PayPal Wars ตอนที่ 2 : BreakThrough

DECEMBER 1999—FEBRUARY 2000

Confinity ได้ประกาศเปิดตัว PayPal ออกสู่สาธารณชน โดยนัดสื่อมวลชนทางด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ ให้เข้ามร่วมทำข่าวการเปิดตัวของ PayPal โดยได้นักแสดงนำของหนัง StarTrek อย่าง Scotty มาดึงดูดความสนใจกับสื่อมวลชน ซึ่ง Thiel นั้นหวังว่างานนี้จะต้องทำให้ PayPal แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

แต่ทีมงานของ Confinity ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อบริการแบบ PayPal นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นของ PayPal นั้นไม่ได้เป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์ให้กับสื่อมวลชนต่าง ๆ แต่อย่างใด

dotbank.com คือบริการรายแรกที่เลียนแบบการทำงานของ PayPal อย่างชัดเจน และยังมีแคมเปญ ที่แทบจะเลียนแบบมาจาก PayPal เลยด้วยซ้ำคือจะมีการมอบเงิน 5 เหรียญเข้าบัญชีทันทีที่เปิดบัญชี หรือ มีการแนะนำให้เพื่อนได้มาทดลองใช้งาน dotbank

แถม dotbank ยังทำบางอย่างได้ดีกว่า มันไม่ใช่เพียงแค่การคัดลอก PayPal เท่านั้่น แต่ dotbank นั้นยังเพิ่มฟีเจอร์เด็ดอย่างนึงก็คือ บริการที่ให้ผู้ใช้สามารถที่จะส่งใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ไปยังบุคคลที่สามได้ มันเป็นการตีแสกหน้า PayPal อย่างชัดเจน และเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เปิด มันทำให้ไม่มีสิ่งใดที่ Confinity จะสามารถทำได้เลยที่จะป้องกันไม่ให้ dotbank มาแย่งตลาดของพวกเขา

และ Thiel ก็ไม่รอช้า สั่งการให้ Jamie Templeton ที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ในขณะนั้น รีบสั่งให้วิศวกรโคลนฟีเจอร์ของ dotbank ลงมาใน PayPal ให้เสร็จสิ้นภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ Max Levchin รวมถึงทีมงานฝ่าย Development นั้นแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว

แต่ฝันร้ายของพวกเขาก็ยังไม่จบสิ้น เมื่อได้เกิดผู้ท้าชิงขึ้นมาอีกคนที่โผล่มาแบบไม่คาดคิด นั่นก็คือ X.com

โดย Elon Musk ได้ทำการก่อตั้ง X.com ในปี 1999 หลังจากได้ทำการขายบริษัทก่อนหน้าที่ชื่อว่า Zip2 ให้กับ Compaq มูลค่ากว่า 307 ล้านเหรียญ และมันเป็นเรื่องน่าบังเอิญที่ X.com เช่าสำนักงานอยู่ไม่ไกลจาก Confinity นัก และเหล่าพนักงานยอดอัจฉริยะของบริษัททั้งสองมักจะมาเจอกันบ่อยครั้งบริเวณทางเข้าสำนักงานหรือบริเวณห้องน้ำ

X.com ของ Elon Musk นั้นได้สร้างฟีเจอร์การชำระเงินทาง email อย่างเงียบ ๆ บนบริการบัญชีธนาคารที่มีอยู่ และได้กลายมาเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามที่สุดของ PayPal

X.com ของ Elon Musk คือศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดของ PayPal
X.com ของ Elon Musk คือศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดของ PayPal

ซึ่งด้วยฟังก์ชั่นใหม่ของ X.com ที่อนุญาตให้ผู้มีบัญชี X.com สามารถเขียนเช็คและถอนเงินที่ตู้ ATM รวมถึงการให้บริการวงเงินเบิกเกินบัญชีให้กับลูกค้าถึง 500 เหรียญ และยังเพิ่มโบนัสผู้ใช้ใหม่มากกว่า PayPal ถึง 2 เท่าด้วย แถมสามารถสร้าง URL ที่กำหนดเองให้ส่งไปยังเพื่อนหรือครอบครัวได้ง่าย ๆ และเมื่อทุกคนที่คลิก link ดังกล่าว และลงทะเบียน จะทำให้เจ้าของ link ได้รับเครดิตเพิ่มเข้าไป

ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือการแข่งขัน ใครให้สิ่งที่ดีกว่ากับผู้ใช้ ก็อาจจะชนะได้ในสงครามปฏิวัติการเงินครั้งนี้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีรางวัลให้กับผู้แพ้ ทำให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเดิมพันอนาคตของทุกบริษัทเลยก็ว่าได้

โดยทั้งสามบริษัทต่างเผาเงินกันอย่างบ้าคลั่ง Thiel ถึงกับให้หาทางใช้เงิน 1 ล้านเหรียญให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะวิธีการใดก็ตาม ทั้ง email marketing หรือ วิธีอื่น ๆ ใด ๆ ที่สามารถดึงลูกค้ามาใช้ PayPal นั้นทีมงานการตลาดของ Confinity ก็พยายามจะสรรหาทุกวิธีในการทำตลาด

และ Eric ที่เป็นหนึ่งในทีมการตลาดที่ย้ายมาร่วมงานกับ Confinity ก็ได้เริ่มสรรหากลุ่มคนกลุ่มใหม่ ๆ หลังจากใช้หลาย ๆ แผนการตลาดแล้ว จำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเริ่มจะตีบตัน

จนเขาได้คิดถึงเว๊บไซต์ประมูลชื่อดังในขณะนั้นอย่าง ebay.com ซึ่งแน่นอนว่าการซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ที่แลกเปลี่ยนกันผ่านเว๊บไซต์ประมูลชื่อดังอย่าง ebay นั้น ผู้ใช้เหล่านี้จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากบริการชำระเงินแบบตัวต่อตัว เช่น PayPal

เดิมทีนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่ใน ebay ไม่สามารถที่จะใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระเงินสำหรับซื้อสินค้าที่ประมูลมาได้ วิธีการที่ใช้กันในขณะนั้นคือ การส่งเช็ค หรือ ธนาณัติทางไปรษณีย์ไปยังผู้ขายตามจำนวนเงินที่ชนะการประมูล ซึ่งใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่ากระบวนการทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้น ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากมาก ๆ สำหรับผู้ใช้ ebay ซึ่งเป็นสิ่งที่ PayPal สามารถมาปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

PayPal นำร่องเข้าสู่ชุมชนของ ebay
PayPal นำร่องเข้าสู่ชุมชนของ ebay

ซึ่ง Thiel ก็เห็นด้วยกับ Eric และได้สั่งลุยใน ebay ทันที โดยมีทีมงานอย่าง Luke Nosek และ David Sacks เข้ามาช่วยในเรื่องทางด้านเทคนิคอล เพื่อให้การผสานเข้ากับ ebay นั้นทำได้อย่างราบรื่นที่สุด

และ เพียงไม่นาน PayPal ก็ยึดหัวหาดใน ebay ได้สำเร็จ และเริ่มหยั่งรากลึกลงไปในชุมชนออนไลน์ของ ebay ได้สำเร็จ ด้วยการผสมผสานระหว่างบริการที่ใช้งานง่ายของ PayPal รวมถึง การมีโบนัสในการแนะนำผลิตภัณฑ์ของ Confinity มันได้ช่วยให้การเติบโตของ PayPal ใน ebay นั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์ในตอนนั้นมันชัดเจนแล้วว่า ebay คือ แหล่งสร้างผู้ใช้งานที่ดีที่สุดของ PayPal Thiel จึงสั่งทีมงานให้ยกเลิกการพัฒนาฟีเจอร์ในส่วนอื่น และหันมาโฟกัส กับการทำงานร่วมกับ ebay ให้ดีที่สุด มีการพัฒนา ฟีเจอร์เพิ่มมากมาย เพื่อให้กับผู้ใช้งานใน ebay แทบจะทั้งสิ้น เพื่อให้ประสบการณ์ในการชำระเงินผ่าน PayPal ของลูกค้า ebay นั้นดีที่สุด และสุดท้ายมันทำให้จำนวนผู้ใช้งานของ PayPal พุ่งขึ้นถึง 100,000 คนได้อย่างรวดเร็วหลังจากไปคลุกคลีอยู่ใน ebay เพียงไม่นาน

และเมื่อ Elon Musk ได้กลิ่นแปลก ๆ ของการเติบโตอย่างรวดเร็วของ PayPal ในขณะนั้น เขาจึงได้ให้ทีมงานตามสืบเรื่องราว จบพบว่า ebay เป็นชุมชุนที่เหมาะสมมากกับบริการ X.com ของเขาเช่นเดียวกัน จึงทำการมุ่งไปที่ ebay เช่นเดียวกันกับ PayPal แต่ตรงกันข้ามกับ dotbank ที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจ ebay เลย ซึ่งดูเหมือนเป็นทางแยกที่สำคัญของตลาดการชำระเงินออนไลน์ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้

และการแข่งขันใน ebay ระหว่าง X.com และ PayPal ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทางทีมงานของ Confinity สร้างกลยุทธ์ใหม่โดยการสร้าง Bot ขึ้นมาเพื่อเสนอราคาการประมูลในสินค้าบางประเภทได้เช่นเดียวกับมนุษย์ และพยายามที่จะชนะการประมูลและชำระเงินด้วย PayPal โดยที่ผู้ขายอาจจะคิดว่าเขากำลังติดต่อกับผู้ซื้อที่เป็นมนุษย์

ซึ่งความพยายามเหล่านี้แน่นอน ทางหนึ่งมันคือการสร้างฐานผู้ใช้งานที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในชุมชนของ ebay เมื่อ PayPal มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากหลักร้อยคน เป็น หลัก หมื่นคนต่อวัน และจำนวนพนักงานก็เพิ่มขึ้นไปถึง 50 คนเมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2000

แต่ปัญหาใหญ่ของ Confinity กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อ ปรากฏการณ์ ฟองสบู่ดอทคอมได้เริ่มก่อตัวขึ้นใน Silicon Valley แม้ Thiel เพิ่งจะอัดฉีดเงินมากว่า 23 ล้านเหรียญ ในเดือนก่อนหน้าเพียงไม่นาน

แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของ PayPal ในขณะนี้นั้น พวกเขาต้องจ่ายโบนัสให้กับลูกค้ามากกว่า 100,000 เหรียญต่อวัน ในขณะที่แนวทางการหารายได้จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ นั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่ มักจะถอดเงินออกไปหลังจากได้รับโบนัสทันที

และที่แย่กว่านั้นคือ มีผู้ใช้งานเพียงไม่กี่คนที่ยังคงรักษาบัญชียอดคงเหลือไว้ในบัญชีของ PayPal เพราะส่วนใหญ่พวกเขาใช้บัตรเครดิตเพื่อการชำระเงิน และ Confinity ต้องเสีย 2% สำหรับค่าธรรมเนียมไปยังสมาคมบัตรเครดิตในการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่มีคนลงทะเบียนและใช้ PayPal ดูเหมือน Confinity จะสูญเสียเงินออกไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายคู่แข่งคนสำคัญอย่าง X.com ที่ดูเหมือนว่าจะตามตื้อ PayPal ไม่เลิกรา และไม่ใช่คู่แข่งที่สามารถกำจัดออกไปได้โดยเร็วอย่างแน่นอน ซึ่งชะตากรรมของ PayPal จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามต่อตอนหน้าครับผม

—> อ่านตอนที่ 3 : Mega-Merger

ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The New Recruit *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***