Geek Forever

ด.ดล Blog

Open Your World with Technology. เปิดโลกใบใหม่ของคุณ ด้วยเรื่องราวของเทคโนโลยี ( Business x Technology x Inspirational Stories )

HOME

  • ABOUT ME
  • BECOME A SUPPORTER
  • CONTACT
  • EDITORS ‘ PICKS
  • PODCAST

Categories

  • Advertorial
  • AI & Robot
  • Bitcoin
  • Blockchain
  • Blog Series
  • Books
  • Business
  • Cars
  • Case Study
  • COVID-19
  • Deep Learning
  • Digital Music War
  • Documentary
  • Entertainment
  • Entrepreneurship
  • Failed Startup
  • Football Product
  • Games
  • Geek China
  • Geek Daily
  • Geek Life
  • Geek Monday
  • Geek Story
  • Geek Talk
  • Healthcare
  • Home & Garden
  • Investment
  • JT 8704
  • Life of Pine
  • Lifestyle
  • Machine Learning
  • Marketing
  • Movies
  • Paypal Mafia
  • PodCast
  • Political
  • Popular Blog
  • Products
  • Programming
  • Recommendations
  • Review
  • Sci & Tech
  • Search War
  • Self Help
  • Series
  • Smartphone War
  • Sport
  • Startup
  • Story
  • The Story
  • Tokyo in the Rain
  • Trading
  • Travel
  • World War III
  • ประวัติ Bill Gates
  • ประวัติ Bitcoin
  • ประวัติ Elon Musk
  • ประวัติ Google
  • ประวัติ iPod
  • ประวัติ Jack Ma
  • ประวัติ Jeff Bezos
  • ประวัติ Jho Low
  • ประวัติ mark zuckerberg
  • ประวัติ MBS
  • ประวัติ Netflix
  • ประวัติ Netscape
  • ประวัติ Reed Hastings
  • ประวัติ Reid Hoffman
  • ประวัติ Steve Jobs
  • ประวัติ Tim Cook
  • ประวัติ Twitter
  • ประวัติ Youtube
  • แบบบ้านสวย

Archives

  • February 2021
  • January 2021
  • December 2020
  • November 2020
  • October 2020
  • September 2020
  • August 2020
  • July 2020
  • June 2020
  • May 2020
  • April 2020
  • March 2020
  • February 2020
  • January 2020
  • December 2019
  • November 2019
  • October 2019
  • September 2019
  • August 2019
  • July 2019
  • June 2019
  • May 2019
  • April 2019
  • March 2019
  • February 2019
  • January 2019
  • December 2018
  • November 2018
  • October 2018
  • September 2018
  • August 2018
  • May 2018
  • January 2018
  • December 2017
  • November 2017
  • October 2017
  • September 2017
  • August 2017
  • July 2017
  • June 2017
  • May 2017
  • April 2017
  • March 2017
  • February 2017
  • September 2016
  • June 2016
  • April 2016
  • March 2016
  • February 2016
  • January 2016
  • December 2015
  • October 2015
  • September 2015
  • May 2015
  • April 2015
  • March 2015
  • February 2015
  • December 2014
  • November 2014
  • October 2014
  • September 2014
  • August 2014
  • April 2014
  • March 2014
  • February 2014
  • January 2014

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

Tag Archives: friend

ประวัติ mark zuckerberg ตอนที่ 11 : Relationship Status

By tharadhol in Books, Investment, Marketing, Programming, Sci & Tech, Startup, Story December 3, 2018

เผลอไปเพียงแป๊บเดียว สมาชิกของ facebook ก็เพิ่มจำนวนขึ้นจากหนึ่งล้านกลายเป็นสองล้านคนอย่างรวดเร็วด้วยอัตราเร่งที่ทุกคนตกใจ และกำลังมุ่งหน้าสู่ 3 ล้านในเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้ facebook ไม่ใช่แค่เป็น website น้องใหม่ในตลาด social network อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้กำลังเป็นเครือข่ายสังคมที่ทุกคนทั่วอเมริกากำลังพูดถึง กำลังแพร่ระบาดเหมือนไวรัส ไปยังมหาลัยต่าง ๆ ทั่วอเมริการกว่า 500 แห่ง สื่อเริ่มทำข่าวการเติบโตที่น่าทึ่งของ facebook มีการตามล่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เพื่อมาสัมภาษณ์ทางทีวี หนังสือพิมต่างประโคมข่าว การแจ้งเกิดของ เว๊บไซต์ social network น้องใหม่ตัวนี้

แต่อย่าไรก็ตามนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 2 ระหว่าง มาร์ค กับ เอดูอาร์โด นั้น แทบไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันเลย มีแต่โทรศัพท์จากทนาย ที่มาร้องขอคำขอแปลก ๆ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อในนิวยอร์ค ที่ เอดูอาร์โด ได้ไปหาสปอนเซอร์ ในช่วงก่อนหน้านี้ หรือ รายชื่อ ของธุรกิจ ที่มีโอกาสที่จะลงโฆษณากับ facebook ที่ เอดูอาร์โด เคยติดต่อไว้

เริ่มตะหงิด ๆ ใจอีกครั้ง

เริ่มตะหงิด ๆ ใจอีกครั้ง

ดูแล้วเอดูอาร์โด จะเหินห่างจากทีมงานที่ ซิลิกอน วัลเลย์ อย่างมาก สำหรับในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา  และในที่สุดก็มีการติดต่อมาจากมาร์ค จนได้ ที่ขอให้เอดูอาร์โด เดินทางมาที่ ซิลิกอน วัลเลย์ ซึ่งจะมีการประชุมธุรกิจที่สำคัญบางอย่าง เกี่ยวข้องกับ การว่าจ้างพนักงานใหม่ ที่เอดูอาร์โด จำเป็นทำการฝึกงานให้

ซึ่งในเมล์นั้น มีข้อความหลายอย่าง ที่ทำให้ เอดูอาร์โด รู้สึกตะหงิด ๆ ใจอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง นักลงทุนใหญ่อย่าง เซคัวเอีย แคปปิตอล กองทุน VC ที่ใหญ่ที่สุดใน ซิลิกอน วัลเลย์ ที่บริหารโดยคู่ปรับ เก่าของฌอน อย่าง ไมเคิล มอริตซ์

ไมเคิล มัวริตซ์ ที่จ้องจะลงทุนใน facebook ให้ได้

ไมเคิล มัวริตซ์ ที่จ้องจะลงทุนใน facebook ให้ได้

รวมถึงยังมีบริษัทสื่อ อย่าง ดอน เกรแฮม ซีอีโอ ของ วอชิงตัน โพสต์ ก็ให้ความสนใจในการร่วมลงทุน กับ facebook เช่นเดียวกัน  ซึ่งตอนนี้ เหล่า VC ทั่วทั้ง ซิลิกอนวัลเลย์ ทั้งเล็กใหญ่ นั้นต่างมารุมตอม เพื่อรอโอกาสในการลงทุนกับ facebook โดยที่ไม่อยากตกขบวนนี้ กันทั้งหมด เรียกว่าตอนนี้ facebook นั้นเป็นต่ออยู่อย่างมาก เนื้อหอมจนสามารถเลือกผู้ที่จะร่วมลงทุนได้เอง

ดอน เกรแฮม ceo วอชิงตันโพสต์ ก็สนใจจะลงทุนกับมาร์ค

ดอน เกรแฮม ceo วอชิงตันโพสต์ ก็สนใจจะลงทุนกับมาร์ค

แต่ที่เอดูอาร์โดนั้น รู้สึกประหลาดใจที่สุด น่าจะเป็น เรื่องที่มาร์คแจ้งมาว่า ทางตัว มาร์ค , ฌอน และ ดัสติน  นั้นกำลังจะขายหุ้นออกไปประมาณคนละ 2 ล้านดอลลาร์ นี่เป็นจุดที่น่าจะสะกิดใจ เอดูอาร์โดที่สุด เค้าคิดว่า ทำไมในรายละเอียดของเค้าที่ได้เซ็นต์ไปนั้นไม่สามารถขายหุ้นของตัวเองได้ในเร็ว ๆ นี้อย่างที่มาร์ค , ฌอน และ ดัสติน กำลังจะทำได้อย่างแน่นอน

แล้วเอกสารที่เค้าเซ็นต์ไปในรอบที่แล้วนั้น มันไม่ใช่รูปแบบเดียวกับที่มาร์ค , ฌอน รวมถึง ดัสติน ได้เซ็นต์ไปหรือ?  และที่ไม่แฟร์ที่สุดคือ ทำไม ฌอน ที่มาหลังสุด ถึงสามารถทำเงินจาก facebook ได้แล้วถึง 2 ล้านเหรียญทั้งที่มาร่วมงานกับ facebook จริง ๆ จัง ๆ เพียงแค่ 3-4 เดือนเพียงเท่านั้น มันต้องมีอะไรที่ผิดปรกติอย่างแน่นอน

Relationship Status

มันเป็นวันที่ เอดูอาร์โด จะจดจำไปตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ กับการได้เห็นเอกสารที่ทางทนาย ได้ส่งให้ ในขณะเดินเข้ามาที่ ออฟฟิส ใหม่ของ facebook

นี่เป็นสำนักงานใหม่ ที่เป็นบริษัทจริง ๆ ครั้งแรกของ facebook ตั้งอยู่ใจกลาง ย่านธุรกิจของ พาโล อัลโต โต๊ะทำงานถูกสั่งซื้่อใหม่เอี่ยมทั้่งหมด ไม่มี โต๊ะเก่า ๆ ที่ซื้อมือสองจาก เครกลิสต์ อีกต่อไป

ออฟฟิสใหม่ที่ทำให้บริษัทเป็นมือถาชีพมายิ่งขึ้น

ออฟฟิสใหม่ที่ทำให้บริษัทเป็นมือถาชีพมายิ่งขึ้น

แถมยังมีการตกแต่งอย่างหรูหรา มีทั้งภาพกราฟิตี้ ที่ให้ศิลปินท้องถิ่น วาดให้เป็นจุดเด่นของ ออฟฟิสแห่งนี้

ทนายคนใหม่ ที่อยู่ระหว่าง เอดูอาร์โด และ มาร์ค ซึ่งก็เหมือน ทุก ๆครั้ง มาร์ค แทบจะไม่สนใจอะไร นั่งอยู่แต่หน้าจอคอม เขียนแต่โค้ด เพื่อกลบเกลื่อนทุกสิ่ง

ซึ่งหลังจากเอดูอาร์โด ได้อ่าน เนื้อหาในเอกสารต่าง ๆ  มันไม่เกี่ยวอะไรกับที่มาร์คอ้างเลย ที่บอกให้มาเรื่องประชุมธุรกิจ หรือ การเทรนพนักงานใหม่ อะไรทั้งสิ้น

มันคือการหักหลัง มันคือการลอบทำร้าย กันชัด ๆ เอดูอาร์โด ต้องใช้เวลาหลายนาทีในการทำความเข้าใจเอกสารทั้งหมด

ทำให้เค้าได้รู้ตัวว่า เค้ากำลังโดนหยามอย่างที่สุด มันเหมือน ถูกยิงเข้าที่กลางอกไม่มีผิด มันไม่สามารถบรรยายอะไรได้เลย กับความรู้สึกเช่นนี้ เขาเสียท่า เสียรู้ เขาควรจะรู้ตัวก่อนหน้านี้ซะอีก มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง

แต่เค้าเพียงไม่คิดว่า มันจะมาจาก มาร์ค มาจากเพื่อนสนิท เขาแทบจะเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมาร์ค ตอนที่อยู่ ฮาร์วาร์ด ร่วมกันต่อสู้ฝ่าฟัน มาทุกอย่างตั้งแต่เริ่ม

มันคือการทรยศชัด ๆ ทรยศต่อความไว้ใจของเพื่อน มาร์คทรยศเขา ทำลายเขา และชัดเจนว่า ต้องการเอาทุกสิ่งไปทั้งหมด ทุกอย่างมันชัดเจนในเอกสารทั้งหมดที่อยู่ในมือเขานั่นแหละ

มีการเพิ่มหุ้นสามัญ จำนวน 19 ล้านหุ้น หลังจากนั้นมีการออกหุ้น อีกจำนวนถึงกว่า 20 ล้านหุ้น  และมีการอนุมัติ ให้มีการจัดสรรหุ้นมเพิ่มเติมให้กับ มาร์ค 3.3 ล้านหุ้นให้กับมาร์ค ส่วน ฌอน และ ดัสติน คนละ 2 ล้านหุ้น

ปรับเปลี่ยนสัดส่วนผู้ถือหุ้นหากมีนักลงทุนใหม่เรื่อย ๆ จนสัดส่วนของเอดูอาร์โด ลดลงเรื่อย ๆ

ปรับเปลี่ยนสัดส่วนผู้ถือหุ้นหากมีนักลงทุนใหม่เรื่อย ๆ จนสัดส่วนของเอดูอาร์โด ลดลงเรื่อย ๆ  (ภาพตัวอย่าง)

ซึ่งทำให้ตอนนี้ เอดูอาร์ดา เหลือหุ้นแทบจะไม่ถึง 10% และหากมีการกระทำอย่างงี้ต่อไปอีกโดยการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ไปเรื่อย ๆ สัดส่วนหุ้นของเขาจะถูกลดจนแทบจะเหลือ 0%  ซึ่งแน่นอน ต่อจากนี้ไปเขาไม่เซ็นต์อะไรทั้งสิ้น ไม่ ๆ  ๆ ๆ คำเดียวเท่านั้น และ ประกาศก้องให้มาร์ค กับทุกคนใน office นี้รู้ว่า เค้าจะมาเอาคืน ไม่ใช่ เพียงแค่ 30% แต่จะกลับมาเอาคืนทั้งหมดที่มาร์คทำไว้อย่างเจ็บแสบอย่างแน่นอน

ถ้าใครยังจำตอนแรก ๆ ที่เปิด thefacebook เราจะเห็นได้ว่า features สำคัญที่สุดของ thefacebook ที่เป็นจุดสำคัญในการแจ้งเกิดเลย ก็ คือ Relationship Status ที่เหมือน ป้ายห้อยคอ บอกสถานะ ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร เป็นการขับเคลื่อนชีวิตในมหาลัย

จากเพื่อนกลายเป็นศัตรูในที่สุด

จากเพื่อนกลายเป็นศัตรูในที่สุด

แต่ตอนนี้ Relationship Status ระหว่าง ผู้ก่อตั้งทั้งสอง ระหว่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อัจฉริยะ ด้านคอมพิวเตอร์ กับ เอดูอาร์โด ซาวาริน ผู้ซึ่งเหมือนเป็นคนลงทุนก่อร่าง สร้าง thefacebook มาตั้งแต่วันแรก ๆ แต่วันนี้ เค้าถูกเพื่อนที่เค้าคิดว่าเป็นเพื่อนรัก ทรยศ ไม่ว่ามาร์ค จะไปปรึกษาใคร มาก็ตาม แต่สุดท้ายการตัดสินใจสุดท้ายที่ทำอย่างงี้กับ เอดูอาร์โด ก็คือ มาร์ค อยู่ดี

ตอนนี้ Relationship Status ของทั้งคู่ได้เปลี่ยนจากคำว่า Friend เป็น Enemy หรือศัตรูอย่างแท้จริงแล้ว บทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 12 : From God to Devil

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 : Facemash (The Beginning) *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol

ประวัติ mark zuckerberg ตอนที่ 8 : Friend or Enemy?

By tharadhol in Books, Business, Investment, Marketing, Programming, Sci & Tech, Startup, Story December 3, 2018

อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนก่อนหน้า ที่ตอนนี้สถานะของ เอดูอาร์โด ใน thefacebook เริ่มจะสั่นคลอน เมื่อ ฌอน เข้าไปร่วมทีมกับมาร์ค ที่ซิลิกอน วัลเลย์ เพื่อจะพา thefacebook ก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งให้ได้ จากบริษัทที่เริ่มต้นในหอพักของ มหาลัย ฮาร์วาร์ด ตอนนี้ thefacebook กำลังเป็นที่หมายตาของนักลงทุนทั่วซิลิกอนวัลเลย์ ที่ต้องการที่จะเข้ามาร่วมลงทุน

เรียกได้ว่าตอนนี้ thefacebook เป็นบริษัทเนื้อหอมที่ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังได้กลิ่นเงิน ที่ thefacebook จะเจริญรอยตามความสำเร็จของบริษัทรุ่นพี่ อย่าง yahoo หรือ google ทำได้

thefacebook กำลังเนื้อหอมดึงดูดนักลงทุน

thefacebook กำลังเนื้อหอมดึงดูดนักลงทุน

ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับ ฌอน ในการพามาร์ค ไปหานักลงทุนเหล่านี้ เพราะความกว้างขวางของ ตัว ฌอน เอง และประสบการณ์ที่แสนเจ็บช้ำจากบริษัทก่อนหน้าอย่าง napster และ plexo นั้น ทำให้ ฌอน มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษามาร์ค เพื่อเลือกบริษัทลงทุนที่ถูกต้อง และต้องปกป้องตัวเอง ไม่ให้โดนถีบจากบริษัทที่สร้างมาด้วยมือตัวเองอีกครั้ง

เอดูอาร์โด นั้นก็เริ่มรู้สึกตะหงิดใจ หลังจากที่รู้ว่า ฌอนได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษามาร์ค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาร์ค เริ่มสาธยายถึงการได้ไปปาร์ตี้เพื่อนัดพบเหล่านักลงทุนที่สนใจ thefacebook เป็นจำนวนมาก และอยากให้ เอดูอาร์โดนั้นรีบทิ้งนิวยอร์ค แล้วกลับมาที่ ซิลิกอน วัลเลย์โดยด่วน

ปาร์ตี้ พบเหล่านักลงทุนเป็นเรื่องปรกติใน silicon valley

ปาร์ตี้ พบเหล่านักลงทุนเป็นเรื่องปรกติใน silicon valley

แม้ความเป็นจริงแล้ว เอดูอาร์โด จะลาออกจากฝึกงานตั้งแต่ไม่กี่วันแรก เพื่อทุ่มเทในการหาโฆษณา เพื่อมาลง thefacebook เพื่อมาช่วยพยุงรายจ่าย ที่จะเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก ๆ ของ thefacebook

เอดูอาร์โด ยังมองว่าตัวเองเป็น CFO ของ thefacebook และดูแลเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจของ thefacebook อยู่ แต่ดูแล้วฝั่งมาร์คนั้น มองสิ่งที่ เอดูอาร์โดทำเป็นเรื่องที่ไร้สาระไปเสียแล้ว เพราะเม็ดเงินที่ ซิลิกอน วัลเลย์ ที่ได้พูดคุยกับเหล่านักลงทุนจำนวนมากนั้น ทำให้มาร์ค เห็นศักยภาพที่ thefacebook นั้นจะกลายเป็นบริษัทพันล้านเหรียญได้อย่างแน่นอน

เมื่อเพื่อนรักเริ่มแตกคอ

เราเริ่มได้เห็นรอยร้าว ระหว่างทั้งสองเริ่มเกิดขึ้น ทั้งสองเริ่มมีความคิดต่างกันในการนำพา thefacebook ไปข้างหน้า มันไม่ใช่เพราะฌอน เพียงอย่างเดียว แต่ดูเหมือน เอดูอาร์โด นั้นก็จะยึดมั่นในสัดส่วนที่ตัวเองถือหุ้น 30% รวมถึง การรับมอบตำแหน่งให้ดูแลเรื่องธุรกิจ ตามที่ได้ตกลงไว้เมื่อก่อตั้ง thefacebook ครั้งแรกที่ ฮาร์วาร์ด

เอดูอาร์โด เริ่มไม่พอใจที่มาร์ค ที่ให้ฌอน นัดแนะ ไปพบเหล่านักลงทุนต่าง ๆ โดยไม่มีเขาอยู่ด้วย เพราะเขาเป็นผู้ดูแลเรื่องธุรกิจของ thefacebook ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งบริษัท ซึ่งเอดูอาร์โด มองว่าต้องยึดมั่นตรงนั้น หากต้องการทำธุรกิจร่วมกัน แล้วที่สำคัญ ฌอนนั้นเป็นแค่ที่ปรึกษา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทเลยด้วยซ้ำ และมาร์ค ก็ควรจะทำหน้าที่ของตัวเองคือดูแลส่วนของเทคโนโลยี หรือ การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ  แทน และให้ตัวเขานั้นจัดการเรื่องธุรกิจทั้งหมด

จุดแตกหัก

หลังจากเริ่มที่จะคุยกันไม่รู้เรื่องนั้น และด้วยความโมโห ที่มาร์ค ไม่สนใจในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ที่นิวยอร์ก เลย จึงได้เริ่มเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง เพื่อยืนยันในสิทธิ์ทุกอย่างของเขา ใน thefacebook โดยชี้ให้มาร์คเห็นว่าเขานั้น เป็นผู้ทำหน้าที่หลักด้านธุรกิจของบริษัท และถือหุ้นอยู่ 30% ของบริษัท

เขาต้องทำทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มาร์คได้ยอมรับความจริงในข้อนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มาร์คไปรับข้อเสนอทางการเงินจากนักลงทุน ที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเขา และยืนยันในสิ่งที่เขากำลังทำที่นิวยอร์ก นั้นเป็นเรื่องเหมาะสม

มาร์คต้องการให้เอดูอาร์โด ย้ายมาซิลิกอน วัลเลย์ โดยด่วนที่สุด

มาร์คต้องการให้เอดูอาร์โด ย้ายมาซิลิกอน วัลเลย์ โดยด่วนที่สุด

แต่หลังจากที่มาร์คได้รับจดหมายจาก เอดูอาร์โดนั้น  ก็ยังยืนยันจะให้ เอดูอาร์โด ย้ายมาที่ซิลิกอน วัลเลย์ โดยด่วนที่สุด และเริ่มเล่าเรื่องที่ได้ไปพบนักลงทุนที่น่าสนใจ ที่จะให้เงินก้อนสำหรับ thefacebook เพื่อให้รองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบนี้ต่อไปได้ เขายืนยันว่า thefacebook ต้องการเงินก้อนนั้นโดยด่วน เพราะกำลังเข้าสู่ภาวะที่เงินใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว และไม่สามารถที่จะรองรับการเติบโตได้อีกต่อไป เนื่องจากยิ่งขยาย ก็ต้องใช้เงินทุนเพิ่ม ต้องจ้างคนเพิ่มเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ได้ ต้องหาเงินทุนโดยด่วน

ฝั่งเอดูอาร์โด เมื่อได้รับ message กลับมาอย่างงี้นั้น ก็มองว่า มาร์ค ไม่ได้สนใจประเด็นที่เขาต้องการจะสื่อ เลย โดยเฉพาะเรื่องการพบปะกับนักลงทุนเพื่อคุยเรื่องธุรกิจโดยไม่มีเขา

ซึ่งมันถึงเวลาแล้วที่ เอดูอาร์โด ต้องทำอะไรซักอย่าง โดยสามวันหลังจากการคุยครั้งล่าสุด ที่ตกลงกันไม่ได้ ด้วยความโมโห จึงได้ทำอะไรที่ไม่ยั้งคิด คือการอายัดบัญชีทั้งหมด รวมถึงยกเลิกเช็คทั้งหมดของ thefacebook ที่มาร์ค ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจที่ ซิลิกอน วัลเลย์

เอดูอาร์โด ต้องทำอะไรซักอย่างให้มาร์คกลับมาสนใจ

เอดูอาร์โด ต้องทำอะไรซักอย่างให้มาร์คกลับมาสนใจ

แม้เขาจะรู้ว่านี่มันเริ่มที่จะล้ำเส้น แต่ มันต้องทำเพื่อให้มาร์ค ได้รับรู้ว่า เค้าเป็นคนออกเงินทุนหลัก มาร์ค และทีม ที่สามารถอยู่ได้ใน ซิลิกอน วัลเลย์ นั้นเพราะเงินของเขาแทบจะทั้งสิ้น  แต่สิ่งที่ เอดูอาร์โด ลืมคิดไปคือ การที่ทำอย่างงี้ มันเสี่ยงต่อสถานะ ที่ thefacebook ที่จะถูก shutdown ได้หากไม่มีเงินมาจ่ายค่า server รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในบริษัท มันเป็นการนำพาบริษัทไปสู่จุดเสี่ยงโดยใช่เหตุ การที่ thefacebook down เพียงแค่ไม่กี่นาที ก็มีผลต่อ user ที่จะหนีไปใช้ระบบอื่นได้ เหมือนที่ friendster เคยโดนมาแล้ว

thefacebook มีความเสี่ยงที่จะหยุดทำงาน

thefacebook มีความเสี่ยงที่จะหยุดทำงาน

สถานการณ์ตอนนี้ของ thefacebook ถือว่าล่อแหลมมาก ทุกอย่างมันกดดันหมด จำนวนผู้ใช้งานก็โตขึ้นเรื่อย ๆ แถมเงินที่มีก็เริ่มร่อยหรอลงไปทุกที ไม่ต้องฝันถึงรายได้ที่ตอนนี้ยังไม่มีการหารายได้ที่ชัดเจน มีสิ่งเดียวที่ทำได้คือการหานักลงทุนมาเข้าร่วมลงทุน เพื่อทำ thefacebook ให้มันเดินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ก่อตั้งทั้งสอง มันคงถึงจุดแตกหักแล้วจริง ๆ สำหรับ มาร์ค และ เอดูอาร์โด การไม่คุยกันให้เคลียร์ รวมถึงการตัดสินใจที่ ไม่ได้คิดให้รอบคอบของ เอดูอาร์โด ครั้งนี้แหละ เป็นจุดสำคัญที่ ทำให้มาร์ค นั้นเปลี่ยนไป มันคงถึงเวลาแล้วที่ มาร์ค จะต้องนำพา thefacebook ก้าวข้ามต่อไปด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเอดูอาร์โด อีกต่อไปแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับ thefacebook ในช่วงเวลาที่บีบคั้นเช่นนี้ มาร์คจะนำพาบริษัทไปทางไหน ฌอนจะได้ผลประโยชน์อะไรจากการตัดสินใจครั้งนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 9 : Facebook, Inc.

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 : Facemash (The Beginning) *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol

Search

  • POSTS
  • TAGS

POSTS

  • Geek Story EP84 : Digital Music War (ตอนที่ 5)
  • Geek Story EP83 : Digital Music War (ตอนที่ 4)
  • เด็กหนุ่มวัย 28 ปี กับการเปลี่ยนแนวคิดธุรกิจเช่าช่วง สู่การสร้างสตาร์ทอัพพันล้านอย่าง Sonder
  • Geek Story EP82 : Digital Music War (ตอนที่ 3)
  • Bill Gates เตือน ถ้าคุณไม่รวยอย่าง Elon Musk ก็อย่าไปเสี่ยงกับ Bitcoin ช่วงตลาดบูม

TAGS

AI alibaba amazon android apple big data bill gates CoronaVirus Covid19 ebay elon musk facebook google huawei iphone ipod jack ma machine learning mark zuckerberg microsoft netscape paypal paypal mafia peter thiel Robot samsung SpaceX startup steve jobs Tesla ประวัติ alibaba ประวัติ alipay ประวัติ Elon Musk ประวัติ facebook ประวัติ google ประวัติ Jack Ma ประวัติ Larry Page ประวัติ mark zuckerberg ประวัติ paypal ประวัติ อีลอน มัสก์ ประวัติ แจ๊ค หม่า สตีฟ จ๊อบส์ หุ่นยนต์ แจ๊ค หม่า โคโรน่าไวรัส
February 2021
M T W T F S S
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
« Jan    
Proudly powered by WordPress. Theme: DW Minion by DesignWall.

อย่าลืมช่วยกด Like เพจกันด้วยนะคร้าบ!


This will close in 320 seconds