Geek Story EP17 : Agoda บริษัทจองโรงแรมยักษ์ใหญ่ที่ก่อตั้งขึ้นในไทย

Agoda นั้นก่อตั้งปี 1998 โดยนายไมเคิล เคนนี่ (Michael Kenny) ภายใต้ชื่อแพลนเน็ต ฮอลิเดย์ ดอตคอม (PlanetHoliday.com) โดยมีแนวคิดเริ่มแรกในการใช้เสิร์ชเอนจิน เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางด้านข้อมูลโรงแรมและการท่องเที่ยว และ เพื่อเป็นเว็บไซด์ต้นทางในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยว (Search Engine) รวมถึงรับจองโรงแรมออนไลน์อีกด้วย

ธุรกิจของ ไมเคิล โตเร็วมากๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรมสักแห่งเดียวเลยก็ตาม แต่เขาทำเงินได้มากจากการเป็นเอเจนซี่รับจองโรงแรมทั่วโลก 

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/33XLyRM

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3akuiHH

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3gUZcZE

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/pWbDH1YtAAw

References : https://skift.com/2019/10/18/agoda-is-starting-to-offer-flights-to-take-on-rivals-in-asia/

Trivago กับบริการเปรียบเทียบราคาโรงแรมที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดสุดแหวกแนว

บริการ Online Travel Agency (OTA) ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ไทย ญี่ปุ่น ล้วนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาตินับล้านคนในทุก ๆ ปี 

และ Trivago ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ทำให้การค้นหาโรงแรมดีขึ้น โดย Trivago ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2005 เป็นเครื่องมือค้นหาโรงแรมที่ให้บริการกว่าห้าสิบประเทศทั่วโลก ผู้ใช้สามารถค้นหาโรงแรมตามความสะดวกและจองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Trivago ได้อย่างง่ายดาย

โดยผู้ก่อตั้ง Trivago ประกอบด้วย Rolf Schroemgens, Stephan Stubner, Peter Vinnemeier และ Malte Siewert Schroemgens ซึ่งเป็น CEO ของ บริษัท คนปัจจุบัน บริษัท โดย Trivago มีพนักงานประมาณ 1300 คนมี office อยู่ในทุกมุมทั่วโลก

Rolf Schroemgens สำเร็จการศึกษาที่ HHL-Leipzig Graduate School ในปี 2000 และเริ่มได้เริ่มทำงานใน Ciao.com เขาทำงานเป็นรองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ ก่อนที่จะลาออกจากบริษัทในปี 2001 และหลังจากหยุดพักสามปีเขาก็ได้มาเริ่มพัฒนา Trivago อย่างเต็มตัว

ส่วน Stubner สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากมิวนิคและไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ Paderborn เพื่อศึกษาทางด้านธุรกิจ หลังจากจบการศึกษา ตั้งแต่ปี 1999 เขาได้เริ่มเปิดตัว บริษัทที่ให้บริการทางด้านออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการก่อตั้ง Trivago ซึ่งเขาผู้ร่วมก่อตั้ง ที่ค่อนข้างมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ประกอบการมากที่สุดเพราะศึกษามาทางด้านธุรกิจโดยตรง

ส่วน Vinnemeier สำเร็จการศึกษาที่ HHL-Leipzig Graduate School ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่ University of Illinois, Chicago หลังจากนั้น เขามาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ Ciao.com และลาออกจากบริษัทมาพร้อมกับ Schroemgens เพื่อมาก่อตั้ง Trivago ด้วยกันนั่นเอง

Trivago NV ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนี และถือว่าเป็นเว็บไซต์แรกของประเทศในการค้นหาโรงแรม บริษัท ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคมปี 2005 ในช่วงก่อตั้งนั้น Stubner ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการเป็นคนแรก แต่เขาได้ออกจากตำแหน่งหลังจากก่อตั้งได้เพียงไม่นานเท่านั้น  

เว๊บไซต์การเปรียบเทียบราคาโรงแรมแห่งแรก ๆ ในเยอรมัน
เว๊บไซต์การเปรียบเทียบราคาโรงแรมแห่งแรก ๆ ในเยอรมัน

ในช่วงต้นนั้นนักลงทุนหลักของ Trivago คือ Samwer, Florian Heinemann และ Christian Vollmann โดยในปี 2008 มีนักลงทุนเข้ามาเพิ่มจำนวนเงินทุนภายใน บริษัท โดย Trivago สามารถระดมทุนได้ 1.14 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุน Series B นำโดย HOWZAT Media LLC ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของยุคใหม่ของ Trivago อย่างแท้จริงหลังจากได้เงินทุนมาอัดฉีดก่อนแรก

ความน่าสนใจของ Trivago คือพวกเขาไม่ได้พึ่งพา Google ในการเพิ่มปริมาณการใช้งานแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ทำบริการในลักษณะเดียวกัน ทีมตัดสินใจลงทุนในเรื่องการโฆษณา ดังนั้นจึงใช้รูปแบบการเปิดตัวโฆษณาทางทีวี ซึ่งไม่ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เหมือนบริการออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ  ในการให้สัมภาษณ์ Schroemgens กล่าวว่า ในช่วงแรก ๆ ของการก่อตั้ง Trivago นั้นมีการแข่งขันในตลาดไม่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงพึ่งพาทีวีเพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้งานและเป็นกลยุทธ์ที่ทำได้ค่อนข้างดีเสียด้วย

เมื่อพวกเขาเริ่มทำกำไรได้ดีพวกเขาเริ่มขยายกิจการไปยังประเทศอื่น ๆ โดยขายหุ้น 25% ให้กับกองทุนรวมของสหรัฐในเดือนธันวาคม 2010 เพื่อนำเงินทุนมาขยายกิจการ และในท้ายที่สุด บริษัท Expedia Group ได้ทำการซื้อหุ้นใหญ่ใน Trivago ซึ่ง Deal เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในปี 2013 ด้วยเงิน 632 ล้านดอลลาร์

ในปี 2015 Trivago ประกาศว่าสามารถทำรายได้สูงถึง 573.4 ล้านดอลลาร์ และรายได้ทั้งหมดมาจากโมเดลธุรกิจของ Trivago โดยพวกเขาใช้รูปแบบของการหารายได้ คล้าย ๆ Google Adwords คือ คิดราคาต่อคลิก เนื่องจาก Trivago เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบราคาโรงแรม ทุกครั้งที่มีการแสดงผลการเปรียบเทียบนั่นก็หมายถึงรายได้ที่เข้าสู่กระเป๋าของ Trivago นั่นเอง

แม้ ทุก ๆ บริษัทจะมีการลงทุนในโฆษณา แต่ไม่มีใครสามารถเอาชนะความสำเร็จของโฆษณาของ Trivago ได้ พวกเขาได้สร้าง ‘Trivago guy’ และ ‘Trivago girl’ ที่มีชื่อเสียง รูปแบบการสร้าง Character เป็นคนที่แต่งตัวประหลาด ‘Trivago’ มีชื่อเสียงอย่างมากในอินเดีย ซึ่งถูกแสดงโดย Abhinav Kumar

Abhinav Kumar นักแสดงในโฆษณา Trivago ของ อินเดีย
Abhinav Kumar นักแสดงในโฆษณา Trivago ของ อินเดีย

ต้องบอกว่าถือเป็นเรื่องน่าสนใจมากกับกลยุทธ์ในการสร้างฐานลูกค้าของ Trivago ที่เน้นการโฆษณาในทีวี ซึ่งถือเป็นสื่อยุคเก่า แต่พวกเขากลับสามารถทำมันได้อย่างยอดเยี่ยม

และในที่สุด Trivago ก็กลายเป็นเว็บไซต์เครื่องมือค้นหาโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก มันเปรียบเทียบอัตราค่าบริการของโรงแรมมากกว่า 1 ล้านแห่ง และมีเว๊บไซต์ที่ใช้งานในเครือข่ายกว่า 250 แห่ง และ Schroemgens กล่าวว่า บริษัท ก็จะยังคงลงทุนในโฆษณาทางทีวีต่อไปเหมือนเดิม เพราะเป็นกลยุทธ์หลักที่พวกเขาใช้มาและได้ผลมาตลอดนั่นเอง

References : https://skift.com/2016/12/07/inside-story-of-how-trivago-built-a-brand-one-country-at-a-time/ https://en.wikipedia.org/wiki/Trivago https://company.trivago.com/our-story/ https://blog.directpay.online/everything-you-need-to-know-about-trivago/