Janken หุ่นยนต์ เป่า ยิ้ง ฉุบ ที่มนุษย์ไม่มีวันชนะ

เป่า ยิ้ง ฉุบ การใช้มือแทนสัญลักษณ์ ค้อน กรรไกร กระดาษ เป็นเกมง่าย ๆ ที่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเสียเป็นส่วนใหญ่ มันเป็นการเกิดขึ้นแบบสุ่ม ที่ดวงใครดีกว่าก็มีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะได้

แต่เมื่อเล่นกับหุ่นยนต์จากห้องปฏิบัติการของอิชิกาวะวาตานาเบะในโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ความโชคดีและกลอุบายใด ๆ ก็ไม่มีผล เพราะมันมีอัตราการชนะ 100%

หุ่นยนต์ซึ่งดูเหมือนมือมนุษย์โดยมีสามนิ้วที่ตั้งอยู่บนขาตั้ง สามารถรับรู้ได้ว่าการเล่นของฝ่ายตรงข้ามของมนุษย์นั้นจะออกสัญลักษณ์ประเภทใด และจะโต้กลับได้ภายใน 1 มิลลิวินาที ก่อนที่มนุษย์จะเคลื่อนไหวเสร็จสิ้น 

นั่นหมายความว่าก่อนที่คุณจะได้รับรู้ว่าอีกฝั่งจะออกอะไรไม่ว่าจะเป็น หิน,กระดาษหรือกรรไกร หุ่นยนต์ได้อ่านสิ่งที่คุณจะทำและเอาชนะคุณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หุ่นยนต์อาศัยเทคโนโลยี High Speed Vision ในการคาดการณ์และตอบโต้คู่ต่อสู้ในการเล่น

เล่นอย่างไรก็ไม่มีวันชนะเจ้า Janken
เล่นอย่างไรก็ไม่มีวันชนะเจ้า Janken

นี่ถือเป็นรุ่นที่สามของแชมป์หุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ ในรุ่นแรกหุ่นยนต์มีการเคลื่อนไหวได้ภายใน 20 มิลลิวินาที หลังจากที่มนุษย์ออกสัญลักษณ์เสร็จ ในรุ่นที่สองหุ่นยนต์สามารถเอาชนะ 100%  แต่การเคลื่อนไหวของแขนหุ่นนั้นใช้เวลาเดียวกันกับมนุษย์ ส่วนเวอร์ชันล่าสุดนั้นหุ่นยนต์ใช้เวลาเพียง 1 มิลลิวินาทีในการประมวลผลเพื่อเล่นเกม

หุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ รุ่นล่าสุดแสดงถึงศักยภาพสำหรับการทำงานร่วมกันในอนาคตระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ เป็นแนวคิดใหม่ที่จะเป็นการร่วมมือกันทำงานระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ แม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ของหุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ ตัวนี้ แต่ไอเดียนี้ สามารถนำไปต่อยอดในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้อีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอน

References : 
https://www.businessinsider.com/janken-robots-wins-rock-paper-scissors-every-time-2015-9

Tokyo Drift รถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่สร้างสถิติใหม่ความเร็วสูงสุด

รถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาให้บริการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงโตเกียวตี สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 360 กิโลเมตร (224 ไมล์) ต่อชั่วโมงในการทดสอบการทำงาน, จากการรายงานข่าวของ JR Central

N700s – เป็นรถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่ตัวแรกในสายการผลิตที่ดูจะคึกคักที่สุดของญี่ปุ่นในรอบเกือบทศวรรษ รถไฟมีน้ำหนักเบาและใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นปัจจุบัน เช่นเดียวกับคุณสมบัติความปลอดภัยเพิ่มเติมที่มีมากขึ้นในกรณีเกิดแผ่นดินไหว

การทดสอบดังกล่าวประสบความสำเร็จในช่วงดึกของวันศุกร์ในเส้นทางเชื่อมโยงระหว่าง ไมบะระและเกียวโต บริษัท รถไฟกลางญี่ปุ่นกล่าวหรือที่รู้จักกันดีว่า JR Central กล่าวถึงรถไฟรุ่นใหม่นี้ว่าเป็นความเร็วที่เร็วที่สุดที่ของรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นที่่เคยสามารถทำได้ แม้จะคาดว่ารถไฟจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดในปัจจุบันที่ 285 kph เมื่อเข้าใช้บริการจริง ๆ 

JR Central ที่บริการแถบตอนกลางของประเทศญ๊่ปุ่น
JR Central ที่บริการแถบตอนกลางของประเทศญ๊่ปุ่น

JR Central ใช้เงิน 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการเปิดตัวรถไฟซีรี่ส์นี้และจะทำการทดสอบต่อไปที่ความเร็วสูงสุดจนถึงกลางเดือนมิถุนายน

รถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นซึ่งเปิดตัวในปีเดียวกับโอลิมปิกโตเกียวปี 1964 มีชื่อเสียงในเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย ญี่ปุ่นกำลังสร้างรถไฟเพื่อการส่งออกโดยมี JR Central ตั้งเป้าที่จะขายรุ่น Supreme ให้กับเมือง Texas และ Taiwan

บริษัท รถไฟ JR อีกแห่งหนึ่งคือ บริษัทEast Japan Railway กำลังทำการทดสอบรถไฟรุ่นใหม่ในรุ่น Alfa-X ซึ่งจะทำความเร็วที่ 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะมีการเปิดตัวในปี 2030 บนเส้นทางเชื่อมโยงโตเกียวไปยังเกาะทางตอนเหนือของฮอกไกโด

References : 
https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-05-25/new-bullet-train-model-supreme-hits-record-speed-in-test-run?utm_campaign=socialflow-organic&utm_source=twitter&utm_content=business&cmpid=socialflow-twitter-business&utm_medium=social

ประวัติ Airbnb สตาร์ทอัพการแบ่งปันที่พักชื่อดัง

ตอนนี้ชื่อของ Airbnb นั้นกลายเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกไปแล้ว หลังจากกระแสเรื่อ่ง Sharing Economy มาแรงมาก ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเกิดขขึ้นของ Airbnb นั้นต้องบอกเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก ๆ

จากจุดกำเนิดเล็ก ๆ ใน San Francisco ในปี 2008 จากผู้ก่อตั้งอย่าง Brian Chesky และ Joe Gebbia ในอพาร์ตเม้น เล็ก ๆ ของเค้านั้น ณ ตอนนี้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ  และกำลังเป็นที่ถูกพูดถึงจากทั่วโลก จากกระแสของ Sharing Economy

ซึ่งต้องเรียกได้ว่า Airbnb นั้นเป็นต้นแบบของรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เป็น Sharing Economy ที่ ตอนหลังมีการพัฒนากับ Service ต่าง ๆ อย่าง Uber ที่มาจับตลาดเรื่องการบริการขนส่งคน ทั้ง ๆ ที่บริษัทเหล่านี้แทบไม่มี Resource จริง ๆ ของตัวเอง Airbnb นั้นไม่มีโรงแรมเป็นของตัวเอง รวมถึง Uber ที่ไม่มีรถเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แต่กลายมาเป็นธุรกิจระดับโลกได้อย่างไร

ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ในยุคแรก ๆ

ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ในยุคแรก ๆ

หลายคนอาจจะคิดว่า Airbnb นั้นเกิดมาไม่นาน แต่ความจริงนั้นต้องย้อนกลับไปในช่วงตั้งแต่ปี 2008 เกือบสิบปีที่ผ่านมา Airbnb นั้นผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการ Tranform ธุรกิจมาหลายครั้งถ้านับจากจุดเริ่มต้นที่ต้องการเป็นแค่ บริการสำหรับ คนที่ต้องการหาที่พักราคาถูก ๆ แต่ได้เปลี่ยนการบริการให้ครบวงจรมากขึ้น โดยได้มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งไม่สามารถหาได้จากการนอนโรงแรมทั่ว ๆ ไปได้

ในช่วงแรก ๆ ของ Airbnb นั้น ยังไม่สามารถทำให้เป็นกระแสได้เหมือนปัจจุบัน ผู้คนต่างไม่เข้าใจความคิดของผู้ก่อตั้งทั้งสอง การที่คนจะไปพักในบ้านคนอื่นในขณะ ท่องเที่ยวนั้น มันจะเป็นไปได้จริง ๆ หรือ?

การทำความเข้าใจกับผู้ที่จะมาใช้บริการนั้นค่อนข้างเป็นประเด็นที่ยากของการก่อตั้ง service ลักษณะนี้ ในอดีต เราคงคิดว่าเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่เราจะไปพักบ้านใครก็ไม่รู้ และ ที่สำคัญ host นั้นก็ต้องคิดเหมือนกันว่า จะให้ใครก็ไม่รูัมาพักในบ้านตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ

Joe และ Brian นั้นต้องใช้เวลานานกว่าหลายปี กว่าที่คนจะเข้าใจถึงรูปแบบบริการดังกล่าว การมอบประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่แปลกใหม่ การได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นจริง ๆ จาก host นั้น เป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เริ่มหันมาสนใจ บริการของ Airbnb ในช่วงหลัง และการเกิดของกระแส social network ต่างๆ  นั้นก็ทำให้บริการของพวกเค้าเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

ช่วงที่แย่ของ Joe และ Brian นั้น เค้าทั้งสองไม่มีเงินขนาดต้องใช้ บัตรเครดิต ส่วนตัวมาจ่ายค่าจ้างพนักงานในช่วงแรก แล้วใช้การหมุนเงินผ่านบัตรเครดิต เพื่อให้ประทัง Airbnb ให้สามารถมีลมหายใจต่อไปได้ ซึ่งเค้าทั้งสองมั่นใจว่าบริการลักษณะนี้นั้นจะต้องเกิด อย่างแน่นอน แต่แค่รอเวลาที่สมควรเท่านั้น

เคยทำ ซีเรียล มาขายจริง ๆ เพื่อพยุงสถานะบริษัท

เคยทำ ซีเรียล มาขายจริง ๆ เพื่อพยุงสถานะบริษัท

ทั้งสองเคยต้องหาเงินโดยการต้องทำ ซีเรียล ขนมอบกรอบ เพื่อหาเงินมาประทังบริการของเค้า ในช่วงแรก ๆ ของการทำ Airbnb หลายครั้งที่ทั้งสองคนเริ่มท้อกับการสร้าง Airbnb แต่เค้าก็ยังสุ้ต่อไป

จุดที่เริ่มเปลี่ยนจริงๆ  นั้นน่าจะมาจากการแนะนำของที่ปรึกษาทางธุรกิจของทั้งสองให้เข้าไปหาลูกค้า รวมถึง host โดยตรงเพื่อไปรับฟังปัญหาต่าง ๆ รวมถึงความต้องการของ host เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ทั้งสองได้ลงไปหาข้อมูลด้วยตัวเองในรัฐต่างๆ  ทั่วอเมริกา เพื่อนำความต้องการของลูกค้า รวมถึง host มาปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น

เรื่องที่สำคัญอย่างนึงคือ เรื่องการประกันของ host ที่ต้องประกันทรัพย์สินต่างๆ  เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับ host ให้นำที่อยู่ของตนเองเข้ามาบริการใน Airbnb ให้มากที่สุด

ซึ่งตอนนั้น ไม่มีบริษัทรับประกันที่ไหนสามารถรับประกันในสิ่งที่ทั้งสองต้องการได้ จนเกิดมาเป็นระบบประกันของตัวเองของ Airbnb ที่ทำให้ host มั่นใจมากขึ้น ที่จะนำอสังหาของตัวเองมาปล่อยเช่าในระบบของ Airbnb

ซึ่งหลังจากผ่านความพยายามมาหลายปี และการปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น ทำตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น Airbnb ก็ค่อย ๆ เติบโตแบบก้าวกระโดด จนเป็นที่แพร่หลายทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน และกำลังกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของโลกในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol

Blog Series : Tokyo in the Rain

สำหรับ ญี่ปุ่นนั้น ผมก็มีโอกาสได้ไปมาหลายครั้งทั้งการท่องเที่ยวผ่านทัวร์ หรือ การไปทำงาน แต่สำหรับการไปเที่ยวด้วยตัวเองนั้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก จึงอยากเล่าประสบการณ์การเดินไปท่องเที่ยวที่เน้นกิน เน้นเที่ยว ซึ่งได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากไปกับทัวร์เป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างเราต้องลุยเองตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่ จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงการจองรถเช่า เพื่อใช้ขับในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประสบการณ์หลายอย่างที่เป็นครั้งแรกของผม จึงอยากนำมาเล่าให้ได้ติดตามกันครับ

ตอนที่ 0 : 

ตอนที่ 1 :

ตอนที่ 2 :

ตอนที่ 3 :

ตอนที่ 4 :

 

Credit Image : tokyocheapo.com