สุดล้ำกับเทคโนโลยี HoloLens Translate ใหม่จาก Microsoft

Microsoft ได้สร้างโฮโลแกรมที่จะแปลงคนให้กลายเป็นชนชาติอื่นที่พูดภาษาต้นฉบับของเขาได้ Microsoft ได้เปิดเผยเทคโนโลยีในระหว่างการปาฐกถาพิเศษที่การประชุมคู่ค้า Microsoft Inspire ที่ลาสเวกัส

โดยไมโครซอฟท์ได้ทำการสแกนร่างของ Julia White ผู้บริหาร บริษัท Azure ที่ดูแลด้าน Cloud โดยกล้องจากสตูดิโอได้ทำการจับภาพความเป็นจริงจากเธอ เพื่อเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นภาพจำลองแบบโฮโลแกรมที่เหมือนจริง

และเธอในเวอร์ชั่นดิจิตอล ได้ปรากฏขึ้นบนเวที เพื่อแปลคำปราศรัยเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่ง Microsoft ใช้เทคโนโลยี Azure AI และการแปลงข้อความเป็นคำพูดภาษาญี่ปุ่น มันทำงานได้โดยการบันทึกเสียงของ Julia White เพื่อสร้างเอกลักษณ์เสียงส่วนบุคคล และใช้เทคโนโลยี AI ทำให้เสียงเหมือนเธอกำลังพูดในภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ 

ภาพแสดงผ่าน Hologram ของผู้บริหาร Julia White

ไมโครซอฟท์ได้แสดงให้เห็นถึงโฮโลแกรมของคน ในการเปิดตัวก่อนหน้านี้ แต่ในเรื่องการแปลภาษานั้น เป็นขั้นตอนที่เกินความเป็นไปได้ของ HoloLens ใน version แรก ๆ 

ซึ่งการแสดงครั้งนี้เป็นเพียงการสาธิตในตอนนี้ และหากจะใช้จริง ๆ นั้น ต้องมีการเข้าถึงสตูดิโอระดับมืออาชีพของ Microsoft 

โดยสตูดิโอ ของ Microsoft นั้นมีแท่นที่ใช้ในการจัดการเรื่องแสง และ มีกล้องความละเอียดสูงเพื่อจับภาพโฮโลแกรมดิจิตอลที่แม่นยำอย่างสมบูรณ์แบบ ในการแปลงรูปร่างของวัตถุ (คน) ให้กลายเป็นภาพ Hologram แบบสมบูรณ์  ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านด้วยสมาร์ทโฟนของคุณอย่างแน่นอน

ถึงกระนั้นการสาธิตของ Microsoft ในครั้งนี้ก็น่าประทับใจ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของ บริษัท ที่มีต่อ Azure, HoloLens และเทคโนโลยีอื่น ๆ โดย HoloLens 2 อาจจะมีเป้าหมายเพื่อตลาดสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ 

โดย Microsoft จะพยายามที่จะสร้างซอฟต์แวร์และบริการที่จะไปยังเป้าหมายสูงสุด ที่จะเติมความสมจริงแบบสมบูรณ์ที่สุดให้กับเทคโนโลยี Hololens นั่นเอง

References : 
https://www.theverge.com/2019/7/17/20697976/microsoft-hololens-hologram-keynote-japanese-translation-microsoft-inspire

Smart Contact Lens จากหนังดังสู่สงครามในโลกแห่งความจริง

โครงการวิจัยขั้นสูง (DARPA) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ รายงานว่า มีความสนใจในคอนแทคเลนส์ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายที่เพิ่งเปิดตัวในฝรั่งเศส เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องในการค้นหาเทคโนโลยีขนาดเล็กเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพสหรัฐ

นักวิจัยที่สถาบันวิศวกรรมชั้นนำของฝรั่งเศส IMT Atlantique ได้ประกาศว่า  “ คอนแทคเลนส์ตัวแรกที่ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีความยืดหยุ่น” เลนส์ที่มีน้ำหนักเบา ไม่เพียงให้ความช่วยเหลือในการมองเห็นแก่ผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดข้อมูลภาพแบบไร้สาย แบบเดียวกับในเลนส์ของ  Jeremy Renner ที่ใช้ในหนังชื่อดังอย่าง Mission: Impossible – Ghost Protocol ที่ใช้เพื่อสแกนชุดของรหัสนิวเคลียร์:

ที่สำคัญกว่านั้นเลนส์ใหม่ตัวนี้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟจากภายนอกแบบปรกติ“ ซึ่งตัวเลนส์จะใช้แหล่งกำเนิดแสงอย่างต่อเนื่อง เช่นในไดโอดเปล่งแสงอย่าง (LED) ที่สามารถอยู่ได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง” ตามประกาศของ IMT Atlantique

“ การจัดเก็บพลังงานในอุปกรณ์ขนาดเล็กนี้เป็นความท้าทายอย่างแท้จริง” ธีเรียร์ จินิเซียนหัวหน้าแผนกอิเล็คทรอนิคส์ที่ศูนย์ Microélectronique de Provence Georges Charpak และหัวหน้าโครงการกล่าว

เลนส์ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานทางการแพทย์และอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ตามที่นิตยธุรกิจของฝรั่งเศส L’Usine Nouvelle (‘The New Factory’) อ้างว่า เลนส์ตัวนี้ได้รับความสนใจจากทั้ง DARPA และ Microsoft ซึ่งล่าสุดได้รับการว่าจ้างจากกองทัพสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือทหารโดยใช้อุปกรณ์ของ Microsoft อย่าง HoloLens

DARPA อยู่ในช่วงตามล่าหาเทคโนโลยีเลนส์แบบไฮเทคมานานกว่าทศวรรษและหน่วยงานได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการที่คล้ายกันหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในเดือนมกราคม 2012 DARPA ประกาศว่า บริษัท ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Innovega กำลังพัฒนาคอนแทคเลนส์ “ iOptiks” ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการมองเห็น โดยสามารถฉายภาพดิจิทัลลงบนแว่นเปรียบเสมือนจอภาพขนาดจิ๋ว “ซึ่งอนุญาตให้ผู้สวมใส่ ดูภาพที่เสมือนจริงได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือขนาดใหญ่” 

ซึ่งสามปีต่อมานักวิจัยของ École Polytechnique Fédérale de Lausanne (EPFL) ได้เปิดตัวคอนแทคเลนส์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก DARPA ซึ่งสามารถ “ขยายวัตถุในพริบตาได้”   The Guardian รายงานว่า นักวิจัยสรุปว่าเทคโนโลยีนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้น รวมถึงผู้ที่มีความเสื่อมสภาพทางสายตา มากกว่าการใช้งานสนามรบ

แต่เมื่อคอนแทคเลนส์อัจฉริยะเหล่านี้ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธเพนตากอน และแน่นอนว่าพยายามของ DARPA ก็ต้องการทุกสิ่งที่ล้ำสมัยที่สุด เพื่อสร้างขีดความสามารถในการรบที่สูงสุดให้กับกองทัพสหรัฐนั่นเอง

References : 
https://nationalinterest.org/blog/buzz/darpa-eyeing-high-tech-contact-lens-straight-out-mission-impossible-54617