Apple and the end of the genius

ในฐานะที่เป็นข่าวเกี่ยวกับ Jony Ive ที่กำลังจะจากลาจากแอปเปิ้ล เราจะเห็นผู้คนจำนวนมากเริ่มแสดงความกังวลในยุคต่อไปที่จะไม่มี Ive  และสิ่งต่อไปที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เพราะ Ive เป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างน่าทึ่ง เขาเป็นผู้ผลักดันการออกแบบ ไม่เพียงแต่สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Apple เพียงเท่านั้นแต่สำหรับทั้งอุตสาหกรรมโดยรวม บุคคลเดียวที่สามารถอ้างถึงชื่อเสียงและอิทธิพลในระดับเดียวกันได้นี้คือสตีฟ จ็อบส์เพียงเท่านั้น

แม้มันจะน่ารำคาญที่จะใช้คำว่า “ยุค” แต่นั่นคือคำที่ฟังดูไม่เพียงแค่จำเป็นสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับการออกแบบคอมพิวเตอร์ แต่มันก็เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ ดังนั้นด้วยการออกจาก Apple ของ Ive นั้นคงจะไม่เป็นคำพูดเกินเลยที่ว่า : ยุคของ 2 อัจฉริยะแห่ง Apple ได้สิ้นสุดลงแล้ว

แม้ว่า Apple อาจมีเรื่องราวที่ดีเกี่ยวกับการก่อตั้งขึ้นในโรงรถ แต่ตำนานการก่อตั้งที่แท้จริงของ Apple ก็คือตำนานแห่งอัจฉริยะทั้งสองไม่วาจะเป็น Jony Ive และ Steve Jobs   เมื่อตอนที่สตีฟ จ็อบส์ดูแลแอปเปิลเขาได้ทำสิ่งมหัศจรรย์มานับต่อนับทั้ง คอมพิวเตอร์ Apple, Mac , iPod, iPhone หรือแม้กระทั่ง iPad เองก็ตาม

หลังจากยุคสตีฟ จ็อบส์ ผู้ที่ขับเคลื่อน Apple จริง ๆ แทนที่นั้นก็ได้ถูกส่งไปที่ Jony Ive แม้เขาจะเงียบ ๆ แต่มันบ่งบอกได้ถึงสิ่งสำคัญสำหรับแนวคิดเกี่ยวกับ Apple ที่ผู้มีอำนาจเต็มอย่าง Ive ได้ทำการตัดสินใจคนเดียวในหลายเรื่อง ๆ  โดยไม่ยอมแพ้ในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณภาพ รวมถึงรสนิยมของ Apple ที่ยังมีกลิ่นอายของความเป็น จ๊อบส์ อยู่ 

และแล้วได้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่สองอย่าง อย่างแรกคือมีคนสองคนเข้ามาแทนที่ Ive ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น และเรื่องที่สอง: Ive นั้นได้ถูกปรับให้รายงานไปยัง COO ไม่ใช่โดยตรงต่อ Tim Cook อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ Steve Jobs ตั้ง Jony Ive ขึ้นมาเป็นคู่หูคนสำคัญของ Apple ยุคใหม่ โดย Jobs อธิบายบทบาทของ Ive ไว้ว่า :

“เขาไม่ใช่แค่นักออกแบบ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาทำงานโดยตรงสำหรับผม เขามีพลังในการปฏิบัติงานมากกว่าใคร ๆ ใน Apple ยกเว้นผม ไม่มีใครบอกเขาได้ว่าจะต้องทำอะไร นั่นคือวิธีที่ผมมอบหมายให้ Ive ทำ”

ดูเหมือนว่า Apple ได้สูญเสียความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ มีหลาย ๆ อย่างที่หลุดไปอย่างง่าย ๆ มันไม่ใช่ DNA แบบเดิมของการออกแบบเมื่อตอนที่ Jobs กับ Ive ทำงานด้วยกัน ตัวอย่างเช่น Apple Pencil  , iPhone และ iPad Smart Keyboard  และยังรวมถึงรีโมท Apple TV ที่ไม่ได้รัประหยัดพลังงานอย่างน่าประหลาด ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ในยุค Jobs คงไม่มีทางปล่อยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกมาขายอย่างแน่นอน

หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่หากอยู่ในยุค Steve Jobs คงไม่มีทางได้ออกมาขายอย่างแน่นอน
หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่หากอยู่ในยุค Steve Jobs คงไม่มีทางได้ออกมาขายอย่างแน่นอน

ซึ่งสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้ Apple ยังไม่รู้สาเหตุของมัน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเกิดจากการขาดการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เป็นหลักเหมือนในอดีต – ไม่มีเหล่าอัจฉริยะ ที่จะส่งสิ่งเหล่านี้กลับไปที่กระดานวาดภาพเมื่อพวกเขามองว่ามันยังไม่ดีพอ ตอนนี้ Apple มุ่งเน้นที่รูปแบบการใช้งานมากกว่าการทำสิ่งที่บางและสวยงามเหมือนในยุคก่อน ๆ  

กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ได้ถูกกำหนดโดยบุคคลเดียวอีกต่อไป  รวมถึงตัว Ive เอก็ไม่ได้มีส่วนร่วมเหมือนที่เขาเคยเป็นในยุคของ Jobs

แม้ว่า Ive จะจากไป แต่เขาก็ยังคงร่วมงานกับ Apple อยู่ ที่สำคัญกว่านั้นทีมที่เขาเป็นผู้นำไม่ได้ย้ายไปไหน และจะไม่เปลี่ยนปรัชญาการออกแบบทั้งหมดในชั่วข้ามคืนอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุด Apple มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าหลายปี ดังนั้นการออกแบบของ Ive จะอยู่กับเราไปอีกนาน

อย่างไรก็ตามการจากไปของเขาจะมีผลกระทบอย่างแท้จริง อย่างแรกไม่ใช่ปัญหาของ Apple แต่เป็นของเหล่าลูกค้าที่จงรักภักดีกับ Apple : เราควรหยุดคิดว่า Apple เป็นบริษัทที่แสดงออกถึงความเป็นอัจฉริยะของคน ๆ หนึ่ง เหมือนในอดีตอีกต่อไป

เมื่อพิจารณาการออกแบบบางอย่างของ Apple ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คำเดียวที่นึกได้คือ “การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค” การสร้างผลิตภัณฑ์ในยุคของ Jobs นั้นทำสิ่งที่เป็นไม่ได้ ให้เป็นไปได้มากมาย แม้อุปสรรคจะมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคนิค หรือ ด้านดีไซต์ก็ตาม ทั้งคู่ Ive และ Jobs จะไม่ยอมปล่อยผ่าน พวกเขาสามารถผลักดันทีมงานให้รีดเอาศักยภาพที่มากที่สุดของทีมงานมาสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้นั่นเอง 

ดูเหมือนตอนนี้ จะถึงยุคสิ้นสุดของสองอัจฉริยะแห่ง Apple ผู้ฝากผลงานที่น่าทรงจำไว้มากมาย และเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้นผ่านนวัตกรรมต่าง ๆ ของพวกเขาทั้งสอง เราก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับ Apple ในยุคต่อไปที่ไร้สองอัจฉริยะอย่าง Jobs และ Ive?

References : 
https://www.theverge.com/2019/6/28/18870887/apple-jony-ive-design-genius-committee

Steve Jobs: The Man in the Machine

Featured Video Play Icon

ถ้านับสารคดี ที่เกี่ยวข้องกับ steve jobs หรือ บริษัท apple ที่เคยทำมาทั้งหมด ก็ต้องถือว่า สารคดี Steve Jobs : The Man in the Machine ถือว่าเป็นหนึ่งในสารคดีที่ดีที่สุดชุดหนึ่งที่กล่าวถึง steve jobs และ บริษัท apple

ซึ่งเรื่องนี้ผลิตโดย Alex Gibney โดยผลงานของ CNN Films ซึ่งผ่านการผลิตสารคดีชั้นยอดมาแล้วหลายเรื่องเช่น Enron: The Smartest Guys in the Room หรือเรื่องเกี่ยวกับ wikileaks อย่าง We Steal Secrets: The Story of WikiLeaks ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานคุณภาพโดยทั้งสิ้น

สำหรับเรื่องของ steve jobs : the man in the machine นั้นก็กล่าวตั้งแต่เนื้อหาในช่วงแรก ๆ ของการทำงานของ steve jobs กับ apple ตั้งแต่ยุคแรกของการก่อตั้งบริษัท การเริ่มต้นทำงานกับสิ่งประดิษฐ์แรก ๆ อย่าง เครื่อง bluebox ที่ใช้โทรศัพท์หาใครก็ได้ในโลกในขณะนั้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในภายหลังของ steve jobs และด้วยความหลงใหลในด้านเทคโนโลยี รวมถึงการออกแบบ ทำให้เกิดเครื่อง apple รุ่นแรกขึ้นมา ซึ่งแทบจะนับได้เป็น Personal Computer เครื่องแรก ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้

สารคดี พูดถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับ steve jobs ทั้งเรื่องของการทำ ads superbowl ในปี 1984 ที่เป็นการลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจของยักษ์ใหญ่สีฟ้า ณ ขณะนั้นซึ่งก็คือ IBM นั่นเอง รวมถึงแนวคิดในเรื่องการออกแบบตามวิถี zen ของ steve ซึ่งมีความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ของ jobs ในยุคหลัง ๆ

ซึ่งสารคดี เรื่องนี้ก็ไม่ได้กล่าวเฉพาะในด้านดีไปซะทีเดียว เมื่อ apple เรืองอำนาจ ในยุคหลัง ๆ ก็เริ่มใช้อิทธิพลทำในหลาย ๆ อย่างเช่นการคุกคามนักข่าวของ Gizmodo เนื่องจากสามารถเก็บ iphone รุ่นต้นแบบและนำไปเผยแพร่ โดยใช้การกระทำที่เกินกว่าเหตุให้เจ้าหน้าที่บุกไปค้นบ้านของนักข่าวดังกล่าว ทำให้เป็นคดีที่ดังมากในยุคนั้น รวมถึงการบีบบังคับพนักงานไม่ให้ออกไปทำงานกับบริษัทอื่นที่เป็นคู่แข่ง ซึ่งหากมีการย้ายข้ามไปยังบริษัทคู่แข่งก็จะใช้อำนาจรวมถึงอิทธิพลต่าง ๆ เข้าทำลายพนักงานคนนั้น ๆ ให้เสียชื่อเสียง รวมถึง คดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการแจกหุ้นให้พนักงานที่มีส่วนที่ผิดกฏหมาย รวมถึงการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง apple

สุดท้าย ก็ถือว่าสารคดีชุดนี้ ทำออกมาได้ครอบคุลมเนื้อหาในชีวิตของ jobs ครบถ้วนทั้งในด้านดี และ ด้านมืด ในบางเรื่องที่พวกเราบางคนยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว แต่ jobs ก็ถือเป็นบุคคลสำคัญที่สุดคนหนึ่งของวงการเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบัน ที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ก็น่าคิดเหมือนกันว่า หากโลกนี้ไม่มีชายชื่อ steve jobs โลกในปัจจุบันของเราจะเป็นอย่างไร

Apple ทำสถิติมูลค่ากิจการ 7 แสนล้านดอลล่าร์

ข่าวล่าสุดที่ออกมาไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรซ์ แต่อย่างใดสำหรับมูลค่ากิจการของ บริษัท apple  ซึ่งปิดการซื้อขายที่สูงที่สุดที่ ประมาณ $122 ต่อหุ้น ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 7 แสนล้านดอลล่าร์  ซึ่ง มีมูลค่าตีเป็นเงินไทยประมาณ 23 ล้านล้าน บาท ซึ่งสูงกว่างบประมาณทั้งประเทศไทย ถึง 20 เท่า

Apple เป็นบริษัทที่น่าอิจฉา ซึ่งถ้าเทียบข่าวกับบริษัทคู่แข่งอย่าง samsung ซึ่งมีข่าวร้ายต่อเนื่อง ทั้งยอดขายที่ตกต่ำ และกำไรที่น้อยลงเรื่อย ๆ โดนคู่แข่งจากเมืองจีนมาแย่งตลาดจำนวนมาก ทำให้ในตลาดระดับบน Apple คงไม่มีคู่แข่งไปอีกพักใหญ่ เนื่องจาก samsung ก็ไม่ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ ที่น่าสนใจออกสู่ตลาด ซึ่งถ้ามองที่ Galaxy S5 และ Galaxy Note4 นั้น จะเห็นได้ว่าไม่สามารถสู้ความร้อนแรงของ Apple ที่ออก Iphone 6 ออกมาได้

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจของนักการตลาด ซึ่ง  Apple นั้นตั้งราคาผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่สูงลิ่ว ๆ ทำกำไรต่อเครื่องได้มากมาย แต่ Brand อื่นไม่สามารถทำได้แบบ Apple จะเห็นได้ว่าในตลาดของ Android มีแต่การลดราคา เพื่อแข่งขันกัน ซึ่งเป็น ตลาด red ocian ไปแล้วในตอนนี้ ทำให้สภาพของซัมซุงนั้นค่อนข้างสะบักสะบอมไม่ใช่น้อย ที่โดนทั้ง Xiami , Meizu , Lenovo , Huawei , Asus แบรนด์ ตระกูลจีนเข้ามาแย่งตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า samsung ทำให้ในตลาดนี้นั้น สุดท้ายแล้วน่าจะเป็นมือถือจากจีน ที่มาแย่งตลาดกันเอง แต่ถ้ามองที่สัดส่วนกำไรนั้น ถือว่า น้อยนิด ในตลาดรวมของมือถือ โลก จะเห็นได้ว่า ส่วนของกำไรนั้น Apple ครองไปเกือบหมด จึงเป็น Case Study ที่น่าสนใจมาก

ก่อนหน้านี้ หลังจากเสีย สตีฟ จ๊อป ไปนั้นมีแต่คนมองว่า apple คงถึงยุคตกต่ำแน่ ๆ  แต่เปล่าเลย พอ ทิม คุก ขึ้นมากุมบังเหียน มูลค่าของ apple นับวันจะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะ drop ลงแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของ apple ที่ถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่ยุคของ สตีฟ จ๊อป

P1-BS768_CATDOO_16U_20150210191538-597x426

 

จากกราฟข้างบน เราจะเห็นได้ว่า มูลค่า apple นั้นสูงมาก สูงกว่า ทั้ง google และ microsoft มารวมกันเสียอีก ซึ่ง การเติบโตของ apple นี้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย ในปีนี้ ก็จะมี ตัว apple watch ออกมา ซึ่งก็คาดได้ว่า น่าจะฮิต ติดลมบนเหมือนเคย จะเห็นได้ว่า apple ไม่ใช่ผู้ผลิตคนแรกในผลิตภัณฑ์ยอดฮิตต่าง  ๆ ทั้ง ipod , iphone หรือ ipad แต่ apple เป็นคนที่จุดกระแสให้เกิดตลาดขึ้นมาทุกครั้งเมื่อมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกมา ซึ่งถ้ามองผลงานในอดีตของ apple ผมก็มองว่า ในปีนี้นั้น ตลาดของ smart watch จะเกิดอย่างแน่นอน เมื่อ apple ลงมาเล่นตลาดนี้ และ เข้า สู่ loop เดิมของ brand อื่น ที่ต้องไปทำตลาดแข่งกันอย่างหนัก แต่ กำไรในส่วนใหญ่ของตลาดนั้น จะอยู่กับ apple เหมือนเดิม

Book Review : Jony Ive The Genius Behind Apple’s Greatest Products

หลังจากได้อ่านอัตถชีวประวัติของ Steve Jobs ของ walter isaacson แล้วหนังสือเล่มถัดไปที่ผมรอคอย ก็คือ หนังสือของ Jony Ive ซึ่งเป็นหนังสือแนวอัตถชีวประวัติ ของ Jony Ive ในฐานะ หัวเรือใหญ่ทางฝั่งของการ Design ของ apple ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อ apple ในยุคใหม่ แทบจะรองจาก Jobs เพียงคนเดียวเท่านั้น

ในส่วนของเนื้อหาของหนังสือนั่นจะแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กในตอนเรียนทั้งมัธยมและ มหาลัย รวมถึงประสบการณ์ทำงานในแต่ละที่ของ Ive ซึ่งถ้ามองจริง ๆ Ive นั้น อัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก  ๆ  แล้วในเรื่องของการ Deisgn ซึ่งเขาได้คว้ารางวัลมากมายจาก สถาบันต่าง ๆ ในช่วงเรียนอยู่ ซึ่งเส้นทางอาชีพของ Ive นั้นจะต่างจาก Jobs มาก แทบจะไม่มีจุดหักเหใด ๆ เส้นทางอาชีพนั้นค่อนข้าง Perfect ทุกอย่าง ได้รับการยอมรับนับถือมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว

เนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือจะกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการทำงานใน apple เป็นหลัก ตั้งแต่โปรเจคแรก ๆ ที่ Ive ทำอย่าง การ design เครื่อง newton และร่ายยาวมาในผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ของ apple ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการ Design ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรม ที่พลิกฟื้น apple จากที่ใกล้จะล่มสลายทำให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่า สูงที่สุดของโลกบริษัทหนึ่ง โดยใช้ Product เพียงไม่กี่ตัว ซึ่งถือว่า การ Design ของ Ive นั้นมีอิทธิพลต่อนวัตกรรมของ apple เป็นอย่างมาก ซึ่งหากไม่มี Ive นั้น apple ก็คงจะไม่ได้เติบโตมาจนถึงวันนี้ และไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอย่าง Ipod , Iphone หรือ Ipad ให้เราได้ใช้งานจนเป็นเรื่องปรกติเหมือนในทุกวันนี้

เก็บตกจากหนังสือ

  • Ive แทบจะมีอิทธิพลต่อ apple สูงมากรองจาก Jobs เท่านั้น
  • ใครที่มีปัญหากับ Ive นั้นมักจะลงเอยด้วยการเดินออกจาก apple สถานเดียว
  • Ive นั้นมีผลิตภัณฑ์ที่ Failed อยู่ในระดับนึง
  • Ive เป็นคนให้เครดิตการทำงานกับเพื่อนร่วมทีมเสมอ ซึ่งต่างจาก Jobs ในบางอย่างนั้น ไม่เคยให้เครดิตกับเพื่อนร่วมงาน