Movie Review: Joker (โจ๊กเกอร์)

Joker (โจ๊กเกอร์) ตอนนี้ได้ถือว่าเป็นหนังที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับความ ดาร์ค ของหนังที่เรียกได้ว่า แฟนๆ ของหนังเครือ DC ไม่ควรพลาดที่จะชมเป็นอย่างยิ่ง และแน่นอนว่า โดยส่วนตัวระหว่างหนัง Marvel กับ DC นั้น ผมก็ชอบหนังของ DC มากกว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

Joker นั้นได้กลายเป็นตำนานของการแสดงที่ดาราชื่อดังอย่าง Heath Ledger ที่ได้ฝากผลงานสุดคลาสสิกไว้ในหนังที่ผมชอบที่สุดเรื่องนึงอย่าง Batman The Dark Knight ที่เข้าถึงบทบาทของตัวร้ายโรคจิตอย่าง Joker ที่เราไม่สามารถหาได้จากตัวร้ายอื่น ๆ ใน Hollywood

สำหรับภาคใหม่ที่ให้ Joker เป็นตัวนำ ผลงานซึ่งได้เป็นเรื่องราวจุดเริ่มต้นของ “Joker” จากผู้กำกับฯ ทอดด์ ฟิลลิปส์ ที่จะพาไปรู้จักกับโลกของอาร์เธอร์ เฟลค โดยมีการถ่ายทอดการแสดงไว้อย่างน่าประทับใจโดยวาคิน ฟีนิกซ์

อาร์เธอร์เป็นชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณและสังคมที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม เขาต้องเผชิญกับความอ้างว้างจนเปลี่ยนเขาจากที่เป็นคนอ่อนแอกลายเป็นคนโหดเหี้ยม เขารับจ้างแต่งชุดตัวตลกรายวัน

จนกระทั่งคืนหนึ่งที่เขาพยายามจะแสดงตลกเดี่ยว แต่กลับพบว่าตัวเองต่างหากที่เป็นเรื่องตลก เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาที่มีผู้คนอยู่รายล้อม ซึ่งเห็นได้จากเสียงหัวเราะที่ควบคุมไม่ได้และดูไม่เหมาะสม ยิ่งเขาพยายามควบคุมเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสดงออกมามากขึ้น จนทำให้เขาแสดงความเยาะเย้ยและความรุนแรงออกมา

อาร์เธอร์ทุ่มเทเวลาไปกับการดูแลแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรง และไขว่คว้าตามหาคนที่เหมาะจะเป็นพ่อซึ่งเขาไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่นักธุรกิจมหาเศรษฐี โธมัส เวย์น ไปจนถึงพิธีกรรายการทีวีเมอร์เรย์ แฟรงค์ลิน เขาพบว่าตัวเองอยู่ปลายทางระหว่างโลกแห่งความจริงกับความบ้าคลั่ง การตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวกลายเป็นชนวนเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น

และสิ่งที่เราจะได้เห็นตลอดในหนังเรื่องนี้คือการหัวเราะของ Joker ที่เขาไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้ ซึ่งเสียงหัวเราะที่ไม่สามารถควบคุมได้ของอาเธอร์เกิดขึ้นอาการทางการแพทย์

ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการล่วงละเมิดในวัยเด็ก รวมถึงความแปลกแยกของเขายังเกิดขึ้นจากความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม, การทุจริตทางการเมือง, โทรทัศน์, ระบบราชการของรัฐบาลและสาเหตุอื่น ๆ คนร่ำรวยก็รวยเหลือเกิน คนที่น่าสงสารแย่มาก มันทำให้สุดท้ายการทำให้เกิดความยอมรับความชั่วร้ายของ Joker และได้ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ในที่สุดนั่นเอง

และแน่นอนว่าด้วยความดาร์ค ของหนังนั้น มันทำให้เราหลอนไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ Joker เรื่องนี้เป็นหนังเฉพาะกลุ่มจริง ๆ เพราะคุณจะตกไปกับพวังในโลกที่ Joker สร้างมา มันดูเลวร้าย มันดูสะท้อนสังคมหลาย ๆ แห่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกมนุษย์เรา แต่มันก็มีแต่มุมมองด้านลบเพียงเท่านั้น

แม้ภาพยนตร์จะสร้างความสนใจของคุณด้วยฉาก และ การถ่ายทอดเมือง Gotham ยุคเสื่อมทราม เต็มไปด้วยความวุ่ยวาย และดูหดหู่ ที่ดูมีความสมจริง ตัว Joker เองที่เรียกว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านทุนนิยม รวมไปถึงการต่อต้านที่เต็มไปด้วยผู้ประท้วงแต่งตัวเป็นตัวตลก การเกิดขึ้นของอาชญากรที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง และความโหดในการเป็นฆาตกรต่อเนื่องของ Joker ที่ถ่ายทอดความโรคจิตของเขาออกมาได้อย่างดี

แต่โดยส่วนตัวแล้วนั้น ถ้าเทียบกับหนังขึ้นหิ้งอย่าง The Dark Night แล้วนั้น ผมก็ยังมองว่า ผลงาน Joker ของ Heath Ledger นั้นยังแสดงได้ดีกว่า วาคิน ฟีนิกซ์ อยู่ เพราะหลังดูจบเรื่องนี้ ผมก็ได้กลับมาดู The Dark Night ทันที เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน

ซึ่งเอาจริง ๆ บางซีน Joker มันก็ดูล้น over acting เกินไป ที่ความโรคจิตมันดูล้น ๆ ยังไงชอบกล ซึ่งบางฉากมันทำให้ดูไม่สมจริงเอามาก ๆ มันดูไม่ make sense ซักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับผลงานแสดงของ Heath Ledger ที่ทำไว้ได้อย่าง Perfect เป็นอย่างมากใน The Dark Night

ผมมองว่า วาคิน ฟีนิกซ์ รู้ว่าตัวเองจะต้องถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ Heath Ledger จึงต้องการที่จะแสดงให้มันมีพลังมากกว่า แต่กลายเป็นว่าพลังที่เขาแสดงออกมานั้น มันดูล้นเกินจริง ที่ทำให้ Joker ลดมนสเน่ห์ลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามผมก็คิดว่าสุดท้ายเขาก็ยังจะได้รางวัลติดมือกับผลงานการแสดงในครั้งนี้ แต่ถ้าถามว่าเป็นผลงาน Joker ที่ดีที่สุดหรือไม่นั้น โดยส่วนตัวผมคิดว่า ยังไงผมก็ยังชอบผลงานของ Hath Ledger มากกว่าอยู่ดีนั่นเองครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

สรุป 

แม้จะไม่ใช่เป็น Joker ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ทำออกมาได้ดีที่สุดในปีนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องใช้วิจารณญานในการชมหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ให้มองมันเป็นแค่ภาพยนตร์แล้วเรามีความสุขกับมันก็เพียงพอครับ มันจึงเป็นหนังในที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ ไม่ควรที่จะพลาดชมเป็นอย่างยิ่งครับผม

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol