Movie Review : Before We Go

Review
ไม่ได้ดูหนังแนว Feel Good ของฝรั่งมาพักใหญ่จนมาได้ดูหนังเรื่องนี้ Before We Go ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่า Chris Evans นั้นกำกับเอง เพิ่งมาดูข้อมูลตอนหลัง ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเรื่องนึงทีเดียวสำหรับผลงานด้านการกำกับของ Chris Evans

สำหรับ Before We Go นั้น นำแสดงโดย Chris Evans ที่ควบบทดารานำชายเอง โดยเล่นคู่กับ Alice Eve ซึ่งเป็นหนังแนว โรแมนติกผสม comedy ถือว่าเป็นหนัง style GTH ของไทยเลยก็ว่าได้สำหรับเรื่อง Before We Go โดยเนื่องเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก Alice Eve ที่รับบทเป็น ฺBrooke Daltan นั้น ได้ทำกระเป๋าสูญหาย ในบาร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ซึ่งเค้าพยายามที่จะกลับบ้านไปที่ Boston ให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายแต่เค้าไปไม่ทัน จึงไม่สามารถกลับบ้านได้ จนมาเจอกับพระเอกคือ Chris Evans ที่รับบท Nick Vaughan หนุ่มนักทรัมเป็ต ที่เล่นอยู่ที่สถานีรถไฟ และเนื่องด้วยการช่วยเหลือของ Nick ก็ทำให้เกิดเรื่องราวๆ  ต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย ตามฉบับหนัง Romantic Comedy แต่เรื่องนี้ดูแล้วคุณจะยิ้มไปตลอดทั้งเรื่อง โดยส่วนตัวชอบการแสดงของ Alice Eve ในเรื่องนี้เธอแสดงได้ดีมากเรื่องนึง หนุ่ม ๆ หลาย ๆ คนคงหลงไหลเธอจากหนังเรื่องนี้แน่ๆ  ก็ไม่ทำให้ผิดหวังสำหรับหนังเรื่อง Before We Go นั้นผมก็แนะนำให้หามาดูไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

เก็บตกจากหนัง

  • เรื่องนี้ Chris Evans รับบทกำกับเอง และนำแสดงเอง
  • เป็นหนัง Feel Goods ที่ดูแล้วคุณจะยิ้มตามไปตลอดทั้งเรื่อง

คะแนน

8/10


สรุป
“ดูเรื่องนี้แล้วจะหลงรัก Alice Eve เพิ่มขึ้นแน่นอน”

Movie Review : ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ


Review

ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกในปีนี้ของค่าย GTH เลยทีเดียวสำหรับ ฟรีแลนซ์… ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ  ผลงานของผู้กำกับ indy มากฝีมืออย่าง เต่อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์  ที่ได้ฝากผลงานที่กวาดรางวัลอย่าง Mary is happy, Marry is happy  ซึ่งเป็นหนังที่ออกไปในแนว indy เฉพาะกลุ่ม  รวมถึงเคยฝากผลงานการเขียนบทของหนังในค่าย GTH อย่าง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ และ ท๊อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน  ที่สามารถกวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลายมาแล้ว

สำหรับเต๋อ นั้นเป็น ผู้กำกับรุ่นใหม่มากความสามารถที่รอการพิสูจน์ผลงานกับหนัง Main Stream ซึ่งก็ถือว่าเรื่อง ฟรีแลนซ์..  นี้ถือเป็นหนังเรื่องแรกที่เต๋อทำหนังที่เป็น Main Stream เข้าถึงผู้คนมาก ๆ ไม่เหมือนหนังสั้น หรือ หนัง indy ที่เขาเคยทำมา  ผลงานในเรื่องนี้  ได้นักแสดงนำอย่าง  ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์  , ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ รวมถึง สาวนักร้องมากความสามารถอย่าง วิโอเลต วอเทียร์  ที่มารับบทบาทการแสดงหนังใหญ่ครั้งแรกของเธอ

คือถ้ามองในแง่ของกระแสของหนังเรื่องนี้ถือว่าได้ทำการ โปรโมตมาก่อนหน้าพอสมควรทำให้ผู้คนทั่วไปค่อนข้างคาดหวังกับหนัง GTH เรื่องนี้ และเนื่องจากแฟนหนัง GTH ส่วนใหญ่นั้นก็จะชอบหนังแนว feel good ของ GTH ที่มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังซึ่งแทบจะเป็น pattern การทำหนังของ GTH เลยก็ว่าได้ทำให้สามารถกวาดรายได้ไปอย่างงดงามตลอดหลายปีที่ผ่านมา  แต่กับ ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ นั้น ถ้าเราดูจาก Trailer นั้นทุกคนคงคิดว่าคงเป็นหนังแนวเดียวกับ atm error errรัก หรือ  ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้  ที่ซันนี่แสดงมาก่อนหน้านี้ และทำรายได้ไปอย่างถล่มทลาย  แต่กลับกัน หนังเรื่องนี้ เป็นส่วนผสมของความเป็นหนัง main stream หรือหนังตลาด fell good ของ GTH กับแนว indy ที่ เต๋อถนัด

จาก feedback ของหนังตาม social network ต่างๆ  เราจะเห็นได้ว่าจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบหนังเรื่องนี้ของเต๋อ เนื่องจากการโปรโมตมาก่อนหน้านั้นทำให้แฟน GTH หลายคนคงคาดหวังกับหนังอีกแบบ แต่โดยส่วนตัวนั้นถือได้ว่า GTH นั้นได้ก้าวข้ามจุด comfort zone ของตัวเองออกมาผ่านหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการแสดงความกล้าหาญอย่างยิ่งที่ได้ทำหนังที่แตกต่างจาก pattern เดิม ๆ ของ GTH ซึ่งก็คิดว่าแฟนหนังหลาย ๆ คนอาจจะผิดหวัง แต่ถ้าดูจากเนื้อหนังจริง ๆ แล้วนั้น หนังเรื่องนี้ได้แสดงถึงความดิบของการแสดงในบทบาท ฟรีแลนซ์ , หรือ หมอ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคนในสายงานดังกล่าวน่าจะอินกับการแสดงของหนังเรื่องนีได้เป็นอย่างดี ซึ่งผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่เข้าใจว่าหนังต้องการสื่อถึงอะไร เนื่องจากผ่านการทำงานแบบฟรีแลนซ์มาก่อน รวมถึง เคยป่วยเนื่องจากการทำงานหนักแบบหนังเรื่องนี้มาแล้ว และต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐ ( ประกันสังคมทำไว้)  ทำให้เข้าใจแต่ละจุดที่หนังต้องการสื่อได้อย่างดี ถึงถือว่าหนังเรื่องถ่ายทอดเรื่องราวความเป็น ฟรีแลนซ์ หรือ เรื่องราวของหมอได้ออกมาดีมาก ๆ คือ เข้าใจถึงบทบาทอย่างแท้จริง ซึ่งคิดว่าน่าจะมาจากประสบการณ์ตรงของ เต๋อ ที่เคยผ่านการเป็น ฟรีแลนซ์มาก่อน

ซึ่งอีกส่วนหนึ่งที่ต้องขอชมคือการแสดงของนักแสดงทุกคน ทั้ง ซันนี่ , ใหม่ รวมถึง วี ไวโอเลต นั้นสามารถเข้าถึงบทบาทได้อย่างดีเยี่ยมถือว่าได้ทำการบ้านส่วนนี้มาดีมาก ๆ ถึงแม้หนังจะดูเหมือนเอื่อย ไม่ค่อยมีมุกตลกเข้ามาซักเท่าไหร่ ซึ่งแตกต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ  ของ GTH แต่ก็ถือว่าได้ว่าเป็นหนังทดลองของ GTH ที่น่าจะประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้  รวมถึงในแง่บทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ได้อย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของค่าย GTH ที่กล้าที่จะสลัดภาพเดิม ๆ ของหนังออกมาได้อย่างดี ซึ่งโดยส่วนตัวถือว่าชอบหนังเรื่องมาก ก็ขอให้แนะนำเข้าไปดูกันเยอะ ๆ ให้รายได้ทะลุ 100 ล้านเพื่อให้ GTH ผลิตหนังคุณภาพที่มีความแตกต่างออกมาเยอะ ๆ เพื่อแฟนหนังจะได้เห็นหนังรูปแบบใหม่ ๆ ของ GTH บ้าง

เก็บตกจากหนัง

  • trailer ของหนังค่อนข้างหลอกคนดูว่าจะเป็นหนังแนวเดิมของ GTH
  • วี ไวโอเลต นั้นแสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และถือได้ว่าสอบผ่านอย่างยิ่งสำหรับบทบาทของเจ๋
  • หนังค่อนข้างมีจุดกึ่งกลางระหว่างความเป็น indy กับ หนัง main stream ได้อย่างดี

คะแนน

9/10


สรุป
“เหมาะกับการเปิดประสบการณ์ใหม่  ๆ กับหนังของ GTH”