Geek Life EP27 : เคล็ดลับการเพิ่ม Productivity จาก Elon Musk, Jeff Bezos และ Steve Jobs

ทุกคนมีเวลาในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเท่ากันกับคนอย่างElon Musk ซึ่งไม่ใช่เพียง CEO ของ Tesla แต่ยังรวมถึง SpaceX, The Boring Company และ Neuralink และ Jack Dorsey ซึ่งเป็น CEO ของทั้ง Twitter และ Square

แล้วผู้ก่อตั้งมหาเศรษฐีที่มีงานยุ่งเช่น Musk และ Dorsey จะจัดการวันเวลาของพวกเขาอย่างไร? และนี่คือเคล็ดลับของ Musk’s, Dorsey’s และผู้นำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ ในการเพิ่ม Productivity

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/36qkHkF

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/35cXAtj

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3I3DZu9

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3I8YhST

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/XG_dS3ul4qk

References Image : https://in.askmen.com/career/1124786/article/jeff-bezos-elon-musk-steve-jobs-and-more-the-weirdest-habits-of-highly-successful-ceos-and-business

Jeff Bezos กับ 10 ทางเลือกที่จะนำไปสู่ชีวิตที่คุณจะไม่เสียใจในภายหลัง

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากถึงคุณสมบัติหลายอย่าง ทั้งความอดทน ความฉลาดหลักแหลมในการสร้างบริษัท Ecommerce อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Amazon.com

หรือการเปลี่ยนความคิดริเริ่มภายในของบริษัท จากการเป็นเพียงแค่บริษัท Ecommerce ให้กลายเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีด้วย Amazon Web Services ที่ทำรายได้มากกว่า 17.4 พันล้านดอลลาร์ การรู้วิธีการที่จะจ้างคนที่เหมาะสม การตัดสินใจขยายตัวอย่างชาญฉลาด

แต่สิ่งที่ Bezos ได้เรียนรู้ เมื่ออายุได้ราว ๆ 10 ขวบ ระหว่างการเดินทางบนท้องถนนกับคุณปู่ คุณย่า ของเขา ความฉลาดเพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ หรือช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีได้

Bezos กล่าวว่า ความฉลาดเป็นของขวัญ “คุณสามารถถูกหลอกล่อด้วยของขวัญได้หากคุณไม่ระมัดระวัง” Bezos กล่าวกับผู้สำเร็จการศึกษาจาก Princeton ในปี 2010 “และถ้าคุณทำเช่นนั้นก็อาจจะส่งผลเสียต่อการเลือกทางเดินชีวิตของคุณได้เช่นกัน”

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเรามักเสียใจกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำมากกว่าสิ่งที่เราทำ แม้ว่าสิ่งที่เราทำจะออกมาไม่ดีก็ตาม 

แต่มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล: ด้วยเวลาและความพยายามของเราที่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดเกือบทุกอย่างที่เราได้ทำลงไปแล้วได้ แต่คุณไม่สามารถกลับไปทำสิ่งที่คุณใฝ่ฝันที่จะทำ แต่กลับไม่ได้ทำมัน

ดังที่ Bezos กล่าว “เมื่อคุณอายุ 80 ปี และในช่วงเวลาที่เงียบสงบของการไตร่ตรองที่หากคุณมีเวลามานั่งทบทวนเรื่องราวชีวิตของคุณ ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นก็คือทางเดินชีวิตที่คุณเลือกและไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้อีกแล้ว”

ทางเลือกใดที่จะส่งผลกระทบมากที่สุดต่อเรื่องราวในชีวิตของคุณ และหากคุณมองย้อนกลับไปในเรื่องราวนั้น ซึ่งคุณจะไม่เสียใจในภายหลัง?

นี่คือคำถามที่ Bezos บอกให้คุณถามกับตัวเอง :

  • ความเฉื่อยชาจะเป็นแนวทางของคุณหรือคุณจะทำตามความสนใจของคุณ?
  • คุณจะทำตามความเชื่อหรือคุณจะเป็นคนแบบเดิม ๆ ที่ซ้ำซากจำเจ ?
  • คุณจะเลือกชีวิตที่สะดวกสบายหรือเลือกชีวิตแบบผจญภัย?
  • คุณจะยอมถูกวิจารณ์หรือจะทำตามความเชื่อมั่นของคุณ?
  • คุณจะพูดโกหกเมื่อคุณทำผิดหรือคุณจะขอโทษ?
  • คุณจะป้องกันหัวใจของคุณจากการถูกปฏิเสธหรือคุณจะทำทุกสิ่งเมื่อคุณตกหลุมรักใคร?
  • คุณจะเลือกความปลอดภัยไว้ก่อนหรือคุณจะเลือกการเป็นคนขี้ประจบ?
  • เมื่อมันเป็นสิ่งที่ยาก คุณจะยอมแพ้หรือจะคงความพยายามอย่างไม่ลดละ?
  • คุณจะเป็นคนที่คอยถากถางหรือจะเป็นคนที่สร้างความสำเร็จขึ้นมา?
  • คุณจะเป็นคนฉลาดที่ยอมจ่ายเงินให้คนอื่นหรือจะเป็นแค่คนที่ใจดี?

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนเรามักจะเสียใจที่คิดว่าเราทำอะไรไม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งเราจะเสียใจมากที่สุดที่ไม่ได้กลายเป็นคนที่เรารู้สึกว่าเราควรจะเป็น

เพราะนั่นเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้นั่นเอง

แต่ถ้าคุณถามตัวเองด้วยคำถาม 10 ข้อของ Bezos นั่นอาจเป็นสิ่งที่คุณสามารถเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับชีวิตคุณได้ เพื่อไม่ให้คุณมาเสียใจในภายหลัง โดยคุณสามารถเริ่มทำมันได้ตั้งแต่วันนี้

References : https://www.inc.com/jeff-haden/20-years-ago-jeff-bezos-said-always-ask-these-3-questions-to-determine-perfect-job-candidate-to-hire.html
https://www.inc.com/jeff-haden/when-jeff-bezos-made-his-grandmother-cry-his-grandfather-stopped-car-to-teach-him-a-powerful-lesson-on-kindness.html
https://www.princeton.edu/news/2010/05/30/2010-baccalaureate-remarks
https://psycnet.apa.org/buy/1995-05382-001
https://www.inc.com/jeff-haden/new-research-reveals-what-people-regret-most-of-all-5-ways-to-make-sure-you-never-do.html
https://www.infobae.com/america/tecno/2019/10/15/jeff-bezos-revelo-que-fue-lo-mas-inteligente-que-hizo-en-amazon/

Geek Story EP31 : ประวัติ Jeff Bezos แห่ง Amazon (ตอนที่ 2)

ต้องบอกว่า amazon ในยุคแรก ๆ นั้นเป็นส่วนผสมของการลองผิดลองถูก แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ เจฟฟ์ และทีมงานยึดถือเป็นหลักในการสร้าง amazon ก็คือ การให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าอันดับแรก ไม่ใช่หากทางทำเงินจากลูกค้าให้มากที่สุด

เจฟฟ์ พยายามปรับปรุงทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ารักเว๊บไซต์ของเขา เขาแทบจะไม่ได้มองถึงการหาเงินด้วยซ้ำในช่วงแรกของการสร้าง amazon มันเป็นเรื่องของการเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเพียงเท่านั้น แล้วการเดินทางก้าวต่อไปของ amazon จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รับฟังกันต่อได้เลยครับผม

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/34beIeF

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3ib5MLm

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/Poheg15S6kg

References : https://edition.cnn.com/interactive/2018/10/business/amazon-history-timeline/index.html
https://www.tharadhol.com/blog-series-jeff-bezos-and-the-rise-of-amazon-com/

Geek Story EP30 : ประวัติ Jeff Bezos แห่ง Amazon (ตอนที่ 1)

หลังจาก Podcast Series ชุดที่แล้วว่าด้วยเรื่องของ แจ๊ค หม่า ราชัน อีคอมเมิร์ซแห่งแดนมังกรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใน Series ชุดใหม่นี้ ผมขอนำเสนอเจ้าพ่อ อีคอมเมิร์ซ แห่งโลกตะวันตกอย่าง Jeff Bezos แห่ง amazon.com กันบ้างครับ

ทั้งสองต่างเป็นราชันผู้ยิ่งใหญ่ของโลกอีคอมเมิร์ซ และมีบทบาทสำคัญต่อวงการการค้าโลก เรื่องของ Jeff Bezos นั้นก็น่าสนใจไม่แพ้เรื่องราวการต่อสู้ของแจ๊ค หม่า จากจุดเริ่มต้นจากร้านหนังสือออนไลน์ จนกลายเป็นร้านค้าที่มีสินค้าและบริการทุกอย่าง มียอดขายกว่าแสนล้านเหรียญ และมีลูกค้าอยู่ทั่วโลกได้อย่างไร

Podcast Series ชุดนี้จะนำเสนอเรื่องราวทุกแง่มุมของ Amazon ทั้งความสำเร็จ และความล้มเหลวที่ Jeff Bezos ประสบพบเจอตอนสร้าง Amazon.com ให้กลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3ifa5VK

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/36kItMK

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/MMkUE3S7gFU

References : https://abcnews.go.com/Technology/expect-amazons-fire-smartphone/story?id=24675041
https://www.tharadhol.com/blog-series-jeff-bezos-and-the-rise-of-amazon-com/

Space Industries กับแนวคิดการย้ายโรงงานอุตสาหกรรมไปอยู่บนอวกาศ

ดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ความคิดในการเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมหนักออกไปจากโลกดูเหมือนจะมีโอกาสเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที ซึ่งการจัดเก็บภาษีทรัพยากรจากดาวเคราะห์ดวงอื่นหรือดาวเคราะห์น้อยแทนการใช้ทรัพยากรที่เรามีเหลืออยู่บนโลกที่เริ่มลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่ามนุษย์จะอยู่รอดต่อไปได้ในอนาคต จากรายงานของ DiscoverMagazine

“ระบบพลังงานแสงอาทิตย์สามารถรองรับอุตสาหกรรมทั้งหมดมากกว่าที่เรามีในโลก” ฟิล  เมทซ์ นักวิทยาศาสตร์ด้านดาวเคราะห์ที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดา บอกกับ DiscoverMagazine “ เมื่อคุณไปสู่อารยธรรมที่กว้างใหญ่กว่าที่โลกเรามี ซึ่งสามารถรองรับอุตสาหกรรมทุกอย่างบนโลกเราได้”

เมื่อทรัพยากรบนโลกลดน้อยลงจำนวนประชากรก็เพิ่มมากขึ้น อย่างน้อยมันก็คือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังแหล่งผลิตแห่งใหม่ของ บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ตัวอย่างเช่น Planetary Resources Inc. ได้สรรหาเงินทุนหลายสิบล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการขุดเจาะบนดาวเคราะห์น้อย แต่ปัญหาด้านการเงินทำให้ บริษัท ต้องชะลอการสำรวจดาวเคราะห์น้อยดวงแรกออกไปอย่างไม่มีกำหนด

Billionaire Blue Origin และ CEO ของ Amazon Jeff Bezos ก็มีทุกอย่างเช่นเดียวกัน

“ เหตุผลที่เราต้องไปยังอวกาศในทัศนะของผมคือเพื่อช่วยโลก” เบโซส กล่าวในระหว่างการประกาศการลงจอดบนดวงจันทร์ของ บริษัทด้านอวกาศของเขาเมื่อเดือนที่แล้ว

“ ปัญหาระยะยาวที่สำคัญมากคือพลังงานบนโลกเรากำลังจะหมด” เบโซสกล่าวในงาน “ นี่เป็นแค่ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ และมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ “

Blue Origin ของมหาเศรษฐี เจฟฟ์ เบซอส
Blue Origin ของมหาเศรษฐี เจฟฟ์ เบซอส

แม้แต่องค์การนาซ่ายังได้เลือกที่จะลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในแนวคิดเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเราสำรวจดาวเคราะห์น้อยในเทคโนโลยีของการขุดเจาะ

ไม่เพียง แต่ทรัพยากรทางกายภาพเท่านั้นที่จะสามารถเป็นทางออกสำหรับโลกเราที่มีภาระมากเกินไปในขณะนี้ สถานีพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศสามารถส่งลำแสงพลังงานที่ไร้ขีด จำกัดกลับคืนสู่โลกได้เช่นกัน และเป็นแผนการที่จีนกำลังดำเนินการเพื่อนำไปใช้จริง

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความคิดเหมือนกัน: กลุ่มนักวิทยาศาสตร์มารวมตัวกันเพื่อลงนามในข้อเสนอเรียกร้องให้ระบบสุริยะนั้นได้รับการปกป้องจากการรุกรานของมนุษย์

“ ถ้าเราไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้เราจะเดินหน้าต่อไปในแนวทางที่ทำลายระบบสุริยะของเรา และในอีกไม่กี่ร้อยปีเราจะต้องเผชิญกับวิกฤติที่รุนแรงยิ่งกว่าที่เรามีบนโลกนี้มากนัก” มาร์ติน เอลวิส นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์อาวุโส ที่ สมิธโซเนียน กล่าว “ เมื่อคุณใช้ประโยชน์จากระบบสุริยจักรวาลเราก็ไม่มีเหลือทางเลือกอีกต่อไปแล้ว”

ก่อนที่การสร้างการผลิตในอวกาศและการขุดจะกลายเป็นความจริง ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเพียงเท่านั้น โดยเมื่อ 5 ปีก่อนบริษัท Startup ในแคลิฟอร์เนียอย่าง Made In Space กลายเป็นบริษัทแรกที่พิมพ์วัตถุ 3 มิติด้วยแรงโน้มถ่วงที่เป็นศูนย์

Made In Space กับการพิมพ์ 3 มิติบนแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์
Made In Space กับการพิมพ์ 3 มิติบนแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์

โดยบริษัทเดียวกันนี้ได้ทำสัญญาครั้งสำคัญกับ NASA ในปี 2018 เพื่อพัฒนา “ระบบการผลิตโลหะไฮบริดสำหรับการสำรวจอวกาศ” โดยจะเป็นการพิมพ์ชิ้นส่วนโดยใช้โลหะเกรดอากาศยานเช่นไทเทเนียมและอลูมิเนียม

อย่างไรก็ตามความพยายามเหล่านี้ยังคงเป็นหนทางที่ยาวไกล ที่การขุดดาวบนเคราะห์น้อยสามารถรองรับอารยธรรมมนุษย์ทั้งหมดได้ในห้วงอวกาศ เราไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าประเทศไหนจะเป็นเจ้าของทรัพยากรเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจทางการเมืองระหว่างประเทศ

แต่ด้วยเวลาที่กำลังจะหมดลง – การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็วกำลังบังคับให้เรามองข้ามโลกที่เป็นบ้านเกิดของเรา และหวังว่าเราจะสามารถทำการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไปนั่นเอง

References : 
http://blogs.discovermagazine.com