Capitalism 5.0 ทุนนิยมยุคใหม่กับการเร่งอนาคตมนุษย์ให้เร็วกว่าที่เราจะสามารถจินตนาการได้

ต้องบอกว่า การขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้น แม้นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์เราขับเคลื่อนสู่อนาคต แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่มีอะไรที่เร่งการพัฒนาเทคโนโลยีได้ดีไปกว่าเงินทุน

โครการระดมทุนครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในปี 1997 เมื่อ Marillion วงดนตรีร็อกชาวอังกฤษระดมทุน 60,000 ดอลลาร์ ผ่านการบริจาคออนไลน์ เพื่อเป็นเงินทุนในการทัวร์ในสหรัฐอเมริกา

20 ปีต่อมา การระดมทุนนั้นเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล ในปี 2015 มียอดการระดมทุนทั่วโลกรวม 34,000 ล้านดอลลาร์

ในขณะที่ Marillion ต้องคิดค้นกระบวนการทั้งหมดที่ใช้ในการขับเคลื่อนแคมเปญการระดมทุนของพวกเขา แต่ผู้ประกอบการปัจจุบันสามารถเลือกแพล็ตฟอร์ม crowd funding ที่แตกต่างกันถึง 600 แพล็ตฟอร์มเฉพาะแค่ในอเมริกาเหนือเท่านั้น

ตัวอย่าง Kickstarter ซึ่งเป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้เปิดตัวโครงการกว่า 450,000 โครงการ โดยมีเงินทุนกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์ในแพล็ตฟอร์มดังกล่าว

ซึ่งแน่นอนว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้นในยุคก่อนหน้านี้ มันเป็นช่วงเวลาที่มาบรรจบกันพอดีระหว่างความพร้อมของเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต รูปแบบการชำระเงิน และความพร้อมของเหล่านักลงทุน

Kickstarter กับแพล็ตฟอร์มการระดมทุนแบบ Crowd Funding (CR:Kickofflabs)
Kickstarter กับแพล็ตฟอร์มการระดมทุนแบบ Crowd Funding (CR:Kickofflabs)

ตัวอย่างการระดมทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก Kickstarter เช่น Pebble Time ที่เป็น Smart Watch ซึ่งสามารถระดมทุนได้กว่า 20 ล้านเหรียญในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสำเร็จหากเราย้อนเวลากลับไปในวันของวงดนตรีร็อกอย่าง Marillion

แน่นอนว่า การระดมทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่ ทำให้เกิดนวัตกรรมมากมายและพลิกโลกเราไปอย่างที่ไม่มีใครคาดฝันถึง การลงทุนใน Amazon , Google , Uber , Apple หรือ Facebook ล้วนเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์เราไปอย่างสิ้นเชิง

และมันกำลังเติบโตขึ้นด้วยอัตราเร่ง ที่ทุนเหล่านี้ เริ่มมีเงินทุนจำนวนมหาศาลมากขึ้น และกำลังผลักดันเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วโลกอย่างรวดเร็วมากแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ในสหรัฐอเมริกามีเงินร่วมทุนเพิ่มขึ้นจาก 8.1 พันล้านดอลลาร์ ในปี 1995 เป็น 61,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 และมีการลงทุนสูงถึง 99,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน

เม็ดเงินเหล่านี้ได้ไกลเข้าสู่วงการเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้เกิดนวัตกรรมขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการลงทุนด้าน AI กำลังเพิ่มขึ้น จากการลงทุน 5.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2017 เป็น 9.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018 และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึง เทคโนโลยีทางด้านชีวภาพเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มจาก 11,800 ล้านดอลลาร์ ในปี 2017 เป็น 14,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2018

หรือนวัตกรรมอย่าง ICO จากอาณาจักร Cryptocurrency ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการระดมทุนโดยใช้เทคโนโลยี blockchain ซึ่งเหล่า startup สามารถระดมทุนได้โดยการสร้างและขายสกุลเงินเสมือนของตนเองอย่าง Token ซึ่เปรียบเสมือนขายหุ้นในบริษัท และสัญญาว่าจะทำกำไรในอนาคต

และแน่นอนว่าแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเทคโนโลยีในตอนนี้ คงไม่พูดถึงกองทุน Vision Fund ของ Softbank ไม่ได้

เพราะกลายเป็นว่ามันได้กลายเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุด และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางการศึกษา การแพทย์ การขนส่ง ecommerce เทคโนโลยีด้านชีวภาพ ซึ่งเป็นอนาคตของโลกเราแทบจะทั้งสิ้น

นั่นเองที่ทำให้ Masayoshi Son CEO ของ Softbank ได้ทำการรวบรวมเงินทุนจำนวนมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เงินที่ได้จากเศรษฐกิจยุคเก่าอย่างในอุตสาหกรรมน้ำมันของ เครือข่ายตะวันออกกลาง ก็มาบรรจบกันที่กองทุน Vision Fund

Masayoshi Son แห่ง Softbank ที่ทำการระทุนก้อนยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก (CR:Menabytes)
Masayoshi Son แห่ง Softbank ที่ทำการระทุนก้อนยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก (CR:Menabytes)

มันเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และ ช่วยให้องค์กรทั้งภาครัฐ หรือ เอกชน ที่มีเงินสดจำนวนมาก ๆ ที่ได้จากการทำธุรกิจในยุคเก่า อย่างเช่นน้ำมัน หรือ แม้กระทั่ง บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Apple, Foxconn และ Qualcomm ซึ่งได้สะสมกำไรจากเงินสดมานาน นำเงินของพวกเขามาลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตในกองทุนนี้เช่นเดียวกัน

กองทุน Vision Fund 100,000 ล้านดอลลาร์กองทุนแรกนั้น เป็นเพียงก้าวแรกของ Masayoshi Son และ Softbank เขาประกาศแล้วว่าจะดำเนินการเพื่อจัดตั้งกองทุนที่ 2,3,4 และจะจัดตั้งขึ้นทุก ๆ 2-3 ปี ในอนาคต

ลองจินตนาการว่า เงินจะมีจำนวนมหาศาลขนาดไหน และ จะถูกอัดฉีดไปยังนวัตกรรมใหม่ ๆของโลกเราได้มากมายขนาดไหน

โลกในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า มันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากเงินจำนวนมหาศาลเหล่านี้ เพราะตอนนี้มีสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายจากนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะทั่วโลก ที่พร้อมจะเปลี่ยนโลกเราแบบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

และตอนนี้ พวกเขาก็พร้อมแล้วกับเงินทุนที่จะขยายไปใน สเกลในระดับโลก ทำให้นวัตกรรมเหล่านี้ ออกสู่สายตาชาวโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ เปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์ของเรา แบบที่ไม่อาจมีใครจินตนาการถึงได้อย่างแน่นอนครับผม

เรียบเรียงจากหนังสือ The Future Is Faster Than You Think: How Converging Technologies Are Transforming Business, Industries, and Our Lives โดย Peter H. Diamandis และ Steven Kotler

Credit Image : https://www.arabnews.com/

Kazbrella ร่มกันลมที่ถูก Design โดยวิธี Reverse Engineer

คุณเกลียดเมื่อลมพัดร่มของคุณจนกางออกมาข้างนอกใช่ไหม? แต่นี่ไม่ใช่ปัญหากับ KAZbrella ซึ่งเป็นวิธีที่ควรจะเป็น ซึ่งค่อนข้างแปลกสำหรับร่มเมื่อเทียบกับทั่วไป การออกแบบนี้มาจาก KAZ Designs ซึ่งจบแคมเปญ Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มาสร้างร่มให้อยู่ข้างในกันดีกว่าไหม?

KAZbrella พับขึ้นเพื่อปิดดังนั้นด้านบนของร่มจะอยู่ด้านในของรูปร่างที่ยุบเรียบร้อยแล้ว จริงๆแล้วมันดูเหมือนร่มอื่น ๆ เมื่อมันถูกปิด แต่นักออกแบบกล่าวว่ามันสะดวกกว่าร่มแบบดั้งเดิมมาก สำหรับข้อแรกแน่นอนว่าน้ำจะไม่หยดทั่วทุกที่ เมื่อคุณปิดร่มหลังการใช้งาน เนื่องจากพื้นผิวที่เปียกชื้นอยู่ด้านใน ทำให้น้ำทั้งหมดจะอยู่ด้านใน และคุณสามารถพลิกมันเพื่อเทออกแทนที่จะปล่อยให้มันหยดลงมาเหมือนร่มทั่วไป

วิธีคิดแบบย้อนกลับ กับปัญหาที่เราเจอกันมานานของร่มทั่วไป
วิธีคิดแบบย้อนกลับ กับปัญหาที่เราเจอกันมานานของร่มทั่วไป

การเปิด KAZbrella นั้นถูกกล่าวหาในช่วงแรกว่าอันตรายสำหรับคนรอบข้าง ร่มปกติจะแกว่งขึ้นไปข้างบนเมื่อเปิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วมันจะไปโดนสิ่งใดหรือใครก็ตามภายในไม่กี่ฟุตในระยะของการกางร่ม

แต่สำหรับ KAZbrella จะถูกดึงลงมาจากหัวคุณดังนั้นมันจะไม่กระทบอะไรเลยในกระบวนการแบบเดียวกับร่มทั่วไป และเมื่อเกิดลมกระโชกแรงก็ควรจะพัด “ด้านในออก”  นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมันไม่เป็นปัญหากับ KAZbrella เพราะคุณสามารถคลิกที่ปุ่มการปรับใช้อีกครั้งและมันจะกลับเข้าที่เหมือนเดิม การออกแบบในรูปแบบสองก้านทำให้เปิดกางออกได้ยากเมื่อถูกลมพัดแรง ๆ 

KAZbrella จะวางจำหน่ายในราคา Kickstarter อยู่ที่ 39-65 ปอนด์ (61-102 ดอลลาร์) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีและลวดลาย

References : 
https://www.geek.com/geek-cetera/the-kazbrella-is-a-wind-proof-inside-out-umbrella-1625917/