Movie Review : The Farewell กอดสุดท้าย คุณยายที่รัก

ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ผมรอคอยมานาน สำหรับ The Farewell กอดสุดท้าย คุณยายที่รัก เรียกได้ว่ามาเข้าโปรแกรมในช่วงหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Starwar The Rise of Skywalker เข้าฉายพอดี ทำให้มีรอบฉายน้อยมาก ๆ

ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับเทศกาลภาพยนตร์ Sundance ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม โดย The Farewell นั้นสร้างและจัดจำหน่ายโดยค่ายภาพยนตร์ A24 (Hereditary, Moonlight)

โดยเป็นหนังที่พูดถึงความสัมพันธ์ของคนอเมริกันเชื้อสายจีน และมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวเกี่ยวกับบิลลี่ นักเขียนสาวอเมริกันเชื้อสายจีน ที่ได้ทราบข่าวจากพ่อแม่ของเธอว่า ย่าของเธอที่อยู่ที่จีนนั้นป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวจึงจัดงานเลี้ยงรวมญาติขึ้น โดยที่ทุกคนต่างปิดความลับไม่ให้ย่าได้ล่วงรู้ถึงอาการของตน บิลลี่ที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมแบบจีน เนื่องจากโตมาในสังคมของอเมริกัน กำลังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ความสัมพันธ์ ความต่างระหว่างโลกตะวันตก โลกตะวันออก และความหมายที่แท้จริงของคำว่า ครอบครัว ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Lulu Wang ถ่ายทอดประสบการณ์จริงของชีวิตผ่านงานภาพยนตร์ ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง Awkwafina จาก Crazy Rich Asians

ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างชาญฉลาดมาก ๆ และแสดงให้เห็นว่าสังคมจีนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แม้ผู้คนชาวจีนทั่วไปในปัจจุบันกำลังก้าวไปสู่โลกของทุนนิยม และมองหาโอกาสเหล่านี้ในต่างประเทศ

แต่พวกเขาก็พยายามที่จะยอมรับมรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขา(จีน)ในเวลาเดียวกัน หนังกล่าวถึงเมืองฉางชุน ที่ได้พัฒนาจากเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรไม่ถึงล้านคน มาเป็นเมืองขนาดยักษ์ที่มีประชากรเกือบแปดล้านคนในเวลาเพียง 50 ปี และหนังก็พยายามถ่ายทอดให้เห็นว่าอาคารขนาดใหญ่และอนุสาวรีย์ที่ถูกปลูกสร้างขึ้นมาใหม่นั้น มาแทนที่บ้านและสวนขนาดเล็กขาวชาวจีนในยุคก่อนได้อย่างไร

รวมถึงเรื่องราวของรายละเอียดเกี่ยวกับความหลากหลายของความสัมพันธ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความจริงในสังคมปัจจุบันซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ประเทศจีนเท่านั้น หนังถ่ายทอดให้เห็นว่าแม้จะดูเหมือนมีความขัดแย้งภายในครอบครัวใหญ่ ซึ่งแบ่งครอบครัวออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ครอบครัวที่ยังอยู่ในประเทศจีนซึ่งหลุดพ้นจากความยากจนในช่วง 25 ปีก่อนมาแล้ว ครอบครัวที่อพยพไปอยู่ในญี่ปุ่น และครอบครัวที่อพยพไปอยู่อเมริกา แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังคงรักกัน ผ่านเรื่องราวของ อาม่า เป็นจุดศูนย์กลางหลักของหนังเรื่องนี้

แม้หนังจะพยายามให้เราคิดว่าสิ่งที่ครอบครัวนี้ทำนั้นผิดหรือไม่ ในการปกปิดเรื่องโรคร้ายไม่ให้ญาติผู้ใหญ่ได้รับรู้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส แต่มันก็คือความจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีจะสูญเสียญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และหากมีโอกาสเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นคนที่เรารักมีชีวิตอยู่ แน่นอนว่ามันกระทบต่อจิตใจใครหลาย ๆ ผ่านเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ ครอบครัวในปัจจุบันนั่นเอง

ซึ่งเป็นที่มาของ การโกหกสีขาว (White Lie) ที่กลายเป็นวลีเด็ดของหนังเรื่องนี้ มันเป็นการถกเถียงเรื่อง White Lie ของสองวัฒนธรรม ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ โดยรวมแล้วถือเป็นหนังที่ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ แต่ผมว่าหนังเรื่องนี้ดันมาเข้าผิดเวลาไปหน่อยทำให้รอบฉายน้อยมาก ๆ ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่อยากให้ไปลองชมกันดูนะครับ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน