ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีของจีนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนผลักดันให้พัฒนาเทคโนโลยี AI รุ่นต่อไป Tencent ก็กำลังประสบความสำเร็จในการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่
และในบรรดา บริษัท เทคโนโลยีจีนที่รู้จักกันในชื่อ BAT (Baidu, Alibaba และ Tencent), Tencent มีส่วนร่วมในข้อตกลงและความร่วมมือด้าน AI มากที่สุด และการลงทุนด้าน AI ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งในความร่วมมือกับบริษัทในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงกลุ่มยานยนต์ปักกิ่ง (BAIC) Tencent ลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ในยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง
ในด้านอุตสาหกรรม Healthcare ก็เช่นกัน ที่ AI เป็นหลักสำคัญที่ Tencent ต้องวิจัยและพัฒนา ซึ่งจีนต้องการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการแพทย์โดยใช้เทคโนโลยี AI
ความพยายามด้านการวิจัยและพัฒนาภายในของ Tencent ทำให้เกิดการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ในการดูแลสุขภาพอย่าง Miying ที่เปิดตัวในปี 2017 แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งประเภทต่างๆและวิเคราะห์รวมถึงจัดการบันทึกการดูแลสุขภาของผู้ป่วยได้
Tencent ถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญในความทะเยอทะยานของจีนที่จะเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในระดับโลก เนื่องจากในอนาคต AI จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมในทุกประเภท และ Tencent กำลังก้าวนำเพื่อสร้างบริษัทให้แข็งแกร่งในอนาคตด้วยกลยุทธ์ Make AI Everywhere นั่นเองครับ
Martin Lau นั้นขณะนี้รับตำแหน่ง President ของ Tencent Group บริษัทเทคโนโลยีระดับแถวหน้าของประเทศจีน จากวีดีโอข้างต้นนั้น ทาง Martin Lau นั้นได้ไปพูดในงานเสวนาที่ Stanford University ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสิ่งที่เป็นข้อดีสำหรับนักศึกษาในมหาลัยชั้นนำของอเมริกา คือ จะได้รับแรงบรรดาลใจจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมายทั่วโลก มาบรรยายให้ฟังกันบ่อย ๆ
Marting Lau นั้นได้กล่าวเปรียบเทียบ Business Model ของทางฝั่ง US และ China ที่มีความแตกต่างกัน โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดจะเป็น Ecommerce ซึ่งน่าจะเหมือนกับใน US แต่ส่วนที่ต่างที่ทำให้ Tencent กลายเป็นบริษัทแนวหน้าในจีนนั้นคือ ส่วนของ Online Game ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงกว่าตลาดของ Display Ads และ Search Ads รวมกัน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแตกต่างที่สำคัญของตลาด US และ China ซึ่งทาง Tencent นั้นสร้าง Platform ขึ้นมาอยู่ใน QQ.com ซึ่งจะประกอบไปด้วย service ต่าง ๆ มากมายทั้ง Game online , Instant Messenging , Ecomerce ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดใน จีน ซึ่งมีขนาดตลาดที่ใหญ่ อเมริกา อยู่มากทำให้สามารถทำรายได้อย่างมหาศาลจาก User
ซึ่ง User ที่เป็น Monthly Active User ของ Tencent นั้นตัวหลักคือ QQ ที่มีสูงถึง 818 ล้าน user ส่วน Wechatที่เป็น product ใหม่ก็มีสูงถึง 236 ล้าน User ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของบริษัทเทคโนโลยี ในตลาดที่มีขนาดใหญ่ จะมีความได้เปรียบกว่า การเริ่มสร้างในตลาดที่มีขนาดเล็ก เพราะต้นทุนทางด้าน Technology นั้นจะสูงแค่ในช่วงแรก ๆ สำหรับการจ้างคน หรือ สร้าง server เท่านั้น และสามารถหากินกับ จำนวน User ที่เพิ่มขึ้นได้เรื่อย ๆ โดยลงทุนการลงทุนเพิ่มนั้นไม่ได้มากมายเหมือนช่วงแรกที่เริ่มการสร้าง Product