มาดูงานประติมากรรมที่ถูกสรรค์สร้างโดย AI กันเถอะ

งานศิลปะกับเทคโนโลยี AI กำลังอยู่ในระยะของการถกเถียงทางความคิดด้านศิลปะและมีการถกเถียงกันในเรื่องเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ แต่แน่นอนว่านี่คือสิ่งใหม่ : ประติมากรรมที่สร้างโดย AI ที่ทำจากซากคอมพิวเตอร์ในการออกแบบมันขึ้นมา

ผลงานชิ้นใหม่นี้ คือผลงานของ Ben Snell ศิลปินชาวนิวยอร์กและปัจจุบันมีวางจำหน่ายที่ Phillips ซึ่งเป็นสถานที่ประมูลชื่อดังของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมันเป็นการประมูลครั้งที่สามของศิลปะที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นจาก AI ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา 

โดยงานของของ Snell ที่มีชื่อว่า Dio ได้สร้างขึ้นมาตามวิธีการพื้นฐานของงานก่อนหน้านี้ อัลกอริธึม Machine Learning ใช้ในการสแกนและแยกแยะฐานข้อมูลงานศิลปะจากงานในอดีต จากนั้นพยายามทำซ้ำข้อมูลงานใหม่ออกมาด้วยอัลกอริธึมทางคอมพิวเตอร์

ในกรณีของ Dio ข้อมูลในการ Training มาจากประติมากรรมโบราณมากกว่า 1,000 ชิ้น (รวมถึงชิ้นงานที่เป็นที่ยอมรับเช่น Discobolus และ Michelangelo’s David ) 

ซึ่งในขณะที่มนุษย์และเครื่องจักรมีความคล้ายคลึงกันบางอย่างของวิธีในการมองโลก  ศิลปินบางคนที่ทำงานในสาขานี้ กล่าวว่าพวก AI นั้นเป็นเพียงแค่การสร้างสรรค์ทางคอมพิวเตอร์และอัลกอริธึมเท่านั้น แต่ก็มีศิลปินคนอื่น ๆ ประท้วงและบอกว่าระบบเหล่านี้ก็เป็นเครื่องมือทางศิลปะเช่นเดียวกับที่มนุษย์สร้างขึ้นเหมือนกัน

แต่มันเป็นผลลัพธ์ของการสร้างสรรค์จาก Snell และ เทคโนโลยี Machine Learning ของเขา เขากล่าวว่า Dio จะเป็นงาน “ชิ้นแรกและชิ้นสุดท้าย” จากอัลกอริทึมของเขา

หลังจาก Snell สร้างแบบจำลอง 3 มิติเสร็จแล้ว เขาก็ได้ทำการถอดชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่เขาทำไว้และบดให้เป็นฝุ่นโดยใช้กล่องปิดผนึกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงกล่องหุ้มของคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดไดรฟ์ RAM และหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก จากนั้นเขาก็พิมพ์แบบสามมิติของ Dio และหล่อประติมากรรมลงในแม่พิมพ์นี้โดยใช้เรซิ่นและซากของคอมพิวเตอร์เหล่านั้นนั่นเอง

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ออกแบบถูกบดขยี้ เพื่อให้มันทำซ้ำไม่ได้อีก
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ออกแบบถูกบดขยี้ เพื่อให้มันทำซ้ำไม่ได้อีก

ซึ่งการทำเช่นนี้เขาบอกว่าเป็นความพยายามที่จะ จำกัด การควบคุมจากอัลกอริทึมที่มีต่อเขา ด้วยรูปแบบข้อมูลและการฝึกอบรมที่ใช้ในการสร้างรูปแบบของ Dio ในตอนนี้ได้กลายเป็นฝุ่นละอองที่ถูกผสมอยู่ในประติมากรรมชิ้นนี้ ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีเอกลักษณ์และไม่สามารถทำซ้ำได้นั่นเอง 

References : 
https://www.theverge.com