ประวัติ Bill Gates ตอนที่ 1 : A Revolution Begins

เรื่องราวมันก็เหมือนกับเด็กอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่เกมส์นั้นเป็นจุดดึงดูดพวกเขาให้เข้ามาสู่โลกของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเด็กน้อยที่ชื่อ Bill Gates ก็เช่นเดียวกัน ในวัยเพียง 13 ขวบนั้น เขาก็ได้เริ่มเขียนโปรแกรมตัวแรกขึ้นมานั่นก็คือ Tic-Tac-Toe มันคือเกมส์ O-X ที่เราเล่นกันนั่นเอง

และเมื่อย้อนกลับไปในช่วงวัยดังกล่าวของ Bill Gates นั้นก็ต้องบอกว่าคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ยังไม่มีใช้งานกันเลย ตอนนั้นเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ และที่สำคัญมันยังประมวลผลได้ช้ามาก ๆ อีกด้วยเมื่อเทียบกับความเร็วของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันต้องบอกว่าห่างกันหลายล้านปีแสงเลยก็ว่าได้

ในช่วงปี 1960 โรงเรียนมัธยมของ Bill Gates อย่างโรงเรียนเลกไซด์ ในเมืองซีแอตเติล ได้ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในการติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Terminal เพื่อให้เหล่านักเรียนได้มีคอมพิวเตอร์ใช้ในเวลาว่างนั่นเอง

และเนื่องด้วยมันเป็นคอมพิวเตอร์แบบ Terminal เพราะฉะนั้นมันเป็นการฝึกปรือฝีมือให้กับ Bill Gates ได้อย่างดีในการทดสอบโปรแกรมที่เขียนไป เพราะมันจะรู้ได้ทันทีผ่าน Terminal ว่าโปรแกรมนั้นสมบูรณ์หรือไม่ เรียกได้ว่า เป็นการฝึก Bill Gates ให้ทำงานแบบ Perfect มาตั้งแต่เยาว์วัยเลยก็ว่าได้

แต่แน่นอนว่าการเข้ามาคลุกคลีกับคอมพิวเตอร์มากไปของ Gates นั้น ก็ทำให้เขาเริ่มมีปัญหากับการเข้าสังคม เพื่อไปร่วมกิจกรรมเหมือนเด็ก ๆ คนอื่น เพื่อนๆ เขาก็ได้ตีตราเขาให้กลายเป็นมนุษย์คอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก

และการเล่นคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นมันต้องแลกมาด้วยค่าเช่าเวลาเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้ Gates ต้องคิดหาทางสร้างรายได้เพื่อมาใช้เวลากับคอมพิวเตอร์แสนรักของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นให้ Gates เข้าสู่ธุรกิจ Software เป็นครั้งแรก เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเวลาคอมพิวเตอร์นั่นเอง ตอนนั้น Gates และ คู่หูต่างวัยอย่าง Pual Allen ได้เริ่มรับงานเขียนโปรแกรมในช่วงปิดเทอม ซึ่งต้องบอกว่าทำเงินได้ถึง 5,000 เหรียญ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยสำหรับเด็กมัธยมปลายอย่าง Gates

คู่หูต่างวัยหารายได้เสริมเพื่อมาจ่ายค่าเช่าเวลาคอมพิวเตอร์

ตัว Pual Allen นั้นมีอายุมากกว่า Gates 3 ปี ซึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทั้งคู่คือการที่ Allen ได้นำวารสาร Popular Electronics มาให้ Gates ได้ดู ซึ่งกล่าวถึงการพัฒนา Microprocessor 8008 ของบริษัท Intel

หากย้อนกลับไปต้องบอกว่าในยุคนั้น คอมพิวเตอร์ยังไม่มีแนวความคิดที่จะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาจริง ๆ จาก Microprocessor เลยด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนั้นผู้คนต่างมองเป็นเรื่องเพ้อฝันหากคิดถึงเรื่องของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

แม้ตัว 8008 นั้นจะทำอะไรได้ไม่มาก แต่ถือเป็นการทดลองได้อย่างดีของคู่หูทั้งสองที่จะนำเอา Microprocessor มาสร้างอะไรบางอย่าง ซึ่งทั้งคู่นั้นคิดว่าชิปขนาดเล็กอย่าง 8008 นั้นน่าจะมาสร้างวงจรการวิเคราะห์ข้อมูลและนับจำนวนรถยนต์ที่วิ่งบนถนนได้

และมันเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ได้สร้างบริษัทแรกขึ้นมาในชื่อ Traf-O-Data โดยผลิตเครื่องต้นแบบของการนับรถยนต์ และได้นำเสนอไปยังเทศบาลหลายแห่ง แต่ไม่มีใครสนใจแนวคิดของพวกเขาเลย เพราะพวกเขาทั้งสองยังดูเป็นเด็กน้อยอยู่ในขณะนั้น

Traf-O-Data เครื่องนับรถยนต์อัตโนมัติ ที่ตอนนั้นแทบจะไม่มีใครสนใจซื้อมัน

แต่มันก็ได้เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งเพราะในปี ค.ศ. 1974 Intel ได้ประกาศชิปตัวใหม่ของบริษัทคือ 8080 ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า 8008 ถึง 10 เท่า และนี่เองที่ทำให้ ทั้ง Gates และ Allen ได้ค้นพบสิ่งสำคัญที่สุดครั้งนึงในประศาสตร์คอมพิวเตอร์ นั่นคือ หัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคใหม่นั่นเอง

ตอนนั้นต้องบอกว่าเหล่าบริษัทคอมพิวเตอร์ไม่ได้มอง Microprocessor เหล่านี้เป็นคู่แข่งเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งผู้ผลิตอย่าง Intel เอง ก็แทบจะมองไม่เห็นศักยภาพของ 8080 เหมือนที่ Gates และ Allen กำลังมองเห็น

ทั้งคู่มองเห็นอนาคตของวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเห็นว่าชิปตัวใหม่อย่าง 8080 นี้สามารถพัฒนาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สมบูรณ์แบบได้ และที่สำคัญยังมีราคาไม่แพง โดยตัวชิป มีราคาประมาณ 200 เหรียญเท่านั้น และสามารถนำมาแก้ไขปรับปรุงได้ง่ายผ่านความสามารถทางด้าน Software ของทั้งคู่

ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ Bill Gates ได้เข้าเรียนที่ Harvard เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขายังมีความฝันที่จะสร้างบริษัท Software ให้สำเร็จ เพราะเขามองเห็นโอกาสและอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรออยู่ข้างหน้า

โดย Gates นั้นได้ส่งจดหมายของเขาไปยังบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เสนอตัวที่จะเขียนโปรแกรมภาษา Basic สำหรับชิป Intel ตัวใหม่นี้ แต่ไม่มีผู้ใดตอบรับเขาเลย ทำให้ Gates รู้สึกท้อแท้หมดความหวังเป็นอย่างมาก

และในช่วงเวลานั้นเองที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ Gates และ Allen ตกใจสุดขีดเนื่องจากวารสาร Popular Electronics ได้เปิดเผยเครื่อง Altair 8800 ซึ่งมันเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเครื่องแรก และมันเป็นแนวคิดเดียวกับที่ทั้ง Gates และ Allen คิด แต่ตอนนี้มีคนทำตัดหน้าเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Altair 8800 กับแนวคิด Micro Computer ครั้งแรกของโลก

แต่อย่างน้อย Altair 8800 มันไม่มี Software มันจึงไม่สามารถส่งคำสั่งใด ๆ ได้ ไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีจอภาพ และมันถึงเวลาสำคัญของทั้งคู่แล้ว โครงการแรกของทั้งคู่ในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่คือ การเขียนโปรแกรมภาษา Basic สำหรับเครื่อง Altair 8800 ตัวนี้นั่นเอง

ซึ่งทั้งคู่ต้องทำงานกับแบบไม่หลับไม่นอน ไม่รู้วันรู้คืน และใช้เวลาตลอด 5 สัปดาห์ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน สร้างโปรแกรมภาษา Basic สำหรับเครื่อง Altair 8800 ได้สำเร็จ และนี่เองได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ ของ บริษัท Software สำหรับ ไมโครคอมพิวเตอร์แห่งแรกของโลก ซึ่งทั้งคู่ตั้งชื่อมันว่า “Microsoft” นั่นเองครับ

–> อ่านตอนที่ 2 : The Standard

References : https://e.rpp-noticias.io/large/2015/10/28/18379001jpg.jpg

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

Life Story of Bill Gates

ถือว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการ it โลกคนหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับ Bill Gates ผู้ซึ่งได้สร้างอาณาจักร microsoft ให้ยิ่งใหญ่ได้จนถึงปัจจุบันนี้

Bill Gates นั้นเป็นผู้ที่ถือได้ว่ามีความอัจฉริยะ มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เนื่องจากในยุคนั้นเป็นยุคแรก ๆ ของ computer ซึ่งไม่ค่อยมีโรงเรียนไหนได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ซักเท่าไหร่ แม้กระทั่งในอเมริกา แต่ถือเป็นโชคดีของ gates ที่โรงเรียนมัธยมที่เค้าได้เข้าศึกษาในเมือง Seattle  ซึ่งถือว่า computer ก็เป็นสิ่งที่ bill gates หลงรักมาตั้งแต่นั้น

ในช่วงชีวิตมหาลัยในรั้ว harvard นั้น gates หมกมุ่นอยู่กับ computer แทบจะ 24 hrs ทำให้แทบจะไม่ค่อยได้เรียนซักเท่าไหร่ และเขาก็ได้เล็งเห็นโอกาสสำคัญของ Personal Computer ที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคนั้น โดยเริ่มต้นนั้นเขาได้พัฒนาตัว software ให้กับเครื่อง computer altair 8080  ซึ่งก็คือ Basic 1.0 นั่นเอง ซึ่งในตอนนั้น ๆ ยังไม่มีการซื้อ software กันเป็นที่แพร่หลาย คนทั่วไปจะมองค่าแค่ตัว hardware แต่ gates ก็ทำให้วงการยอมรับว่าต้องมี license ในส่วนของ software

หลังจากพัฒนา Basic ให้ Altair Gates ก็เห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ และทำให้ได้ออกจากการเรียนที่ harvard และมาตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อนของเค้าอย่าง Paul Allen ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับ microsoft ในยุคแรก ๆ และในช่วงนั้น IBM ยักษ์ใหญ่ของตลาดในขณะนั้นกำลังเข้ามาทำตลาดในส่วนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเตรียมที่กำลังจะออก IBM PC  แต่ตอนนั้นยังไม่มี software เป็นของตัวเอง Gates จึงได้ไปนำเสนอระบบปฏิบัติการเพื่อให้รันได้กับ IBM PC โดยขายเป็น license fee ตามจำนวนเครื่องที่ IBM ขายได้

ในตอนนั้น gates ก็ยังไม่มีตัว software ระบบปฏบัติการใด ๆ และได้ทำการไปซื้อ MS-DOS มาโดยใช้เงินเพียงแค่ 50,000 เหรียญ แล้วนำมาขายให้กับ IBM ซึ่งเป็นช่วงเปิดตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลพอดีจึงทำให้ Gates กลายเป็นเศรษฐีไปในแทบจะทันที

และเนื่องจากช่วงนั้นในปลายปี 1990-1990 เป็นช่วงที่มีกระแสบูมสุดขีดของ personal computer ทำให้ยอดขายระบบ MS-DOS นั้นเป็นจำนวนเงินมหาศาล รวมทั้ง Gates ไม่ได้ขายให้กับ IBM เพียงเจ้าเดียว ซึ่งเจ้าไหนที่ทำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นก็จะมีการขายระบบปฏิบัติการของ Bill Gates เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีการแข่งขันกับบริษัท apple ของ Steve Jobs ซึ่งทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่แข่งกันอย่างยาวนาน ก่อนที่ลังจากนั้นถัดมาไม่นาน microsoft จะกินรวบตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกว่า 90% หลังจากได้ทำการออก windows 95, 98 และ XP ที่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลกในช่วงนึงเลยก็ว่าได้

นั่งเองก็ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอย่างอย่างนานเนื่องจากครองถือหุ้น microsoft ไว้กว่า 40%  และถึงแม้จะมีการฟ้องร้องด้านการผูกขาดตามมาภายหลังก็ตาม แต่ได้ถือว่าเค้าได้ทำลายคู่แข่งในตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งตลาดระบบปฏิบัติการที่มีคู่แข่งอย่าง Mac OS ที่แทบจะล้มละลายปิดบริษัทไปในช่วงนั้น และ ตลาดของ Browser ที่มีคู่แข่งในตอนนั้นอย่าง Netscape ก็ได้ล้มหายตายไปจากวงการไปเป็นที่เรียบร้อย

ถ้ามองดูตัว bill gates จริง ๆ นั้นถือว่าเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก การใช้กลวิธีต่างๆ  ในการต่อสู้กับคู่แข่งนั้น microsoft สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ตามมาด้วยการถูกตราหน้าว่าเป็นยักษ์ใหญ่ผู้เหี้ยมโหด มีการทำลายบริษัทคู่แข่งไปเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองยึดครองตลาดอยู่เพียงฝ่ายเดียว  อย่างไรก็ตามหลังจากสงครามในยุคแรกจบ  และมาซึ่งสงครามครั้งใหม่ของบริษัท technology ด้าน internet กับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง google นั้น เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง microsoft จะสามารถโค่น google ลงได้เหมือนที่เคยทำกับบริษัทอื่นๆ  ในอดีตได้หรือไม่