แม้ว่า Walmart ก่อตั้งขึ้นในปี 1962 แต่พวกเขากำลังพบกับการเปลี่ยนการค้าปลีกและประสบการณ์ของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Machine Learning , Internet of Things (IoT) และ Big Data
การที่ iPod ไม่เข้าไปอยู่ในห้างค้าปลีกเหล่านี้ มีข้อดีคือ ไม่มีการเปรียบเทียบระหว่าง iPod กับ คู่แข่ง ซึ่ง Apple ไม่ได้ต้องการมาเล่นสงครามราคาอยู่แล้ว Apple ทำให้การแข่งขันกลายเป็นเรื่องรอง ทุกคนที่สนใจเครื่องเล่นเพลงต่างเคยได้ยินชื่อ iPod พวกคนดังใช้ iPod
และแน่นอนว่า Apple ได้เริ่มเปิดร้านค้าปลีกของตัวเองคือ Apple Store ในปี 2004 โดยมีการวาง iPod คู่กับ Mac แบบให้ลูกค้าได้เข้ามาทดลองใช้งาน ไม่ได้เป็นการยัดเยียดขายของเหมือนร้านค้าปลีกทั่วไป
ซึ่งหลากหลายเหตุผลนี่เอง ที่ เหล่าผู้ค้าปลีกเริ่มกระวนกระวาย กับการกระทำของ Apple และได้ทำให้ Microsoft ได้เริ่มวางแผนที่จะล้ม iPod ของ Apple ให้ได้ ผ่านการขายหน้าร้านค้าปลีกที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศของทั้ง Wall-Mart และ Best Buy
Microsoft มองข้ามช็อต โดยเตรียมสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเล่นทั้งเพลงและ วีดีโอ ซึ่ง iPod เล่นได้เพียงแค่เพลงเท่านั้น โดยสินค้าตัวแรกคือ PMC (Portable Media Center) แต่มันกลับเป็น Software ที่อนุญาตให้บริษัทสร้างอุปกรณ์มือถือที่เก็บภาพยนต์และวีดีโอ รวมทั้งเพลงกับรูปภาพด้วย
Microsoft ปล่อยให้บริษัท 3rd Party อย่าง Creative , Samsung , iRiver มาสร้างผลิตภัณฑ์ผ่าน Software ของ Microsoft แทน ซึ่ง มันคล้ายรูปแบบที่ Microsoft ทำมากับ Windows นั่นเอง เพราะเขาถนัดด้าน Software ไม่ใช่ Hardware ซึ่งส่วนของ Hardware ก็ปล่อยให้มืออาชีพมาจัดการด้านนี้จะดีเสียกว่า
มาถึงจุดนี้ ดูเหมือนการออกมาชนกับ Apple ตรงในตลาดความบันเทิงแบบดิจิตอลในศึกแรกนี้ Microsoft จะพ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป Microsoft ยังคิดแบบแนวคิดเก่า ๆ เหมือนที่ทำกับ Windows คือให้บริษัทที่ถนัด Hardware ทำส่วนของ Hardware และ Microsoft จะพัฒนาส่วนที่ถนัดคือ PlayForSure เป็นจุดเชื่อมตรงกลางให้ แต่ครั้งนี้ดูจะล้มเหลว ไม่สำเร็จเหมือนที่ทำกับ Windows แล้ว Microsoft จะทำอย่างไรต่อกับศึกครั้งนี้ ที่ตอนนี้ iPod กำลังจะกลายเป็น Brand ที่ติดตลาดโลกไปเสียแล้ว โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม