ต้องบอกว่า Linkedin นั้นถือเป็นหนึ่งในบริษัททางด้าน internet น้อยรายจากอเมริกาที่สามารถเข้าถึงได้ในประเทศจีน ซึ่ง Facebook , Google , Twitter หรือ Pinterest นั้นต่างถูกบล็อก
ซึ่ง Linkedin นั้นจะมุ่งเน้นไปที่เครือข่ายของมืออาชีพ และได้รับความสนใจจากประชากรชาวเน็ตในประเทศจีน ซึ่งมีการเติบโตของกลุ่มผู้คนมืออาชีพกว่า 140 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวแทนของเหล่าพนักงานที่มีความรู้ประมาณ 1 ใน 5 ของโลก
โดย Jeff Weiner ซีอีโอ ของ Linkedin ได้กล่าวในการเปิดตัวเว๊บไซต์ภาษาจีนในปี 2014 ว่า “เป้าหมายของ Linkedin คือ เชื่อมโยงเหล่าผู้ใช้งานมืออาชีพชาวจีน เข้ากับสมาชิกที่เหลือของ Linkedin กว่า 277 ล้านคนใน 200 ประเทศทั่วโลก”
ต้องบอกว่า Linkedin นั้นได้ทำสิ่งที่แตกต่างจากบริการอื่น ๆ สิ่งแรกคือ เวอร์ชั่นภาษาจีนที่มีเนื้อหาเป็นภาษาท้องถิ่น และมีการตั้งบริษัทเข้าไปลงทุนในประเทศจีน รวมถึงการว่าจ้าง Derek Chen ผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ ที่ได้รับการว่าจ้างเป็นผู้นำ Linkedin ในสาขาประเทศจีน
ซึ่ง Chen นั้น มีอิสระในการปรับแต่งเว๊บไซต์ ซึ่งสมาชิก Linkedin ในประเทศจีนนั้นสามารถที่จะ import รายชื่อผู้ติดต่อจาก Weibo และเชื่อมโยงบัญชีของพวกเขาไปยัง Wechat เพื่อทำการแบ่งปันเนื้อหาข้ามเครือข่ายได้
และเป็นเวลาเพียงไม่ถึง 4 ปี ที่ Linkedin China นั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า และจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านคน เป็น 41 ล้านคนในประเทศจีน และนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้บริการท้องถิ่นที่เข้ามาแข่งขันนั้นต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมากกับบริการ internet ในประเทศจีน
ซึ่งแม้ว่า Linkedin China นั้นจะรอดพ้นเงื้อมมือจาก Startup ในประเทศจีน ที่ทำการลอกเลียนแบบ Features ของ Linkedin เหมือนกับที่ทำในบริการอื่น ๆ มีบริการอย่าง Vaideo จากฝรั่งเศษ หรือ Ushi บริการอีกรายที่ก่อตั้งในเซี่ยงไฮ้ ที่พยายามทำตัวเป็น Linkedin of china แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
แล้วสาเหตุใดที่ Linkedin สามารถประสบความสำเร็จได้ในแผ่นดินจีน
ต้องบอกว่ามีปัจจัยหลายประการที่ Linkedin สามารถยืนหยัดได้ในประเทศจีน การทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมจีน การปรับแต่งบริการสำหรับผู้บริโภคชาวจีน รวมถึงการให้อำนาจแก่ผู้นำในท้องถิ่น เพื่อการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่ง แตกต่างจากบริการอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ที่มักจะใช้นโยบายเดียวกับบริษัทแม่ในอเมริกาเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถสรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้
- ให้หาหุ้นส่วนจีนในท้องถิ่น อย่าบุกตะลุยเดี่ยวเพียงอย่างเดียว
- จ้างทีมงานท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ในธุรกิจและเทคโนโลยีของจีน
- ให้ความเป็นอิสระแก่ทีมงาน ที่สามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ทันท่วงที โดยไม่ต้องขึ้นกับสำนักงานใหญ่ที่อเมริกา
- ปรับแต่งบริการและคุณสมบัติสำหรับลูกค้าชาวจีน
- วางกลยุทธ์การซื้อกิจการที่สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
- เรียนรู้ที่จะเจรจากับลูกค้าชาวจีนที่ต้องการ และอย่าคาดหวังว่าจะชนะทุกครั้ง
- ตั้งเป้าที่การเติบโตก่อนมองหาผลกำไร
- พัฒนากลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่สร้างสรรค์
- เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการเมืองอย่างกะทันหันในจีน
- พยายามรักษาวิสัยทัศน์ และ มองการแข่งขันในระยะยาว
References : หนังสือ Tech Titans of China เขียนโดย Rebecca A.Fannin