เมื่อ Robot Trade หุ้นได้ดีกว่ามนุษย์

ใครจะคาดคิดว่าว่าตอนนี้ AI ได้กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อ Wall Street แล้ว และมันกำลังเริ่มทำเงินให้เหล่านักลงทุนต่าง ๆ ที่เริ่มหันมาใช้ robot ในการ trade

ซึ่งในช่วงกลางเดือน ตุลาคม 2017 นั้น นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกองทุนที่เรียกว่า AI Powered Equity ETF ซึ่งมีการ manage ความเสี่ยงในการลงทุนผ่านระบบ artificial intelligence เพื่อที่จะเอาชนะตลาด Wall Street

ซึ่งจนถึง ณ ปัจจุบัน นั้นมันก็ยังสามารถทำงานได้ดีมาก แม้จะเป็นเพียงในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งการลงทุนจริง ๆ นั้นต้องวัดผลในระยะยาว แต่มันก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่กองทุนนี้ต้องการได้ ซึ่งในช่วงแรกนั้น AIEQ ได้ทำกำไรไปประมาณ 0.6% ภายใน 2 วัน ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่า 1% ในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งสามารถเอาชนะตลาดได้ แต่ก็ยังเป็นแค่ผลงานเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งหากมันทำงานได้ work ในช่วงไตรมาสแรกนั้น เราอาจจะได้เห็นคู่แข่งของกองทุน AI ของบริษัทอื่น ๆ  กว่า 20 บริษัทที่จะเข้ามาแข่งขัน ภายในไม่เกิน 6 เดือน อย่างแน่นอน

ซึ่งโดยหลักแล้วนั้นกองทุนด้าน AI นั้นจะขับเคลื่อนด้วย algorithm ที่มองหาบริษัท ที่มีศักยภาพที่ดีที่สุด ซึ่งให้ผลตอบแทนมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ซึ่งถ้ามองในกองทุน ETFs โดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วนั้นจะเน้นไปที่การ follow ตลาด เช่น หาบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผลตอบแทนที่ดีใน S&P 500 หรือ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ หรือ ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ AIEQ ที่เป็นกองทุน AI นั้นจะเลือกบริษัทขนาดเล็กและอยู่ใน list ที่กำลังเจริญเติบโตมากกว่า   ผ่าน computer algorithm โดยผ่านการเรียนรู้จากข้อมูลในตลาด และได้รับการทดสอบมาอย่างดีแล้ว เพื่อบริหารความเสี่ยงได้อย่างดีที่สุด

Wall Street กำลังปั่นป่วน กับการเข้ามาของ Robot

Wall Street กำลังปั่นป่วน กับการเข้ามาของ Robot

ซึ่งเนื่องจากข้อมูลที่มีมากขึ้นในปัจจุบันนั้น ทำให้งานของ Fund Manager นั้นมีความท้าทายมากขึ้น  ซึ่งเทคโนโลยีใหม่  ๆ อย่าง artificial intelligence นั้น มีมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งการเปิดตลาดของ AIEQ นั้นก็เป็นการแนวทางการลงทุนแบบใหม่โดยใช้ AI ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับทุกคนได้ ซึ่งในขณะนี้กองทุนดังกล่าวนั้นได้มีการลงทุนในหุ้นไปกว่า 70 ตัวแล้ว และกำลังกระจายเงินไปสู่หลาย ๆ sector ซึ่งจะประมวลจากหลาย ๆ กิจกรรมเช่น สภาวะเศรษฐกิจใจปัจจุบัน แนวโน้มที่เกิดขึ้นกับโลกเรา รวมถึง Events ต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้นั้นสามารถนำมา train ให้ computer algorithm เข้าใจและสามารถ predict market trend ที่จะเกิดขึ้นได้

ซึ่งจากข้อมูลใน XTF.com นั้น บริษัทที่ถือครองหลักทรัพย์สูงสุด 5 อันดับแรกนั้นประกอบไปด้วย Penumbra , Genworth Financial , Boyd Gaming , Mednax และ Triumph Group  ซึ่งมีขนาดของส่วนแบ่งจากหลักทรัพย์ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ ส่วนแบ่ง 4.64% ของ Penumbra ไปจนถึงสว่นแบ่ง 3.45% ของ Triumph ซึ่งถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ครองตลาดอยู่ในขณะนี้

ซึ่งอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนเหล่านี้จะอยู่ที่ 0.75% ซึ่งแพงกว่า ETF แบบ passive โดยทั่วไปที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.58% แต่ก็ยังถูกกว่า actively managed ETFs ซึ่งค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.85%  ถึงแม้กองทุน AI อย่าง AIEQ นั้นจะมีขนาดเล็กเพียงแค่ 7 ล้านเหรียญ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มด้าน AI ในอนาคตที่จะสำคัญอย่างแน่นอน เพราะ AIEQ นั้นเป็นคนเริ่มกองทุนด้าน AI เป็นกองทุนแรก ซึ่งหากมันประสบความสำเร็จนั้น ก็จะมีคู่แข่งเข้ามาแข่งขันในตลาด AI นี้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

Reference : www.cnbc.com,gettyimages.com