Lasso เมื่อกลยุทธ์แรกในการกำจัด TikTok ของ Facebook ประสบความล้มเหลว

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook มีการเปิดเผยว่ากำลังปิดแอปทดลองสองแอป หนึ่งในนั้นคือการโคลนนิ่ง TikTok ที่มีชื่อว่า Lasso ส่วน แอปอย่าง Hobbi ที่ออกมามาชนกับ Pinterest ก็ประสบกับความล้มเหลวเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะทั้งสองแอปพลิเคชันของ Facebook ที่จะปิดตัวลง , Lasso ที่ทำการโคลน TikTok และ Hobbi ที่ถูกสร้างมาเลียนแบบ Pinterest ทั้งคู่ได้รับการพัฒนาโดยทีมทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Facebook และได้ถูกเปิดตัวภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

โดยแอปทั้งสองต่างก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นการเลียนแบบแอปอื่น ๆ แม้กระทั่ง Review เชิงบวกสำหรับ Lasso ก็ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ TikTok

แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถตัดสิน Facebook ว่าผิด กับความพยายามที่สูญเปล่าในการเลียนแบบลูกเล่นของแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพราะกลยุทธ์นี้มันทำสำเร็จมาแล้ว ในกรณีของ Instagram และ Snapchat ไม่น่าแปลกใจที่ Facebook พยายามทำแบบเดียวกันอีกครั้ง 

TikTok ที่กำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่จาก Facebook
TikTok ที่กำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่จาก Facebook

แต่ Facebook ดูเหมือนจะมีการปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยทุ่มเททรัพยากรไปใช้ใน Instagram แทน ตาม TikTok คู่แข่งสำคัญ โดยกลยุทธ์ใหม่ของ Facebook จะไม่ใช่แอปแยกต่างหากอีกต่อไป แต่จะสร้างคุณสมบัติใหม่ภายใน Instagram ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ถ่ายทำวิดีโอรูปแบบสั้น ๆ ที่กำหนดให้เป็นเพลงได้ 

ซึ่ง Facebook ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่มองว่า TikTok กำลังเป็นภัยคุกคาม YouTube กำลังเปิดตัวคุณลักษณะที่คล้ายกันในความพยายามอย่างโจ่งแจ้งเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานของ TikTok

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีหลายคนรวมถึง Sheryl Sandberg COO ของ Facebook แสดงความไม่ชอบ TikTok และ บริษัทแม่อย่าง Bytedance เป็นอย่างมาก

ในขณะที่พวกเขาหลายคนพยายามที่จะสร้างภาพความน่ากลัวในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ สำหรับแอป ที่มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศจีน

Sandberg  ให้สัมภาษณ์ในสิ่งที่น่าจะเป็นแหล่งที่มาของความเป็นศัตรูที่แท้จริงกับ TikTok ว่า การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของ TikTok ทำให้คนรุ่นใหม่ถูกดึงดูดไปใช้งานแพล็ตฟอร์มใหม่นี้ Sandberg ยอมรับว่าลูก ๆ ของเธอยังเป็นผู้ใช้ TikTok คนสำคัญอีกด้วย

Sandberg COO ของ Facebook ที่ไม่ชอบใจ TikTok
Sandberg COO ของ Facebook ที่ไม่ชอบใจ TikTok

ในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกเริ่มที่จะออกมาปราบปรามแอป TikTok โดยแอปถูกแบนในอินเดียในขณะที่ TikTok นั้นถูกกล่าวหาว่าอยู่ภายใต้การตรวจสอบความปลอดภัยจากองค์กรของรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา 

แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะประทับใจกับแอป TikTok ที่คุ้นเคยแทนที่จะต้องใช้แอปแยกต่างหาก และสถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนว่า TikTok  ได้กลายเป็นแอป Social หลักสำหรับคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่สนใจ คุณลักษณะใหม่ของ Instagram อีกต่อไปแล้วนั่นเอง

โดย ทั้ง Lasso และ Hobbi เป็นความล้มเหลวอีกครั้งหนึ่งของ Facebook ซึ่งจะทำการปิดตัวลงในวันที่ 10 กรกฎาคม และดูเหมือนว่า ศึกชิง Social War ครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นแล้ว เราก็ต้องคอยมาดูกันว่า เมื่อ TikTok เริ่มไปกระตุกหนวดเสือ พี่ใหญ่อย่าง Facebook และ Google พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง จะจบไม่สวยแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับ Snapchat หรือไม่ โปรดติดตามกันต่อไปครับ

References : https://techcrunch.com/2020/07/01/lasso-facebook-tiktok-shut-down/
https://www.theverge.com/2020/7/2/21311077/facebook-lasso-shutting-down-tiktok-short-form-video-hobbi
https://www.digitalinformationworld.com/2020/05/facebook-tests-lasso-camera-within-the-main-app.html

ประวัติ Elon Musk ตอนพิเศษ : Difficult and Painful

ต้องบอกว่าเป็นปีชงเลยทีเดียวสำหรับ Elon Musk ในปี 2018 ที่ชีวิต ได้เจอกับมรสุมมากมาย ทั้งปัญหาใน Tesla เอง หรือ ปัญหาส่วนตัวที่เค้าค่อนข้างเจอมรสุมมากมาย

ต้องบอกว่า Musk นั้นถือเป็น Tech entrepreneur ที่เป็น idol ของเหล่า Tech Startup ทั้งหลายที่อยากเจริญรอยตามเค้าทั้งนั้น เนื่องจากเค้ามี idea มากมายที่จะเปลี่ยนโลกของเรา ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่เค้าได้ไป take over Tesla มาเนื่องจากเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยลดปัญหามลพิษให้กับโลกเรา

หรือ การสร้าง เทคโนโลยีอย่าง Hyperloop ที่ให้คนสามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ไม่แพ้การเดินทางด้วยเครื่องบิน ผ่านอุโมงค์ใต้ดิน และใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนน้ำมันที่ใช้ในเครื่องบิน

รวมถึงโครงการอื่นๆ. อีกมากมาย ที่ Elon Musk น้นได้เข้าไปมีส่วนร่วม ล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกแทบทั้งสิ้น

แล้วถ้าถามว่าทำไมนักลงทุนทั้งหลายถึงได้เชื่อใจ Elon Musk ก็ต้องตอบว่า เค้าเป็นหนึ่งในนักลงทุนกลุ่มแรกของ Silicon Valley  ที่ผ่านวิกฤติ ดอทคอม ในช่วงปี 2000 มาได้และเป็นหนึ่งในกลุ่ม Paypal Mafia ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อโลกเทคโนโลยีของเราในช่วงหลัง ๆ ผลงานเลื่องชื่อ น่าจะเป็นการปลุกปั้น Paypal บริการด้านการเงิน online ที่ต้องบอกว่าเป็น Fintech แรก ๆ ของโลกเราเลยก็ว่าได้ ซึ่งต่อมาได้ขายกิจการให้กับ Ebay

Paypal Mafia กลุ่มผู้มีอิทธิพลใน Silicon Valley

Paypal Mafia กลุ่มผู้มีอิทธิพลใน Silicon Valley

แต่นิสัยอย่างนึงของเหล่า Paypal Mafia กลุ่มนี้ คือ การเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ๆ ซึ่งจะหาคนที่ทำงานด้วยลำบาก และยึดถือความคิดตัวเองเป็นหลักเสมอ ไม่ค่อยเชื่อถือเพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด ดังเห็นในข่าวหลาย ๆ ครั้ง ว่าเหล่าผู้ร่วมงานของ Musk ได้ทยอยลาออกไป เนื่องจากไม่สามารถทำงานร่วมกับ Elon Musk ได้

Tesla พบปัญหาผลิตไม่ได้ตามความต้องการ

Tesla พบปัญหาผลิตไม่ได้ตามความต้องการ

ซึ่งทำให้ปัญหาใหญ่อย่างที่ Tesla ที่ไม่สามารถผลิตรถได้ตามความต้องการได้นั้น Elon Musk ต้องลงมาดูด้วยตัวเอง ซึ่งผิดวิสัย CEO  ส่วนใหญ่ที่มักจะไม่ลงไป Operation เอง แต่ Musk นั้นได้ลงไปคลุกคลีในโรงงานด้วยตัวเอง และจัดการ Operation ทั้งหมดเอง เพื่อให้แก้ปัญหาไปได้ แต่ แม้จะทำให้ปัญหาคลี่คลายไปบ้าง แต่การที่ CEO ต้องลงมาทำเองแบบนี้ ทำให้งานของ CEO จริง ๆ ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน ทำให้ปัญหาวนลูปกลับมาที่ Tesla จนเริ่มมีปัญหากับนักลงทุนในที่สุด

และด้วยความกดดันหลาย ๆ ด้าน ทำให้บางครั้ง Elon Musk เองก็ทำอะไรแบบไม่คิดให้รอบด้านซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ในโลก Social อย่าง Twitter  นั้น Musk มักจะ Tweet อะไรพลาด ๆ อยู่เสมอ เช่น เรื่องการจะนำเอา Tesla ออกจากตลาดหุ้น หรือ การออกมาตอบโต้ ทีมนักดำน้ำที่มาช่วยภารกิจถ้ำหลวงที่ประเทศไทย ก็ล้วน แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดออกไปทั้งสิ้น ซึ่งคนระดับ Musk ไม่ควรที่จะลงมาเล่นกับเรื่องอะไรแบบนี้ เป็นการเปลืองตัวเสียเปล่าๆ  ด้วยซ้ำ แต่คิดว่าเนื่องจาก นิสัยส่วนตัวดังที่กล่าว ทำให้เรื่องใน Social มักจะเป็นปัญหากับ Elon Musk เสมอ

Elon Musk สูบกัญชาในระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการก็เป็นอีกสิ่งนึง ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

Elon Musk สูบกัญชาในระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการก็เป็นอีกสิ่งนึง ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

และล่าสุดที่ได้ไปออกรายการทีวีในรัฐแคลิฟอเนีย  แม้จะเป็นรัฐที่การสูบกัญชานั้นถูกกฏหมาย แต่ภาพที่ Elon Musk สูบกัญชาในระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการก็เป็นอีกสิ่งนึง ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งในขณะนี้ปัญหาต่างๆ  มีมากมายอยู่แล้ว แต่ Musk นั้นก็ทำให้สิ่งต่าง ๆ ดูแย่ลงไปอีก ภาพลักษณ์ของเค้าเสียหายยิ่งขึ้นไปหลังจากที่ภาพการสูบกัญชาถูกปล่อยว่อนในโลก Social

Elon Musk จะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร

ต้องบอกว่าคนระดับอัจฉริยะ อย่าง Elon Musk นั้นผ่านประสบการณ์ มามากมาย ถึงจะได้รับการยอมรับถึงจุดนี้ได้  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2018 นั้น ต้องถือได้ว่าเป็นปีที่แย่ที่สุดปีนึงของ Elon Musk เลยก็ว่าได้

โดยที่ธุรกิจใหม่ๆ  นั้นเป็นธุรกิจแห่งอนาคตทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Tesla , SpaceX หรือ SolarCity เองก็ตาม มันยังสามารถที่จะตอบโจทย์ในด้านธุรกิจได้รวดเร็วเหมือนธุรกิจอินเตอร์เน็ตอื่น ๆ   และการที่เค้ามี Idea ที่เยอะเกินไปบางครั้ง ก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดีนัก เพราะดูเหมือนจะเป็นการทำแบบไม่ Focus สิ่งใด สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเท่าที่ควร ต้องมานั่งไล่แก้ปัญหา SpaceX ที ปัญหา Tesla ที ทำให้วิสัยทัศน์ใหญ่ของเขานั้นอาจจะขับเคลื่อนได้ช้าลงไป

ที่สำคัญการที่ Elon Musk เป็นคนที่ทำงานหนักมากและชอบทำงานคนเดียว และ ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นนั้นสักเท่าไหร่นั้น ยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่มมากขึ้นไปอีก การบริหารหลายๆ  ธุรกิจ โดยแต่ละธุรกิจเป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก ๆ และมีเรื่องให้แก้ปัญหาเยอะไปหมด ในคราวเดียวกัน แบบที่ Elon Musk ทำในตอนนี้นั้น ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ดีในระยะยาวอย่างแน่นอน

ทางที่ดี Musk ควรที่จะเริ่มเชื่อใจผู้ร่วมงานบ้าง และหาคนที่เป็นมืออาชีพ จริง ๆ มาช่วยบริหาร หลาย ๆ ธุรกิจของตัวเองบ้าง แบบที่หลาย ๆ คนทำ เช่น Mark Zuckerberg ก็ปล่อยให้ sheryl sandberg เข้ามาช่วยเหลือในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด  แล้วทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด จะเห็นได้ถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Facebook ในช่วงที่ผ่านมา

ซึ่งถ้า Mark ยังทำอยู่คนเดียวเหมือนช่วงแรก ๆ Facebook คงไม่สามารถเติบโตได้รวดเร็วดังที่เห็นในวันนี้อย่างแน่นอน ซึ่ง Elon Musk ก็น่าจะมีปัญหาคล้าย ๆ กัน คือต้องยอมลดฐิถิ  ตัวเองลงบ้าง แล้วปล่อยให้มืออาชีพของแต่ละส่วนมาช่วยทำงานด้าน Operation มากขึ้น เพื่อให้งานรุดหน้าไปได้รวดเร็วและมั่นคงมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทุกคนก็ต่างยอมรับในความทุ่มเท และเสียสละ และการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้อย่างที่เขาเคยทำมาสำเร็จมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งมัสก์ ก็คงสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้เหมือนเคย เพราะชายผู้นี้เป็นนักสู้กับปัญหาตัวยง ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ขนาดไหนเขาก็สามารถที่จะผ่านมันไปได้ทุกครั้งเหมือนเคย

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Sand Hill Road *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

รวม Blog Series ที่มีผู้อ่านมากที่สุดรวม Blog Series ที่มีผู้อ่านมากที่สุด

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol