองเห็นโอกาส
  • Discernment: ต้องทบทวนงานมากพอก่อนจะเกิดความเข้าใจใหม่
  • Enablement: ต้องเห็นปัญหาในการดำเนินการหลายอย่างก่อนจะเกิดความคิดสร้างสรรค์

ประเภทที่มุ่งเน้น (Focused Genius) ต้องการข้อมูลน้อยแต่มีทิศทางที่ชัดเจนเพื่อกระตุ้นความเป็นอัจฉริยะ ได้แก่:

  • Invention: ได้รับเพียงโอกาสเดียวที่มีความชัดเจนก่อนถึงจะมีความคิดสร้างสรรค์
  • Galvanizing: ต้องมีโครงการเดียวที่สามารถส่งเสริมตัวของเขาได้ก่อนถึงจะคิดวิธีนำเสนอที่สร้างสรรค์
  • Tenacity: ต้องมีการโฟกัสไปที่เป้าหมายเดียวก่อนจะกระตุ้นทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

การประยุกต์ใช้ในองค์กร

การนำแนวคิดเรื่องความเป็นอัจฉริยะในการทำงานมาใช้ในองค์กรสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอใจของพนักงาน และผลลัพธ์ทางธุรกิจ

ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ:

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีม
  • ลดอัตราการลาออกของพนักงาน
  • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง
  • พัฒนานวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
  • เสริมสร้างความผูกพันของพนักงาน

สรุป

แนวคิดเรื่อง “The Six Types of Working Genius” ของ Patrick Lencioni ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ การจัดคนให้เหมาะกับงานโดยคำนึงถึงความเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงของแต่ละคนจะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนขององค์กร

หากองค์กรใดสนใจที่จะนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการประเมินความเป็นอัจฉริยะของทีมและวางแผนการพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบ การลงทุนในการค้นหาและพัฒนาความเป็นอัจฉริยะของบุคลากรจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวได้อย่างแน่นอนนั่นเองครับผม

References :
หนังสือ The 6 Types of Working Genius: A Better Way to Understand Your Gifts, Your Frustrations, and Your Team โดย Patrick M. Lencioni


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube