ประวัติ Jho Low ตอนที่ 12 : The Big Boss

ในเดือน กรกฏาคม ปี 2012 หลังจากแผนการของ Low ครั้งที่สองทำได้สำเร็จ มันก็ถึงเวลาที่เขาต้องฉลองครั้งใหญ่ และเป็นโอกาสที่บริษัทของเขาที่ตั้งขึ้นร่วมกับน้องชาย ที่มีชื่อว่า Jynwel Capital ที่เพิ่งเข้าซื้อหุ้นในกิจการของ EMI Music Publishing

ต้องบอกว่า EMI Music นั้น ไม่ใช่บริษัทธรรมดา เพราะมีศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kanye West , Beyonce , Usher , Alicia Keys และ Pharrell Williams ซึ่ง Low กำลังเข้าสู่อุตสาหรรมบันเทิงในอเมริกาอย่างเต็มตัว เพราะ อีกบริษัท อย่าง Red Granite ที่ตั้งร่วมกับ Riza Aziz และ Joey McFarland ได้เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street อยู่แล้วด้วยเช่นกัน

แลปาร์ตี้ค่ำคืนฉลองของพวกเขาจัดขึ้นที่ เรือ Serene บนชายฝั่งของประเทศฝรั่งเศษ เรือที่มีห้องโดยสารสิบห้าห้อง และ มีเหล่าลูกเรืออีกหลายสินคน เรือลำนี้เปรียบเสมือนพระราชวังที่ลอยอยู่เหนืออ่าว และมีบาร์อยู่บนชั้นดาดฟ้า

สิ่งอำนวยความสะดวกในเรือ มีตั้งแต่สระว่ายน้ำ อ่างน้ำวนขนาดใหญ่ ห้องซาวน่า ส่วนของเลานจ์ พร้อมแกรนด์เปียโน และบันไดหินอ่อนสุดหรู ที่เมื่อทอดสมอแล้วนั้น ดาดฟ้าด้านบนจะเปิดออกเหนือน่านน้ำ กลายเป็นห้องอาหารกลางแจ้ง

รายชื่อแขกที่เข้ามาร่วมงานนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็น เซเลบริตี้ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Kanye West , Rihanna ,Chris Brown , Lucacris รวมถึงสมาชิกของราชวงศ์ตะวันออกกลางอีกจำนวนมาก

ซึ่งแน่นอนว่า เงินเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจากเงินพันธบัตร 1MDB ที่เพิ่งได้รับมาแทบจะทั้งสิ้น ซึ่ง Low ได้ทำการดูดเงินกว่าหลายล้านเหรียญ จากการขายพันธบัตรของ Goldman Sachs และความช่วยเหลือที่สำคัญจากกรรมการผู้จัดการของ IPIC อย่าง Qubaisi นั่นเอง

ซึ่ง Low ได้มองหาวิธีที่จะนำเงินมาลงทุนใน EMI ของเขา Low ได้ทำการทำการดึงเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ มาจากบริษัทนอมินีของเขา และเพื่อซ่อนร่องรอยของเงินจำนวนมากเหล่านี้ เขาก็ได้จัดการผ่านกองทุนที่บริหารโดย Amicorp ใน Curacao นั่นเอง

ไม่นานหลังจาก Low ได้กลายเป็นประธานคนใหม่ของ EMI Music Publishing และเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนเขาต้องการเป็นแบบจริงจัง และนี่คือการเล่นใหญ่ของ Low และเขาก็หวังว่า อาณาจักรบันเทิงของเขานั้นจะสร้างผลกำไรเพื่อจ่ายเงินกลับไปที่ 1MDB ได้นั่นเอง

Low รุกหนักธุรกิจบันเทิงด้วยการลงทุนใน EMI Music Publishing
Low รุกหนักธุรกิจบันเทิงด้วยการลงทุนใน EMI Music Publishing

มาถึงตอนนี้ต้องบอกว่า Low นั้น ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างธุรกิจที่แท้จริง ที่สร้างผลกำไรได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น Red Granite ที่่กำลังสร้าง The Wolf of Wall Street รวมถึงข้อตกลงกับ EMI ซึ่ง Low หวังว่า สิ่งเหล่านี้ ที่เขาออกหน้าแบบเต็มตัวไม่ซ่อนอยู่ในมุมมืดเหมือนกับที่ทำกับ 1MDB จะทำให้ทุกคนคลายข้อสงสัยในแหล่งที่มาของความมั่งคั่งของเขาได้นั่นเอง

ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 Low พยายามที่จะโอนเงินจำนวน 110 ล้านดอลลาร์ จากบัญชี BSI ของเขาในสิงค์โปร์ ไปยังอีกหนึ่งธนาคารที่เขาไว้วางใจอย่าง Rothschild ในเมืองซูริค เพื่อนำไปใช้ซื้อแมนชั่นบนถนน Oriole Drive ในเขต Bird Streets ของ Hollywood Hills ซึ่งใกล้ากับบ้านของ DiCaprio

แต่การโอนเงินครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ราบรื่นเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่เขาทำ ก่อนหน้านี้ Low ได้รับเงินจากบริษัท Good Star ซึ่งเป็นบริษัท เชเชลส์ของเขา แล้วส่งไปที่พ่อของเขา แล้ว ให้พ่อของเขาส่งมันกลับมาที่บัญชีของ Low ในวันเดียวกัน ต้องบอกว่ามันเป็นธุรกรรมที่แปลกประหลาด

แน่นอนว่าจุดประสงค์ของการทำธุรกรรมแบบประหลาด ๆ เหล่านี้ก็คือ ทำให้นายธนาคาร Rothschild เชื่อว่า Low นั้นได้รับเงินจากพ่อของเขา และทำให้ดูเหมือนการซื้อคฤหาสน์ บนถนน Bird Street นั้นเป็นส่วนหนึ่งของมรดกของตระกูล Low ซึ่งเขาได้ทำเช่นเดียวกันกับทรัพย์สินอีกมากมาย

แม้การทำครั้งแรก ๆ จะหลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ แต่การทำแบบเดิมซ้ำ ๆ นั้น ทำให้ ฝ่ายกำกับดูแลของ BSI มองเห็นถึงพฤติกรรมเบื้องหลังที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งเริ่มมีการส่งเมล์ถึงข้อสงสัยเหล่านี้มาถึง Yak Yew Chee ที่เป็นพันธมิตรของ Low ใน BSI ที่ประเทศสิงคโปร์

Low จึงได้ทำการอธิบายเส้นทางการเงินเหล่านี้ โดยส่ง email ไปยังฝ่ายกำกับดูแลของ BSI หลังจากทราบเรื่องจาก Yak โดยอธิบายว่า เงินที่เขาโอนไปยังสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นของขวัญที่เขาส่งให้พ่อของเขา เขาได้อธิบายใน email ว่า “เมื่อการสร้างความมั่งคั่งที่ดีเกิดขึ้นจากความเคารพในวัฒนธรรมและโชคลาภที่เกิดขึ้น ซึ่งจากความเคารพเราจะมอบเงินให้พ่อแม่ของเราเสมอ นี่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมของเรา”

“ส่วนในกรณีที่พ่อของฉันได้รับมันเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและความกตัญญูของลูกที่มีต่อพ่อแม่ และการตัดสินใจที่จะโอนเงินกลับมาให้นั้น เป็นประเพณีและเพื่อผลประโยชน์ของความไว้วางใจในครอบครัวฉัน”

“ฉันหวังว่า ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องดังกล่าวซ้ำ ๆ อีก เพราะมันจะเสียเวลาของพวกเราเปล่า ๆ เรามาร่วมกันสร้างความมั่งคั่ง ให้ธนาคาร BSI สามารถเพิ่มขึ้นได้ผ่านธุรกรรมเหล่านี้จะดีกว่า เพราะพวกคุณก็รับประโยชน์จากมัน”

ต้องบอกว่า แม้ชาวบ้านทั่วไปมักถูกสอบถามถึงเรื่องการโอนเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เหล่ามหาเศรษฐีนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เพราะเมื่อถึงตอนนี้ Low นั้นกลายเป็นลูกค้าที่สำคัญที่สุดที่ BSI มี เขาถูกเรียกว่า “Big Boss” ในสำนักงานของสิงค์โปร์ และผู้บริหารระดับสูงของ BSI ก็มักมาร่วมปาร์ตี้กับเขาที่ลาสเวกัส หรือ บนเรือยอชต์เป็นประจำ ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อธุรกิจของ Low ราบรื่น

ภายในไม่กี่วันหลังจาก Low ส่ง email ดังกล่าว ผู้บริหารระดับสูงของ BSI ก็ได้ทำการอนุมัติการโอนเงิน 110 ล้านดอลลาร์ “การโอนเงินภายนครอบครัวนี้นั้นไม่ได้เป็นไปอย่างมีเหตุผลเสมอไป” นายธนาคารอาวุโส ของ BSI เขียนเพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของเจ้าหน้าที่กำกับระเบียบของบริษัท

โอนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสื่อบ้านใน Hollywood Hills
โอนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสื่อบ้านใน Hollywood Hills

แต่ด้วยความที่ Low เริ่มมีความหวาดระแวงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากเริ่มถูกเพ่งเล็ง ทำให้เขาพยายามลบตัวตนของเขาออกไปให้ได้มากที่สุด เขาตั้งค่าบัญชี Gmail ภายใต้ชื่อ Eric Tan ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาในชื่อ “Fat Eric” และเริ่มพยายามใช้มันในการซ่อนข้อตกลงต่าง ๆ ทางธุรกิจ

เมื่อเขาต้องการเปิดบัญชีกับ Falcon Bank ที่บริหารโดย Aabar ตัว Low เองก็ใช้ Gmail ของ Eric Tan เพื่อใช้ในการนัดหมายกับนายธนาคารชาวสวิส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ แม้เมื่อพบกันจริง ๆ Low ได้นำนายธนาคารไปยังบ้านพักของเขาที่เป็นที่อยู่จริง ๆ ของเขาก็ตาม แต่เขาก็ของให้ อ้างอิง Eric Tan ในที่สาธารณะและการติดต่อทาง Email ซึ่ง Low ก็ได้เริ่มใช้ที่อยู่ Gmail “Eric Tan” สำหรับการติดต่อทางธุรกิจส่วนใหญ่

ต้องบอกว่า Low เดินทางมาไกลกว่าที่เขาคิด และตอนนี้เขาจะถอยอีกไม่ได้ นอกเหนือจากเรื่องการบิดเบือนข้อตกลงทางธุรกิจ เขายังใช้ชื่อเท็จในการทำธุรกิจเพื่อบิดเบือนตัวตนของตัวเอง แต่เมื่อถึงตอนนี้ มันก็พิสูจน์ได้ว่าเขายังไม่ถูกจับได้จริง ๆ จัง ๆ ซึ่งต้องบอกว่าเขาผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้อย่างเหลือเชื่อ และดูเหมือนตอนนี้เป้าหมายใหญ่ของเขานั้นจะโฟกัสไปที่ธุรกิจบันเทิง ที่เขาหวังว่าจะสร้างผลตอบแทบกำไร แบบธุรกิจจริง ๆ ให้กับเขาได้บ้างเสียที จะเกิดอะไรขึ้นต่อกับ ชายที่ชื่อ Jho Low โปรดติดตามต่อตอนหน้าครับผม

–> อ่านตอนที่ 13 : Just In Time

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Prologue *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

References Image : http://thetapirtimes.com/2017/02/27/jho-low-wins-oscar-for-role-in-hidden-figures/

ประวัติ Jho Low ตอนที่ 1 : Prologue

President Suites สุดหรู ราคา 25,000 ดอลลาร์ต่อคืน ของ Palazzo ซึ่งเป็นโรงแรมหรูและคาสิโนรีสอร์ทตั้งอยู่ที่เมือง Las Vegas ของประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นที่พักสุดหรูที่สุด มีระเบียงกว้างขวางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งเมือง และการตกแต่งภายในสีขาวที่ทันสมัย รวมถึงห้องคาราโอเกะสุดไฮเทค

สถานที่ที่กำลังจะมีการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับงานปาร์ตี้วันเกิดครบรอบ 31 ปี ของชายที่ชื่อ Jho Low นักธุรกิจหนุ่มชาวมาเลเซีย การฉลองด้วยแชมเปญ สุดแพง ที่พรั่งพร้อมไปด้วยดารา นักร้องชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Swizz Beatz ศิลปินฮิปฮอป ที่เป็นสามีของ Alicia Keys และเมื่อถึงจุดหนึ่ง Leonardo DiCaprio ก็เดินเข้ามาพร้อมกับ Benicio Del Toro เพื่อพูดคุยกับเจ้าของวันเกิดอย่าง Low เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่

ไม่กี่เดือนก่อน บริษัทของ Low ได้ถือหุ้นใน EMI Music Publishing และเขาเป็นผู้สนับสนุนหลักของภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดของ DiCaprio อย่าง The Wolf of Wall Street ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงการถ่ายทำ

Low ผู้สนับสนุนหลักหนังของ Dicrapio อย่าง The Wolf of Wall Street
Low ผู้สนับสนุนหลักหนังของ Dicrapio อย่าง The Wolf of Wall Street

ต้องบอกว่า ค่ำคืนฉลองวันเกิดของ Low ที่ Palazzo นั้นถือเป็นจุดสูงสุดของความทะเยอทะยานของเขา รายชื่อแขกที่เข้ามาร่วมงาน มีทั้งดารา Hollywood ชื่อดังมากมาย นายธนาคารชั้นนำจาก Goldman Sach หรือ บุคคลสำคัญที่อยู่ในเครือราชวงศ์ของตะวันออกกลาง

พวกดารา รวมถึงศิลปินหลายคน จาก Hollywood นั้น ได้รับเงินหลายแสนดอลลาร์ เพื่อให้มาร่วมงานดังกล่าว และแน่นอน เหล่าศิลปินดาราเหล่านี้ ก็ต่างกระตือรือร้นที่จะทำให้เจ้าของวันเกิดอย่าง Low มีความสุขที่สุดในงานฉลองวันเกิดของเขา

Swizz Beatz สามีของ Alicia ได้ เซอร์ไพรซ์ Low ด้วยของขวัญวันเกิดชิ้นพิเศษ เป็นอุปกรณ์ดีเจราคาแพง ซึ่งประดับประดาด้วยรูปแพนด้า ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นการให้เพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่ Low มอบให้กับพวกเขามาก่อนหน้านี้นั่นเอง

ไม่มีใครรู้เรื่องราวจริง ๆ ของ Low ว่าชายผู้นี้เป็นใคร และ ร่ำรวยมาได้อย่างไร พวกเขาสนแค่เงินของ Low เพียงเท่านั้น แม้คุณจะป้อนชื่อ Jho Low ลงไปใน Google ก็จะพบว่าข้อมูลของเขานั้นมีน้อยมาก ๆ

บางคนกล่าวว่า Low เป็นพ่อค้าอาวุธในเอเชีย บางคนก็อ้างว่าเขามีความใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือบางข้อสันนิษฐานนั้น อาจจะมาจากมรดกจากปู่ชาวจีนของเขา แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครสนใจเรื่องดังกล่าว มากนัก เพราะพวกเขาสนใจแต่เงินของ Low เพียงเท่านั้น

เมื่อถึงเวลา 21.00 น. เหล่าแขกของ Low ก็เริ่มเดินทางกันเข้ามาเพื่อเข้าสู่งานหลักของปาร์ตี้ครั้งนี้ และเพื่อหลีกเลี่ยงปาปารัซซี่ เหล่าเซเลบริตี้ ทั้งหลาย ต้องเดินผ่านช่องทางพิเศษ เพื่อไปขึ้นรถลีมูซีน เพื่อพาพวกเขาไปยังสถานที่จัดงานหลัก

ดารา เซเลบ ชื่อดังทั่ว Hollywood ต่างมาร่วมเซอร์ไพรซ์ Low
ดารา เซเลบ ชื่อดังทั่ว Hollywood ต่างมาร่วมเซอร์ไพรซ์ Low

ที่นั่นทุกอย่างจะเป็นความลับ แขกทุกคนต้องมีการลงนามข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลภายในงาน และ ต้องส่งมอบมือถือให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเข้างาน แบบไม่มีข้อยกเว้น

เหล่าแขกซุปเปอร์เริ่มทยอยกันมาเข้างาน ไม่ว่าจะเป็น Kanye West และ Kim Kardashian , Paris Hilton หรือ Bradley Cooper นักแสดงจาก The Hangover Part III หรือแม้กระทั่งนักร้องชื่อดังอย่าง Britney Spears เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวม Superstar จากทุกทั่วสารทิศเลยก็ว่าได้

เหล่าดาราชื่อดังต่างเข้ามาเพื่อ เซอร์ไพรซ์วันเกิดให้กับ Low ต้องบอกว่าเป็นจุดสูงสุดของผู้ชายคนหนึ่งก็ว่าในคืนสุดพิเศษครั้งนี้ Psy นักร้องชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ได้ออกมาเล่นเพลงสดในเพลงชื่อดังของเขาอย่าง “Gangnam Style” ตามที่เหล่าฝูงชน และเหล่าเซเลบริตี้เรียกร้อง

ในชั่วโมงต่อมามีการแสดงจากศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Redfoo และ Party Rock Crew , Busta Rhymes , Q-Tip , Pharrell และ Swizz Beatz รวมถึง Chris Brown ที่ขึ้นมาขับร้องเพลง “Everyday Birthday” ให้กับเจ้าของวันเกิดอย่าง Low

Dicaprio ก็ได้ขึ้นไปบนเวทีเช่นเดียวกัน ในช่วง Session พิเศษ จากนั้นก็มีเค้กแต่งงานขนาดยักษ์ถูกนำขึ้นมาล้อ Low บนเวที อีกครู่หนึ่ง Britney Spears ที่สวมชุดสีทอง ได้เข้าไปร่วมเต้นกับนักเต้นที่มีการจ้างมา และ แสดงความยินดี “Happy Birthday” กับ Low

เรียกได้ว่าในคืนนั้น Low ได้รับของขวัญเซอร์ไพรซ์มากมาย จากเหล่าแขกที่มางานปาร์ตี้วันเกิดของเขาในครั้งนี้ หลังจากนั้นเวลาเที่ยงคืน ยี่สิบนาที ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดอกไม้ไฟ พลุ ที่จุดประกายไปเต็มท้องฟ้าในค่ำคืนที่แสนพิเศษของ Low นั่นเอง

หลังจากค่ำคืนสุดแสนพิเศษของ Low จบไปอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มมีบทความพาดหัวในเว๊บไซต์ของสถานีวิทยุท้องถิ่น KROQ “ขณะที่พวกคุณกำลังนอนหลับ มหาเศรษฐีชาวจีนคนหนึ่งกำลังมีงานปาร์ตี้แห่งปี” ซึ่งมีการเข้าใจผิดในสัญชาติของ Low เพราะในบทความใช้ชื่อเขาว่า “Jay Low”

แต่นี้ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่่ชื่อของ Low ถูกปรากฏบนสื่อ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสิ้นเปลือง และแน่นอนว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของเขาอย่างแน่นอน แต่ต้องบอกว่าปาร์ตี้วันเกิดครบรอบ 31 ปีของเขาที่เวกัส ถือเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในอาชีพจอมหลอกลวงของเขาแล้ว

แล้ว เรื่องราวของชายที่ชื่อ Jho Low ชายลึกลับจากประเทศมาเลเซีย ที่ใช้เงินอย่างบ้าคลั่งในเมืองที่พร้อมจะสูบเงินของเขาไปอย่างเต็มที่อย่างประเทศอเมริกา ดารา เซเลบ นักธุรกิจมากหน้าหลายตา เข้าไปพัวพันกับเขา เพื่อผลประโยชน์ที่เขามอบให้อย่างงดงาม แล้ว ชายคนนี้ก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อย่าลืมติดตามต่อในตอนหน้านะครับผม

–> อ่านตอนที่ 2 : The Invention of Jho Low

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

References Image : https://www.theedgemarkets.com/article/jho-low-splurged-millions-birthday-party-las-vegas