Final Fantasy กับภารกิจกอบกู้ Square Enix

ถือเป็นเกมส์ที่เป็นตำนานของวงการเกมส์เลยก็ว่าได้สำหรับ Series Final Fantasy เชื่อว่ามีผู้ที่เป็นสาวกเกมส์นี้นับล้านคนทั่วโลก รวมถึงตัวผมเองที่มีโอกาสได้เริ่มเล่นจริง ๆ จังใน ภาคที่ 7 ซึ่งถือว่าเป็นภาคหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ final fantasy เลยก็ว่าได้สำหรับ Series Final Fantasy นั้นถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Square Enix ( เดิมคือ Square Soft )  โดยในช่วงนั้นก็ต้องย้อนกลับไปในยุคของช่วงปลาย ทศวรรษที่ 80 โดยช่วงนั้น Square Soft ก็ได้ทำเกมส์ออกมามากมายเช่น Rad Racer , World Runner แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้บริษัทแจ้งเกิดได้ และค่อนข้างมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางด้านการเงินในยุคแรก ๆ จึงคิดจะทำเกมส์ในระดับ Mega Hits ออกมา ประกอบกับในช่วงนั้น มีเกมส์ RPG ที่โด่งดังจาก Dragon Quest ซึ่ง เกมส์ Final Fantasy ในเริ่มแรกนั้น ได้รับแรงบรรดาลใจส่วนใหญ่มาจากเกมส์ Dragon Quest ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีลักษณะการเล่นคล้าย ๆ กันมาก โดยได้ Producer อย่าง Hironobu Sakaguchi มาเป็นผู้นำในการผลิต

ซึ่งการที่สร้าง RPG โดยยึดต้นแบบจาก Dragon Quest นั้น ก็ต้องสร้างความแตกต่างโดย Sakaguchi นั้นได้มือดีทางด้าน Music Compaser อย่าง Nobuo Uematsu มาร่วมประพันธ์ในส่วนของเสียงเพลงประกอบเกมส์ ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถซึมซับอารมณ์จากเกมส์ Final Fantasy ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เป็นจุดต่างที่สำคัญจากเกมส์ RPG อื่นๆ  ในขณะนั้น โดยเริ่มวางขาย Final Fantasy ภาคแรกในปี 1987

Hironobu Sakaguchi บิดาแห่งเกม Final Fantasy

Hironobu Sakaguchi บิดาแห่งเกม Final Fantasy

และ Sakaguchi ก็ไม่ทำให้บริษัทผิดหวังสำหรับ Final Fantasy ภาคแรกทำยอดขายได้ในระดับ Mega Hits ในขณะนั้น และเนื่องจากยอดขายของเครื่อง console อย่าง Famicom ในขณะนั้น ขายได้อย่างถล่มทลายทำให้เกมส์ก็ส่งต่อไปให้นักเล่นเกมส์ได้เป็นจำนวนมาก เป็นการเกื้อกูลกันระหว่าง Nintendo กับ Square Soft เลยก็ว่าได้

หลังจากผลงาน Master Pieces ในภาคแรกนั้น ทางบริษัทก็ได้เดินหน้าสร้างภาค 2 ทันที และได้วางจำหน่ายในปี 1988 หนึ่งปีหลังจากวางจำหน่ายในภาคแรก และก็เช่นเคย ผลงานก็ขายได้ในระดับ Mega Hits กลายเป็น Series ที่มีคนติดตามมากที่สุดเกมส์หนึ่งในขณะนั้น ก่อนที่จะมีการปรับปรุงด้าน Graphics ครั้งแรกเพื่อวางจำหน่าย Final Fantasy ในภาคที่ 3 ในปี 1990 และผลงานก็ขายได้ถล่มทลายอีกเช่นเคย

หลังจากผลงานยอดขายถล่มทลายใน 3 ภาคแรก Nintendo ก็ได้ออกเครื่องเกมส์ตัวใหม่ คือเครื่อง Super Famicom ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องจากเดิมเป็นอย่างมากทั้งเรื่องของ Performance ของเครื่อง รวมถึงการแสดงผลทางด้าน Graphics ทาง Square ก็ได้ผลิตผลงาน ภาคที่ 4 ออกมาในปี 1991 โดยมีปรับปรุงเรื่อง Graphics เพื่อแสดงผลได้ดียิ่งขึ้นในเครื่อง Super Famicom เครื่องเกมส์รุ่นใหม่ของ Nintendo

ก่อนที่จะมาสร้างภาคที่ 5 ออกมาในปี 1994 และภาคที่ทำให้หลายคนจดจำ ที่มีการยกเครื่องทางด้าน Graphics และเนื้อเริื่องแบบใหม่หมด คือในภาคที่ 6 ที่จะออกเป็นภาคสุดท้ายในเครื่อง Super Famicom โดยปรับเรื่อง Music ใหม่ เพื่อให้ได้อรรถรสในการรับฟังมากยิ่งขึ้น และมีอารมณ์ร่วมกับเกมส์มากยิ่งขึ้น ซึ่งภาคที่ 6 ได้ออกมาในปี 1994 ซึ่งถือว่าเป็นภาคที่ Hits ที่สุดภาคหนึ่งของตระกูล Final Fantasy นับตั้งแต่ได้เริ่มผลิตมา

Final Fantasy VI กับการยกเครื่อง Graphic ส่งท้ายให้เครื่อง SFC

Final Fantasy VI กับการยกเครื่อง Graphic ส่งท้ายให้เครื่อง SFC

หลังจากภาค 6 ก็หมดยุคของเครื่องเกมส์อย่าง Super Famicom และเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ระหว่าง Nintendo และ Square Soft ที่เกื้อกูลกันตลอดมาตั้งแต่กำเนิด Final Fantasy ในภาคแรก โดยในตอนแรกนั้น Square Soft ก็ตั้งใจที่จะผลิตให้เครื่องเกมส์ console ตัวใหม่อย่าง Nintendo64 ของ Nintendo

แต่ช่วงนั้นได้เกิดเทคโนโลยีอย่าแผ่น CD-ROM ที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า และการที่ Square Soft ตั้งใจจะปรับเรื่อง Graphics ใหม่หมดให้กลายเป็นระบบ 3D ทั้งหมด รวมถึงการสร้าง CG ในส่วนของเนื้อเรื่องทำให้ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บจำนวนมากทาง Square Soft จึงได้ตัดสินใจเลือก Sony Playstation ซึ่งถือว่าเป็น Console เจ้าใหม่ในขณะนั้น และก็ถือเป็นการเข้าสู่ยุคตกต่ำของ Nintendo สำหรับเครื่อง console ในขณะนั้น

โดย Final Fantasy ภาคที่ 7 นั้นถือว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการเกมส์ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ โดยได้มือออกแบบ Character อย่าง Tetsuya Nomura มาสร้างความสมจริงให้ตัวละครในเกมส์รวมถึงการดำเนินเรื่องที่ถือว่าน่าติดตามมากที่สุดเรื่องนึงใน Series Final Fantasy โดยได้ออกวางจำหน่ายในปี 1997 ซึ่งถือว่าเป็นเกมส์ที่ดันยอดขายเครื่อง Playstation ได้อย่างถล่มทลาย เนื่องจากคนต้องการที่จะเล่นเกมส์ Final Fantasy และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความยิิ่งใหญ่ของ Sony มาจนถึงปัจจุบันนี้

Final Fantasy VII กับการพา Sony Playstation ครองความยิ่งใหญ่ในวงการเกมได้สำเร็จ

Final Fantasy VII กับการพา Sony Playstation ครองความยิ่งใหญ่ในวงการเกมได้สำเร็จ

หลังจากนั้น 2 ปีก็ได้ออก Final Fantasy 8 มาโดยเริ่มสร้าง Graphics ที่สมจริงขึ้น โดยตัวละครก็เริ่มสมจริงยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของ Final Fantasy ในยุคนั้น ก่อนที่จะกลับมาเน้นในเรื่อง Fantasy อีกครั้งในภาคที่ 9 โดยยอดขายทั้ง 2 ภาคก็สามารถทำยอดขายได้อย่างสูงจนถือว่าเป็นวัฒนธรรมใหม่ของชาว Final Fantasy ไปแล้วสำหรับการต่อแถวเพื่อรอซื้อเกมส์ดังกล่าว โดยเป็นเพียงไม่กี่เกมส์ที่คนต้องมาต่อคิวยาวเหยียดเพื่อรอซื้อในวันเปิดขายในวันแรก ๆ

ด้วยผลงานที่พุ่งทะยานขึ้นเรื่อง ๆ ของ Square soft นั้นทำให้เกิดความมั่นใจจนได้แตกแขนงออกมาทำงานด้านหนัง โดยสร้าง Final Fantasy Spirit Within โดยใช้ทุนหลายล้านเหรียญ โดยมีความคาดหวังสูงว่าหนังน่าจะทำรายได้อย่างถล่มทลาย แต่แล้ว ก็ถือเป็นผลงานที่น่าผิดหวังครั้งแรกของ Square นับต้งแต่สร้าง Series Final Fantasy ขึ้นมา แฟนเกมส์ต่างสับสนในเนื้อเรื่องของหนัง ทำให้ไม่ถูกใจแฟนเกมส์ซักเท่าไหร่ และทำยอดขายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

Final Fantasy version ภาพยนต์ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

Final Fantasy version ภาพยนต์ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ก่อนที่จะก้าวสู่ยุคใหม่ของเครื่อง Console อย่าง Playstation 2 ก็สามารถกลับมาสร้างความมั่นใจอีกครั้่งจากผลงาน Final Fantasy 10 ที่ถูก Exclusive ใน Playstation 2  ก่อนที่จะมาปรับเป็นรูปแบบของ online ในภาค 11 โดยเน้นไปในโลกของ online ซึ่งถือว่ากำลัง hits มากในขณะนั้น

หลังจากนั้น ก็กลับมาจูบปากกับ Nintendo โดยออกภาค Final Fantasy Crystal Chronicles มาในเครื่อง Game Cube ซึ่งก็ถือว่าทำยอดขายไปได้พอสมควร หลังจากภาคนี้ ก็ออกภาคหลักกลับ console อย่าง Playstation มาโดยตลอดทั้งใน ภาค 12 -13 และผลงานก็ถือว่ายอดขายเป็นไปได้ด้วยดีมาตลอด มีแฟนเกมส์มากมายอยูทั่วโลก

จะเห็นได้ว่าประวัติของ Final Fantasy นั้นไม่ธรรมดาเป็นเกมส์หนึ่งที่มีผลต่อยอดขายของเครื่อง Console โดยตรง และเป็นเกมส์ที่สร้าง console อย่าง playstation ให้มาแพร่หลายอย่างในปัจจุบัน และเป็นเกมส์ที่ทำให้ Nintendo ไม่สามารถที่จะกลับมาแข่งขันในเครื่อง console ได้ในช่วงหลังหลังจากเครื่อง Super Famicom เราจะเห็น ได้ว่าถ้าเป็น Brand ก็ถือว่า Final Fantasy เป็น Brand ที่มีอิทธิพลมหาศาลต่อแฟนเกมส์ทั่วโลกจนนับได้ว่าเป็นวัฒนธรรมอย่างนึงจวบจนถึงปัจจุบัน

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol