AI Shopping ใหม่ที่ทำให้ Facebook รู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไรอยู่

การหาแฟชั่นที่เหมาะกับสไตล์ของนักช็อป อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ด้วยความหลากหลายของการค้าออนไลน์ที่เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คุณสามารถเห็นการแสดงสินค้าของสิ่งที่คุณต้องการเพียงเท่านั้น

แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นประสบการณ์ในโลกออนไลน์จะมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่น่าหงุดหงิดและไม่ตรงตามความต้องการของเรา เป็นครั้งคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซื้อสินค้ามือสอง 

และนั่นเป็นปัญหาที่ Facebook พยายามแก้ไขอยู่ด้วยระบบ Computer Vision ที่มีชื่อว่า GrokNet ตัวใหม่ของ Facebook ที่สามารถแปลงภาพถ่ายใด ๆ ให้กลายเป็นโอกาสในการช็อปปิ้งได้

GrokNet ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการช็อปปิ้งและสามารถระบุแอตทริบิวต์ – สีพื้นผิว ลวดลาย หรือสไตล์ ของสินค้าที่แสดงในโลกออนไลน์ได้

สิ่งนี้ช่วยให้ระบบสามารถแนะนำคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ให้ผู้ขายใน Marketplace โดยอัตโนมัติเมื่อพวกเขาอัปโหลดรูปภาพของสิ่งที่พวกเขาต้องการ ทำให้กระบวนการโพสต์รายการขายนั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้น 

ในทางกลับกันจะช่วยให้ผู้ซื้อมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาโดยสิ่งนี้มีประโยชน์เมื่อคุณกำลังมองหาเก้าอี้หนังนิ่มสีน้ำเงินโดยเฉพาะ และ ไม่ใช่แค่เฉพาะโซฟาสีน้ำเงิน 

นอกจากนี้ยังจะช่วยให้คุณค้นหารุ่นที่แน่นอนตามภาพถ่ายของมันได้ ดังนั้นหากคุณเห็นรองเท้า Yeezys ในฟีดของคุณ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นสีอะไร GrokNet สามารถสแกนอัตโนมัติผ่าน Yeezy store ผ่านรายการสินค้าจากร้านจริงที่มีความแม่นยำ ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการค้าหาตามเว็บไซต์อย่างไม่รู้จบ เพราะมันขึ้นอยู่กับรองเท้าคู่ที่คุณเห็นจริง ๆ  จากการแถลงข่าวของ Facebook ระบบใหม่นี้มีความแม่นยำเป็นสองเท่าของรุ่นก่อน 

แต่ในฐานะที่นักช้อป มันอาจจะสามารถบอกคุณได้ ในผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในสินค้าจริงกับที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ขนาดและสเกลของสินค้า อาจมองเห็นได้ยาก เมื่อมองดูที่จอภาพบนมือถือ แทนที่จะถือไว้ในมือของคุณจริง ๆ  

เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว Facebook จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถสร้างภาพสามมิติที่เหมือนของสินค้าของพวกเขาโดยใช้สมาร์ทโฟน ผู้ขายสามารถใช้วิดีโอมาตรฐานของสินค้า และระบบจะต่อประสานเข้ากับมุมมองแบบ 360 องศา ของวัตถุโดยอัตโนมัติ 

ผู้ค้าปลีกบางรายเช่น Ray Ban และ NYX ทำในสิ่งที่ก้าวล้ำยิ่งขึ้น มีการใช้เทคโนโลยี AR เพื่อช่วยขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ใช้ประโยชน์จากระบบ AR และการจดจำใบหน้าที่มีอยู่ใน Facebook ของแบรนด์เหล่านี้

ทำให้สามารถใช้เฉดสีลิปสติกเสมือนจริง หรือ แว่นกันแดดแบบดิจิตอลมาวางไว้บนใบหน้าของผู้ซื้อ เพื่อให้พวกเขาเลือกผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยระบบนี้จะใช้งานเป็นหลักโดย บริษัทจำหน่ายเลนส์ แว่นตา และอุปกรณ์ในการแต่งหน้า แต่ Facebook ก็หวังที่จะขยายเทคโนโลยีดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าและของตกแต่งบ้านเช่นกันในอนาคต

ต้องบอกว่าการมุ่งเข้ามาสู่ตลาด Shopping ของ Facebook นั้นมีความน่าสนใจมาก ๆ อย่างที่เคยประกาศในส่วนของ Facebook Shop รวมถึงเทคโนโลยี Computer Vision ใหม่ในบทความนี้จะเห็นได้ว่า Facebook กำลังก้าวเข้ามาสู่ตลาดใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาล

Facebook พยายามทำให้ประสบการณ์ชอปปิ้งออนไลน์ของลูกค้านั้น ใกล้เคียงกับการช็อปปิ้งในร้านค้าที่เป็น Physical มากยิ่งขึ้นผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงการลงทุนในด้านต่าง ๆ กับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ กับวงการ Shopping Online ในอนาคตที่ Facebook จะเข้ามากินส่วนแบ่งในตลาดนี้ได้มากน้อยเพียงใด และ ความได้เปรียบหลาย ๆ อย่างผ่านฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลของพฤติกรรมผู้บริโภคในแพลตฟอร์ม Facebook นั้นก็ถือว่าเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบเป็นอย่างมากในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ในครั้งนี้นั่นเองครับ

References : https://www.engadget.com/facebook-groknet-ai-shopping-marketplace-184017677.html

Facebook Shops กับก้าวใหม่ครั้งสำคัญในการ Disrupt วงการ Ecommerce ของ facebook

Facebook หวังว่าผู้ใช้ 2.6 พันล้านคนจะเริ่มช็อปปิ้งบนแพลตฟอร์มของตน จากที่มีการเปิดตัวบริการที่แข่งขันโดยตรงกับ Amazon และ eBay

“ ร้านค้าใน Facebook” จะอนุญาตให้ผู้ขายสร้างหน้าร้านดิจิทัลบน Facebook หรือ Instagram บริษัท กล่าว เมื่อวันอังคาร ว่ามันจะได้รับประโยชน์กับผู้ใช้งาน โดยการรวบรวมข้อมูลในสิ่งที่ผู้ซื้อต้องการมากที่สุด

ผู้ใช้จะสามารถเรียกดูผลิตภัณฑ์ธุรกิจ ส่งข้อความเพื่อการซื้อสินค้า และในบางกรณีสามารถซื้อได้โดยตรงผ่านคุณสมบัติการชำระเงินออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัว

Mark Zuckerberg หัวหน้าผู้บริหารของ Facebook กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ FT ว่าเขาได้เร่งแผนสำหรับร้านค้าเพื่อใช้ประโยชน์จากความนิยมในการช็อปปิ้งออนไลน์ในช่วงวิกฤต coronavirus

เขาเสริมว่ายักษ์โซเชียลมีเดียจะสามารถใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการโฆษณาและสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น “ หากคุณเรียกดูร้านค้าภายในแอพของเราหรือซื้ออะไรเราจะเห็นว่าและเราจะสามารถใช้มันเพื่อแสดงคำแนะนำที่ดีกว่าสำหรับสิ่งอื่น ๆ ที่คุณสนใจในอนาคต” เขากล่าวเสริม

ร้านค้า Facebook จะอนุญาตให้ผู้ขายสร้างหน้าร้านดิจิทัลบน Facebook หรือ Instagram
ร้านค้า Facebook จะอนุญาตให้ผู้ขายสร้างหน้าร้านดิจิทัลบน Facebook หรือ Instagram

ร้านค้าจะช่วยให้ธุรกิจ“ ดำเนินการแปลงความสนให้กลายเป็นการขายได้บ่อยขึ้น” เขากล่าวเสริม ในทางกลับกันสิ่งนี้จะกลายเป็นการเสนอราคาที่สูงขึ้นสำหรับการโฆษณาของร้านค้านั่นเอง

ในสหรัฐอเมริกาที่ Facebook ได้เปิดตัวบริการชำระเงินจาก Instagram บริษัท จะเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบัตรเครดิตและการตรวจสอบการฉ้อโกงเพียงเท่านั้น

การเข้าสู่วงการ Ecommerce ครั้งสำคัญของ Facebook แสดงให้เห็นถึงความท้าทายต่อ Amazon เพราะมีผู้ใช้จำนวนมากที่ Facebook สามารถเข้าถึงช่องทางจัดเก็บหน้าร้านได้

ในที่สุดมันก็อาจนำเสนอความท้าทายต่อแพลตฟอร์มการส่งมอบอาหารเช่น Grubhub Mr Zuckerberg แนะนำว่าในระยะยาวมันจะ“ ดี” สำหรับการเป็น Platform ในการสั่งอาหารและภัตตาคาร

อย่างไรก็ตามผู้ก่อตั้ง Facebook กล่าวว่าเขาไม่ได้พยายามเลียนแบบประสบการณ์แบบ end-to-end ของ Amazon และจะทำงานร่วมกับบริการอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่เช่น Shopify ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสร้างร้านค้าออนไลน์และดูแลการวิเคราะห์และการชำระเงิน Mr Zuckerberg กล่าวเพิ่มเติมว่า Facebook จะรวมเข้ากับบริการจัดส่งและโลจิสติกส์

Rich Greenfield หุ้นส่วนที่ปรึกษา LightShed Partners กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

“ ผู้คนไม่ต้องการไปที่เว็บไซต์บุคคลที่สามหรือไปชำระเงินพวกเขาต้องการซื้อแบบคลิกเดียว พวกเขาต้องการให้เรียบง่ายง่าย” เขากล่าว

ในขณะที่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ส่งสัญญาณครั้งสำคัญของ Facebook สำหรับการครอบงำในตลาดนอกเหนือจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ Debra Aho Williamson นักวิเคราะห์จาก eMarketer กล่าว

“ มันจะเป็นการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นระหว่างผู้บริโภคและธุรกิจในแง่สังคม ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำใน Amazon หรือ Google Shopping” เธอกล่าว

ร้านค้า Facebook จะใช้ประโยชน์จากความสามารถในการส่งข้อความของ Facebook: ผู้ใช้จะสามารถติดต่อธุรกิจผ่าน WhatsApp, Messenger หรือ Instagram Direct เพื่อถามคำถามหรือติดตามการส่งสินค้า นอกจากนี้ยังจะมีเครื่องมือสำหรับการสร้างและติดตามโปรแกรม Royalty

Facebook จะทำงานร่วมกับบริการอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่เช่น Shopify © Bloomberg
Facebook จะทำงานร่วมกับบริการอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่เช่น Shopify © Bloomberg

Mr Zuckerberg กล่าวว่า Facebook จะมุ่งเน้นการเปิดตัวในภูมิภาคที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐอเมริกาและยุโรปตะวันตกซึ่ง บริษัท มีทรัพยากรในการดำเนินการธุรกิจ Ecommerce พร้อมอยู่แล้ว

“ ในประเทศที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานมากนัก นั่นเป็นหนึ่งในความท้าทายของการเปิดตัวสิ่งนี้อย่างเต็มที่” เขากล่าว ในระยะยาวเขากล่าวว่าเขามองเห็นระบบที่ผู้ขายจะมีคะแนน และการจัดอันดับ Rating ของผู้ขาย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Facebook มีความทะเยอทะยานในระยะยาวในการเลียนแบบที่เรียกว่า “Super App” เช่น WeChat ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งข้อความซื้อผลิตภัณฑ์และส่งเงินบนแพลตฟอร์มเดียวแบบครบวงจรนั่นเอง

ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ Facebook ที่กำลังมาลุยตลาด Ecommerce แบบเต็มตัว ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยนั้น ก็มีการใช้งานมาบ้างแล้วในส่วนนึง ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ

ความได้เปรียบของ Facebook ที่สำคัญเหนือธุรกิจอื่น ๆ แม้กระทั่งยักษ์ใหญ่ที่สุดอย่าง Amazon นั่นก็คือ ข้อมูลของผู้บริโภค ที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ เรียกได้ว่า Facebook นั้นพร้อมที่จะรุกไปในทุกธุรกิจผ่านข้อมูล Big Data ของเขา

ก่อนหน้านี้ facebook ได้ทำลายธุรกิจ สื่อหนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร ที่ต่างปิดตัวกันถ้วนหน้าหากไม่มีการปรับตัวเข้าสู่ยุค digital รวมถึงการเข้าสู่ตลาดที่ใหญ่มาก ๆ คือตลาด live TV และ VDO

ซึ่งการเข้าสู่ Ecommerce เต็มตัวในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหญ่ที่สำคัญก้าวหนึ่งเลยก็ว่าได้ และกำลังเข้าไปกินเค้กเม็ดเงินที่ใหญ่มาก ๆ ในตลาด Ecommerce รวมถึงในด้านการเงิน Libra Coin ที่ facebook ที่กำลังจะเปิดตัวนั้น แสดงให้เห็นว่า Facebook พร้อมที่จะรุกไปในทุกธุรกิจ ผ่านข้อมูลที่เขามีอยู่อย่างมากมาย

การขับเคลื่อนธุรกิจของ facebook ในด้านต่าง ๆ  ถือว่าสำคัญต่ออนาคตของ facebook เป็นอย่างมาก และเราอาจจะได้เห็น facebook ล้มยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ได้ในเร็ว ๆ วันนี้ก็อาจเป็นไปได้ครับ

References : https://www.ft.com/content/690ee286-99b6-4fa8-b02d-cfd50448a53d