Geek Forever

ด.ดล Blog

Open Your World with Technology. เปิดโลกใบใหม่ของคุณ ด้วยเรื่องราวของเทคโนโลยี ( Business x Technology x Inspirational Stories )

HOME

  • ABOUT ME
  • BECOME A SUPPORTER
  • CONTACT
  • EDITORS ‘ PICKS
  • PODCAST

Categories

  • Advertorial
  • AI & Robot
  • Bitcoin
  • Blockchain
  • Blog Series
  • Books
  • Business
  • Cars
  • Case Study
  • COVID-19
  • Deep Learning
  • Digital Music War
  • Documentary
  • Entertainment
  • Entrepreneurship
  • Failed Startup
  • Football Product
  • Games
  • Geek China
  • Geek Daily
  • Geek Life
  • Geek Monday
  • Geek Story
  • Geek Talk
  • Healthcare
  • Home & Garden
  • Investment
  • JT 8704
  • Life of Pine
  • Lifestyle
  • Machine Learning
  • Marketing
  • Movies
  • Paypal Mafia
  • PodCast
  • Political
  • Popular Blog
  • Products
  • Programming
  • Recommendations
  • Review
  • Sci & Tech
  • Search War
  • Self Help
  • Series
  • Smartphone War
  • Sport
  • Startup
  • Story
  • The Story
  • Tokyo in the Rain
  • Trading
  • Travel
  • World War III
  • ประวัติ Bill Gates
  • ประวัติ Bitcoin
  • ประวัติ Elon Musk
  • ประวัติ Google
  • ประวัติ iPod
  • ประวัติ Jack Ma
  • ประวัติ Jeff Bezos
  • ประวัติ Jho Low
  • ประวัติ mark zuckerberg
  • ประวัติ MBS
  • ประวัติ Netflix
  • ประวัติ Netscape
  • ประวัติ Reed Hastings
  • ประวัติ Reid Hoffman
  • ประวัติ Steve Jobs
  • ประวัติ Tim Cook
  • ประวัติ Twitter
  • ประวัติ Youtube
  • แบบบ้านสวย

Archives

  • March 2021
  • February 2021
  • January 2021
  • December 2020
  • November 2020
  • October 2020
  • September 2020
  • August 2020
  • July 2020
  • June 2020
  • May 2020
  • April 2020
  • March 2020
  • February 2020
  • January 2020
  • December 2019
  • November 2019
  • October 2019
  • September 2019
  • August 2019
  • July 2019
  • June 2019
  • May 2019
  • April 2019
  • March 2019
  • February 2019
  • January 2019
  • December 2018
  • November 2018
  • October 2018
  • September 2018
  • August 2018
  • May 2018
  • January 2018
  • December 2017
  • November 2017
  • October 2017
  • September 2017
  • August 2017
  • July 2017
  • June 2017
  • May 2017
  • April 2017
  • March 2017
  • February 2017
  • September 2016
  • June 2016
  • April 2016
  • March 2016
  • February 2016
  • January 2016
  • December 2015
  • October 2015
  • September 2015
  • May 2015
  • April 2015
  • March 2015
  • February 2015
  • December 2014
  • November 2014
  • October 2014
  • September 2014
  • August 2014
  • April 2014
  • March 2014
  • February 2014
  • January 2014

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

Tag Archives: star wars the rise of skywalker rey

Movie Review : Star wars The Rise of Skywalker สตาร์ วอร์ส กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์

By tharadhol in Movies, Review December 21, 2019

“A long time ago in a galaxy far, far away” น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นประโยคเปิดเรื่องประโยคนี้บนจอภาพยนตร์กับตอนจบของทุกเรื่องราวที่ยาวนานมากว่า 42 ปี

ย้อนไปราว 20 กว่าปีก่อน ภาพยนตร์แนวขับยานอวกาศต่อสู้อะไรแบบนี้ ผมไม่ชอบเอามากๆ เริ่มจากคำว่าเกลียดเลยก็ได้ และในคืนหนึ่ง เมื่อบิ๊กซีนีม่าทางช่อง7สี ได้นำไตรภาคเก่า 4 5 6 กลับมาฉายอีกครั้ง ซึ่งสมัยนั้นผมและหลายๆท่านในที่นี้คงยังไม่เกิดและไม่ทันได้ดูบนจนเงินเป็นแน่แท้ เมื่อได้มีโอกาสรับชมผ่านจอแก้ว จิตใจด้านมืดก็ถูกเปิดออก และได้รับท่าน Lord Vader มาสถิตอยู่กับตัวเองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คงไม่พูดพร่ำทำเพลงเกริ่นเรื่องราวของภาคเก่าๆ 4 5 6 1 2 3 หรือจะ 1 2 3 4 5 6 ให้ฟังตรงนี้ แต่นี่คือมหากาพย์ภาพยนตร์ซึ่งต่อให้ท่านไม่ใช่สาวก หรือไม่ได้ติดตามกันจริงจังอะไรมาก ก็น่าจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตอนจบตอนนี้

เหมือนในหลายๆภาพยนตร์ที่เนื้อหาคือการต่อสู้กันของความดีความชั่ว จะ The Matrix The Dark knight และเช่นเดียวกันกับ Star Wars ในทุกๆตอน มันคือการขับเคี่ยวกันของฝ่ายดี ฝ่ายร้าย ผลัดกันขึ้นเป็นใหญ่ เป็นปกติวิสัยเฉกเช่นกันกับโลกแห่งความเป็นจริงที่เราอาศัยอยู่ การต่อสู้กันของ Jedi และ Sith ที่มีกันมาอย่างยาวนานไม่เคยจบสิ้น และในภาพยนตร์ตลอด 42 ปีที่ผ่านมา ที่โฟกัสหลักอยู่ที่คนในสายเลือด Skywalker เด็กน้อยวัยใสผู้มีความมุ่งมั่น ผู้มีพลังแฝง ผู้มีความรัก ผู้กลัวการสูญเสีย การผันตัวสู่ด้านมืด ความยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำของจักรววรรดิ และจบชีวิตตัวเองลงด้วยเหตุผลเดียวกันกับเมื่อตอนที่เค้าเข้าสู่ด้านมืด “การไม่ยอมเสียสูญเสียคนรัก” และนี่คือประเด็นที่ถูกหยิบยกมานำเสนอในไตรภาคสุดท้าย ตั้งแต่ “The Force Awaken” “The Last Jedi” และ “The Rise of Skywalker” นั่นคือ เบื้องลึกในจิตใจในมนุษย์เรานั้นไม่มีใครดำสุด ขาวสุด เราต่างก็มีทั้งดำและขาวในตัวกันทุกคน 

“The Force Awaken” เปิดตัวมาด้วยความสดใหม่ในการนำเสนอความคลุมเคลือของ Rey และ Ben ความลับของทั้งสองคนที่อาจมีบางอย่างเชื่อมโยงกัน “The Last Jedi” ได้ขยายความลับตรงนี้ออกไปให้ชัดเจนขึ้น และได้ปลดปล่อยเรื่องราวของ Star Wars ให้หลุดจากการยืดติดต่างๆที่ผ่านมา 

“The Rise of Skywalker” เปิดเรื่องมาแบบฉับไว เล่าเรื่องกันแบบไม่ท้าวความใดๆมาก อย่าคิดหาเหตุผลใดๆ ว่าทำไม อะไร เนื้อเรื่องดำเนินไปหลักๆเลยคือตัว Rey ที่มีการก้าวกระโดดทางด้านพลังไปเยอะมากๆ ในทุกๆฉากที่โผล่มาใช้พลัง Rey ดูเหมือนจะเหนือกว่า Jedi ทุกคนที่เราเคยเห็น เราจะได้เห็นความสับสนในตัว Rey ความใจร้อนของเธอ ยิ่งเธอรู้ว่าเธอกำลังเข้าใกล้จุดหมาย เธอก็จะมุทะลุไปเต็มที่ ในทุกๆฉากนั้นค่อยๆนำไปสู่การเฉลยปริศนาอะไรหลายๆอย่างที่เราสงสัยตั้งแต่ “The Force Awaken” นั่นคือตัว Rey เมื่อได้รับคำเฉลย หนังก็เร่งให้เราเข้าสู่ตอนจบเพื่อปิดทุกอย่างของเรื่องราวทั้งหมดลงอย่างสนิท ย้ำว่าสนิท จริงๆ

ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากในส่วนของเนื้อหา แต่ที่บอกได้คือ นี่คือภาคที่ทำมาเพื่อสนองความต้องการของสาวก Star Wars เหล่าแฟนเดนตายทั้งหลายแบบ 99 % ถ้าคุณเป็นดูหนังจริงจัง เอาสาระ เอาเหตุและผล เอาบทดีๆเข้มๆ มีการลำดับร้อยเรียงอย่างมีตรรกะ คุณไม่คุ้มแน่กับเงินที่จ่ายไป แต่ถ้าคุณคือแฟน Star Wars คุณดูทุกภาคแบบซ้ำภาคละเป็นสิบรอบ คุณจะอินกับ “The Rise of Skywalker” มากๆ นี่เป็นภาคแรกในตลอดทุกภาคที่ผ่านมาที่ผมอ่านประโยคเปิดเรื่องทัน และเข้าใจเรื่องราวบทนำทั้งหมดก่อนเริ่มเรื่องจริงๆ ผมอินกับการก้าวกระโดดของพลังของทั้ง Rey และ Ben คุณไม่ต้องเอาไปเทียบกับ Jedi ที่ผ่านมาในตลอด 42 ปีนี้ เพราะนี่คือเหล่าคนที่ใช้ Force ที่แตกต่างจากที่ผ่านมา 

Rey และ Ben ไม่ใช่คู่ต่างขั้ว แต่คือคนที่ต่างเข้าใจกันและกัน ทั้งสองคนคือตัวแทนสีเทาของ Force ผมแอบหวังให้สองคนนี้ครองจักรวาลจริงๆนะ เพราะดันเผลอมโนไปไกลว่า หลายๆภาพที่ตัวหนังพยายามนำเสนอเปรียบเทียบ Rey ใช้ lightsaber สีน้ำเงิน Ben ใช้ lightsaber สีแดง สองสีนี้ผสมกัน ได้สีม่วง และสีม่วงก็เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และมีอำนาจ ความลึกลับ หรือแม้แต่ความรุนแรงก็ได้ ถ้าได้ครองจักรวาลนี่คงแบบ ไร้ผู้เทียมทานอ่ะ 

ในส่วนกลุ่มเพื่อนของ Rey ไม่ว่าจะ Poe Finn BB8 ต่างก็แสดงกันได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Finn นั้นมีพัฒนาการของตัวละครที่น่าสนใจ ในขณะที่ Poe นั้นดันไปต่อไม่ได้ แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ในชีวิตคนเราจริงๆ ต่อให้ผ่านอะไรมามากมาย จะเท่ากัน มากน้อยต่างกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะต้องมีพัฒนาการเสมอนี่นะ บางคนนี่เจ็บเป็นสิบครั้ง แต่ยังมูฟออนไปต่อไม่ได้ก็มีเยอะแยะ เฉกเช่น Poe ที่ผมกำลังกล่าวถึงนี่ล่ะ และตัวละครหลักของทุกภาค ย้ำว่า “ทุกภาค” ที่ขาดไม่ได้ คือ C3PO และ R2D2 นั้นก็เป็นตัวละครที่สำคัญจริงๆสำหรับภาคนี้ และการรวมพลังกันสู้ของฝ่ายต่อต้านบวกกับความหวังที่เห็นการมี Jedi ร่วมด้วยนั้นยังคงเป็นพลังสำคัญในกาต่อสู้เหมือนกับหลายๆภาคที่ผ่านมา

วิบากกรรมของตระกูล “Skywalker” นั้นยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องผ่านสายเลือด Anakin สูญเสียแม่ สูญเสียเมีย เกือบสูญเสียลูก จนต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก Leia สูญเสียพ่อ สูญเสียสามี เกือบสูญเสียลูก Luke สูญเสียพ่อ (แต่ในภาพยนตร์ไม่ได้บอกว่ามีลูกเมียหรือไม่ แต่ในนิยายนั้นมี ผมไม่ขอกล่าวถึง) สูญเสียศิษย์ใน The New Jedi Order จนมาถึงสายเลือดคนสุดท้าย Ben ก็ไม่ต่างกัน แต่…

ฉากเอาใจ หรือที่ชอบเรียกกันว่า ฉากเซอร์วิส นั้นเยอะมากๆ ฉากเซอร์ไพรส์ใหญ่ก็ทำเอาผมร้องกรี๊ดกร๊าด ฉาก easter egg มุกตลก จิกกัดเรื่องอื่น หรือทำให้ผมจิ้นไปยันมังกรหยกก็มี (555) ก็มีแซมมาเรื่อยๆ  บอกเลยว่าถ้าคุณคือแฟน Star Wars นี่คือ 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่คุ้มค่า เต็มอิ่ม ดูซ้ำได้ไม่เบื่อ แต่ถ้าคุณไม่ใช่ ก็ยินดีด้วยกับการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไตรภาคที่เค้าว่ากันว่าสุดท้ายแล้วของ Star Wars 

หลายๆความเห็นในแง่ลบ ที่ไม่ชอบ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เพราะส่วนใหญ่ก็ดูกันมาครั้งเดียว แล้วก็แสดงความคิดเห็นกันออกมา ณ เวลานั้น แต่ผมไม่ได้สนใจ เพราผมรัก Star Wars ยิ่งกว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องในโลกนี้ ความไม่สมเหตุสมผล การยัดเยียดตัวละครนั้น การยัดเยียดบทตรงนี้ การหาเรื่องขายของ บลาๆๆ จุดตำหนิมีอยู่ในภาพยนตร์ทุกเรื่อง มันอยู่ที่คุณจะหา หรือมองข้าม ความสุขในการรับชมภาพยนตร์เป็นเรื่องส่วนบุคคลมากๆ และนี่ก็คงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เราจะมานั่งถกกันประเด็นปรัชญา หรือถกกันเครียดๆ อย่าง The Dark Knght Th Matrix Inception อะไรพวกนั้นกันแล้วนะครับ

เพิ่มเติมอีกนิด ตัวอย่างหนังที่ดูๆกันมา การมโนจากหลายๆสื่อ ลืมๆไปบ้างก็ดีนะครับ อยากให้คุณมาดูกันแบบเข้าใจว่า นี่คือหนังที่ทำมาถึงภาคที่ 9 แล้ว มันจะหาความใหม่กันทุกภาค คงยาก คนสมัยนี้ก็เดาเรื่องกันเก่ง ฉะนั้น ดูให้มีความสุขกันนะครับทุกท่าน

สุดท้ายนี้ “Skywalker” ได้ปิดตัวลงอย่างสงบ ในฉากจบ ที่เลือกจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด (กรี๊ดมากกกก) และได้ถูกส่งต่ออย่างไร้ข้อกังขาใดๆ การจะมีภาคใหม่นั้นสามารถทำได้แบบไม่ต้องหันมามองอดีตเลย และไม่ว่าคนๆนึงจะมีสิ่งดีหรือสิ่งร้ายในตัวอยู่มากเพียงใด คนๆนั้นก็สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโลก และสังคมนี้ได้อยู่เสมอ ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะมีสายเลือดของสิ่งดีๆ หรือร้ายนั้นอยู่ในตัวของเราหรือไม่ จิตใจของเราต่างหากที่เลือกว่าจะเดินเส้นทางใดให้ตัวเอง 

“May The Skywalker Be with You, Always”

Gaszoline Skywalker (บทความจาก Guest พิเศษ)

Search

  • POSTS
  • TAGS

POSTS

  • Geek Story EP86 : GrubHub กับการเปลี่ยนค่ำคืนที่แสนหิวโหยสู่ธุรกิจส่งอาหารหมื่นล้าน
  • Diana Trujillo จาก แม่บ้านทำความสะอาด สู่ผู้อำนวยการ NASA กับภารกิจค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
  • Geek Daily EP66 : สี จิ้นผิง กับการระดมสรรพกำลังในการปฏิวัติเทคโนโลยีเพื่อลดการพึ่งพาตะวันตก
  • Becky Li กับอิทธิพลของ KOL ที่ขายรถ Mini ออนไลน์ได้ 100 คันในเวลา 4 นาที
  • Henrys คนรุ่นมิลเลนเนียลที่ทำรายได้ 6 ​​หลัก แต่ก็ยังบอกว่าพวกเขารู้สึกยากจน

TAGS

AI alibaba amazon android apple big data bill gates CoronaVirus Covid19 ebay elon musk facebook google huawei iphone ipod jack ma machine learning mark zuckerberg microsoft netscape paypal paypal mafia peter thiel Robot samsung SpaceX startup steve jobs Tesla ประวัติ alibaba ประวัติ alipay ประวัติ Elon Musk ประวัติ facebook ประวัติ google ประวัติ Jack Ma ประวัติ Larry Page ประวัติ mark zuckerberg ประวัติ paypal ประวัติ อีลอน มัสก์ ประวัติ แจ๊ค หม่า สตีฟ จ๊อบส์ หุ่นยนต์ แจ๊ค หม่า โคโรน่าไวรัส
March 2021
M T W T F S S
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031  
« Feb    
Proudly powered by WordPress. Theme: DW Minion by DesignWall.

อย่าลืมช่วยกด Like เพจกันด้วยนะคร้าบ!


This will close in 320 seconds