Geek Story EP15 : Xerox กับบทเรียนครั้งสำคัญในการสร้างนวัตกรรมให้กับผู้อื่น

Xerox เป็นบริษัทแรก ๆ ที่สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีหน้าจอ คีย์บอร์ด เมาส์ และ GUI ที่เรียกว่า Xerox Alto ซึ่งในปี 1973 ในช่วงเวลาที่ผู้คนยังคงคิดว่าคอมพิวเตอร์เป็นเมนเฟรมขนาดใหญ่ในห้องคอมพิวเตอร์

Xerox ได้สร้างเครื่องจักรที่ปฏิวัติวงการอย่างบ้าคลั่งในยุคนั้น และมันทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เปลี่ยนแปลงโลกเราอย่างที่ไม่เคยเป็นมากก่อน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ที่พวกเขาแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2PDoJdE

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/31A0OBs

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2PALwqz

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/T8X5bBTHl0Y

Xerox พลาดอย่างไรในยุค Digital Revolution

หลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Bell Labs และวิธีการที่ Bell Labs ปฏิวัติโลก โดย Bell Labs เป็นสถานที่ที่คนฉลาด ๆ บางคนรวมตัวกันและคิดค้นสิ่งต่าง ๆ เช่น ทรานซิสเตอร์เลเซอร์ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ภาษาซี รวมถึงสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่เปลี่ยนแปลงโลก

ด้วยผลงานการันตีคุณภาพด้วย รางวัลโนเบล 8 รางวัล มอบให้แก่ผู้ที่ทำงานที่นี่ Bell Labs จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แต่มันไม่ได้เป็นเพียงสถานที่เดียวที่มีการวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญ  เมื่อซิลิคอน แวลลีย์ได้เริ่มถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษ 1960

Xerox ได้ตัดสินใจสร้างศูนย์วิจัยในพื้นที่ซิลิกอน วัลเลย์ และมุ่งเน้นการวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ พวกเขามีกลุ่มคนฉลาดยอดอัจฉริยะเต็มไปหมด และพวกเขาก็คิดค้นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ทันสมัยอย่างที่เราได้รู้กัน 

พวกเขาสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีหน้าจอ คีย์บอร์ด เมาส์ และ GUI ที่เรียกว่า Xerox Alto ซึ่งในปี 1973 ในช่วงเวลาที่ผู้คนยังคงคิดว่าคอมพิวเตอร์เป็นเมนเฟรมขนาดใหญ่ในห้องคอมพิวเตอร์ Xerox ได้สร้างเครื่องจักรที่ปฏิวัติวงการอย่างบ้าคลั่งในยุคนั้น และมันทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เปลี่ยนแปลงโลกเราอย่างที่ไม่เคยเป็นมากก่อน

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่พวกเขาทำ พวกเขายังประดิษฐ์วิดีโอเกมแบบ Multi Player เป็นคนแรก โดยใช้เครือข่ายเน็ตเวิร์ก รวมถึงซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word Processing) เทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยเลเซอร์  

GUI หรือ Graphic User Interface ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผลงานจาก Xerox
GUI หรือ Graphic User Interface ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผลงานจาก Xerox

ที่สำคัญพวกเขายังคิดค้นการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุผ่านภาษา Smalltalk สิ่งนี้ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเขียนโปรแกรมที่สามารถขยายได้อย่างง่ายดายและจำลองโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งภาษาทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบันยังคงใช้พื้นฐานหลักของโปรแกรมเชิงวัตถุที่ Xerox ได้ทำการสร้างไว้มาจวบจนถึงปัจจุบัน

พวกเขายังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งอินเทอร์เน็ต พวกเขาคิดค้นเครือข่ายอีเธอร์เน็ต ซึ่งถูกใช้อย่างกว้างขวางโดย Workstation ของ DARPA ซึ่งแน่นอนว่า Xerox มีส่วนร่วมในการช่วยคิดค้นอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันเรายังคงใช้สายเคเบิลอีเธอร์เน็ตในวันนี้เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่นั่นเอง

แล้วเกิดอะไรขึ้น? ทำไม Xerox จึงไม่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างรายได้และครอบครองอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ปัญหาใหญ่ก็คือเหล่า ผู้บริหารระดับสูง ในนิวยอร์กไม่สนใจเรื่องคอมพิวเตอร์เลยด้วยซ้ำ 

ตอนนั้นพวกเขามุ่งเน้นไปที่เครื่องถ่ายเอกสารซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ Xerox ในเวลานั้น สิ่งนี้เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย PARC ของ Xerox เอง  ซึ่ง Xerox ได้ใช้ความพยายามอย่างเดียวในการหารายได้จากงานวิจัยเหล่านี้ โดยในปี 1981 กับเครื่อง Xerox Star แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด

Xerox Star ที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด
Xerox Star ที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ พวกเขาปล่อยให้สตีฟ จ็อบส์และบิล เกตส์ เข้าไปในสถาบันวิจัยของพวกเขาเพื่อดูสิ่งที่เป็นนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดที่พวกเขามี 

คงไม่กล่าวเกินเลยไปนักที่จะบอกว่า Xerox ได้มอบเทคโนโลยีทั้งหมดให้กับ Bill Gates และ Steve Jobs ซึ่งทั้งสองต่างประหลาดใจกับความอัจฉริยะของเหล่านักวิจัยของ Xerox ที่คิดค้นสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา

จ๊อบส์ ชอบ GUI และ เม้าส์จริงๆ ส่วน เกตส์ นั้นชอบทุกอย่าง เพราะมันเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ แทบจะทั้งสิ้นที่คิดค้นโดยเหล่าอัจฉริยะ จนทำให้ Apple ตัดสินใจสร้าง Macintosh ตามนวัตกรรมที่พวกเขาสังเกตเห็น

ส่วน Microsoft เปิดตัว Microsoft Word ซึ่งได้ใช้ตัวแก้ไขข้อความที่ PARC พัฒนาขึ้น และ Windows ก็ตามมาในปี 1985 ทั้งสอง บริษัท ประสบความสำเร็จอย่างน่าขัน บิลล์เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน และนำพาบริษัท Apple และ Microsoft ขึ้นสู่จุดสูงสุดของบริษัททางด้านเทคโนโลยี

ซึ่งแน่นอนว่าความสามารถที่แท้จริงของพวกเขาทั้งสอง ก็คือ การจดจำเอานวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่พวกเขาเห็นที่ Xerox และมันดูเหมือนการขโมย และไปสร้างขึ้นและนำไปขายในเชิงพาณิชย์ 

แต่เนื่องจากความล้มเหลวของการจัดการของ Xerox เพื่อมาดูแลเหล่านวัตกรรมชั้นยอดที่เป็นผลงานของ PARC ซึ่งถึงตอนนี้นี้ เราได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน Microsoft และ Apple ที่ได้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ๋ที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ภาพของ Xerox ยังคงเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารอย่างง่าย ๆ อยู่เหมือนเดิม เปรียบดังที่ สตีฟ จ็อบส์ เคยกล่าวไว้ว่า “good artists copy; great artists steal “ นั่นเอง

References : https:// https://www.theodysseyonline.com/xerox-bad-decisions-hurt