TikTok กับการสูญเสียอธิปไตยทาง Data ครั้งแรกของอเมริกา

กลายเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียวสำหรับข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตรียมออกคำสั่งแบนการดำเนินการของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา หลังจากบริการดังกล่าวกำลังฮิตติดลมบนอยู่ในสหรัฐอเมริกาในขณะนี้

โดยทางรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาอย่าง Mike Pompeo ก็ได้ออกมาสนับสนุนการแบนในครั้งนี้เช่นกัน โดย Mike ได้เปิดเผยว่าตอนนี้ทางรัฐนั้นกำลังมีการพิจารณาการแบนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียจากประเทศจีน โดยอ้างว่าแอปเหล่านี้นั้นมีการแบ่งปันข้อมูลให้กับทางรัฐบาลจีน

ซึ่งถือเป็นการบุกเข้าไปในอเมริกาได้เป็นครั้งแรกสำหรับ app แนว social media ของจีนอย่าง TikTok ที่เราจะเห็นได้ว่าบริการของจีนส่วนใหญ่นั้นจะดังอยู่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น น้อยนักที่จะบุกออกมายังต่างประเทศ โดยเฉพาะการบุกเข้าไปในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกาถือเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง

แน่นอนว่าปัญหาของ TikTok มันมาจากเรื่องของประเด็นข้อมูลส่วนตัว รวมถึงข้อมูลทางธุรกิจต่าง ๆ ที่ทางอเมริกาเกรงว่าจะมีการส่งกลับไปยังรัฐบาลจีน ซึ่งข้อมูลหลายตัวนั้นเป็นสิ่งที่ Sensitive มาก ๆ แต่ข้อมูลพวกนี้กลายเป็นขุมทองคำของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งจาก ซิลิกอน วัลเลย์ หรือแม้กระทั่ง TikTok จากจีนเองก็ตาม

บริการเหล่านี้ กำลังดูดข้อมูลของเราไป ผ่านบริการต่าง ๆ ที่อาจจะใช้ฟรีบ้างหรือไม่ฟรีบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า ทุกอย่างมันมีต้นทุน บริการเหล่านี้ไม่เคยให้เราใช้ฟรี ๆ เราต้องจ่ายไม่ว่าจะผ่านเงินค่าโฆษณาหรือ แลกเปลี่ยนกับข้อมูลส่วนตัวของเราที่ต้องเสียไปให้บริการยักษ์ใหญ่เหล่านี้

ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านพฤติกรรมผ่าน Social Network ต่าง ๆ อย่าง facebook , instagram หรือ TikTok จากจีนเองก็ตาม รวมถึงข้อมูลด้านธุรกิจอย่างการส่งข้อมูลผ่าน email ที่ให้บริการฟรีอย่าง google gmail , yahoo , microsoft hotmail,outlook

ซึ่งเช่นเดียวกับสิ่งที่รัฐบาลอเมริกาทำ ทางรัฐบาลจีนก็มี The Great Firewall ที่ทำให้บริการออนไลน์จากอเมริกาเหล่านี้นั้นไม่สามารถเจาะตลาดจีนได้เลย หากเป็นบริการที่จะเป็นการล้วงข้อมูลทางดิจิตอลของประชาชนชาวจีน โดยที่ประเทศจีนจะเกิดบริการแบบเดียวกันขึ้นมาเพื่อใช้กันในจีนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น weibo , youkou , alibaba หรืออื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตของประเทศจีน

Great Firewall ที่เซ็นเซอร์เนื้อหาทุกอย่าง
Great Firewall ที่เซ็นเซอร์เนื้อหาทุกอย่าง (Credit : https://globalvoices.org)

ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะสินค้า และ บริการอื่นๆ  ที่ไม่ใช่บริการที่ใช้ข้อมูลดิจิตอลของคนจีน นั้น จีนได้เปิดเสรีเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น Brand สินค้าอุปโภคบริโภค หรือ เชน ร้านอาหาร fastfood ชื่อดังของสหรัฐไม่ว่าจะเป็น KFC , McDonald , Starbuck ฯลฯ 

เราจะเห็นได้ชัดว่าบริการเหล่านี้นั้น ไม่ได้ถูกปิดกั้นแต่อย่างใด เหมือนกับบริการที่เป็น ข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้งานชาวจีนที่เป็นดิจิตอล

ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ อุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน เพราะจีนเป็นคอมมิวนิสต์ ส่วนอเมริกา นั้นเป็นประชาธิปไตย การปล่อยให้บริการต่าง ๆ ที่เป็นบริการออนไลน์เข้าไปสู่จีนได้นั้น น่าจะเป็นเรื่องไม่ปลอดภัยเท่าไหร่กับแนวคิดของเหล่านักการเมืองชาวจีน ส่วนฝั่งอเมริกา ก็เกรงกลัวข้อมูลที่จะหลุดรั่วไปยังรัฐบาลจีนเช่นเดียวกันผ่านบริการอย่าง TikTok

ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ TikTok นั้นต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ๆ ที่ จีนสามารถสร้างบริการที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเกิดขึ้นของการระบาดของไวรัส COVID-19 นั้นทำให้ TikTok แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงในอเมริกาเองที่ต้องบอกว่า เป็นครั้งแรก ๆ ที่อเมริกาต้องสูญเสียอธิปไตยทางด้าน Data ให้กับแอปจากประเทศจีนผ่านบริการอย่าง TikTok นั่นเองครับ

References : https://www.cnet.com/news/trump-plans-to-ban-tiktok-in-the-us-report-says/

Digital ‘dress’ เมื่อ Blockchain บุกวงการแฟชั่น

สำหรับคนที่เคยซื้อเสื้อผ้าเป็นหลักเพื่อสร้างความประทับใจให้เพื่อนออนไลน์ของคุณโดยการถ่ายรูปอวดผ่าน Social ? ตอนนี้คุณอาจได้รับโอกาสพิเศษในการซื้อเสื้อผ้าเพียงชิ้นเดียวที่มีอยู่ในโลกออนไลน์

Startup ชาวดัตช์ The Fabricant, Dapper Labs และ Johanna Jaskowska ได้ออกวางจำหน่ายชุด Iridescence ในราคา 9,500 เหรียญสหรัฐใน Blockchain  โดยมันจะไม่เหมือนกับการซื้อเครื่องแต่งกายในวิดีโอเกม

แต่ผู้สร้างจะ ‘ปรับแต่ง’ ส่วนต่าง ๆ ให้คุณโดยอิงจากรูปถ่ายของคุณ ซึ่งในฐานะที่เป็นมันเป็นสินทรัพย์รูปแบบเดียวกับ Blockchain  และสร้างเอกลักษณ์แบบใหม่ให้มูลค่าแบบเดียวกับตระกูลเงินดิจิตอล cryptocurrency 

โดยมีการขึ้น Model ในรูปแบบ 2D แบบที่ใช้สำหรับเสื้อผ้าธรรมดาดัง นั้นคุณสามารถเห็นมันเปรียบเสมือนเสื้อผ้าในชีวิตจริง

แม้มันจะฟังดูน่าหัวเราะ แต่อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าดูเหมือนเป็นจริงหรือภาพลวงตา ก็แยกออกจากกันได้ เมื่อมีคนสงสัยว่าพวกเขาสามารถเห็นได้ด้วยตนเองหรือไม่ และเมื่อในราคาที่จ่ายได้เท่ากับเครื่องแต่งกายแบรนด์หรูหรา

มันอาจะทำให้คุณอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เงินจำนวนมากไปกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้เหมือน Digital ‘dress’ ชุดนี้

อย่างไรก็ตามก็มีเหตุผลที่รองรับคุณค่าของมันอยู่ เพราะอย่างแรกคือมันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แล้วทำไมต้องใช้เนื้อผ้ากับเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นล่ะ? และสำหรับบางคนที่ติดโลกออนไลน์มาก ๆ นี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้ภาพลักษณ์ของพวกเขาดูดีขึ้นโดยไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าจริง 

ซึ่ง Digital ‘dress’ นั้นมีโมเดลเสมือนจริงที่มีผู้ติดตามหลายคนใน Social Network ชื่อดัง และคงจะทำให้เสื้อผ้าดีไซเนอร์เสมือนเหล่านี้ สามารถจับคู่เขัากับสไตล์ของคุณได้ แม้ว่ามันจะไม่เป็นที่แพร่หลายเหมือนของจริงก็ตาม

References : 
https://www.engadget.com/2019/05/27/fabricant-blockchain-digital-dress/?guccounter=1